The second research initiative towa

The second research initiative towards the construction of a model for the alignment between software users and suppliers came from a research specifically concerning the software sector. Differently from the Telecommunications industry, in this study there was no initial model to be used as a basis, because at the market level, software companies are usually classified as “product developers” or “service providers”, and this categorization is useless to analyze the linkages between the development process and the core competences at software companies [8].
Two surveys were realized, aiming to gain preliminary insight about the differentiation of software companies according to their development practices. The first survey was designed and implemented using the guidelines proposed by Forza [17]. The content of the questionnaire was based on the “ISO/IEC 12207 - Software Life Cycle Description” [12], incorporating questions about strategic priorities, commercial practices, and software development activities.
Among the proposed questions, respondents were asked about their commercial practices, including number of active projects and number of active customers at their business units. Software management deals with the concepts, methods, and techniques for managing a software project and its development activities [18]. In this context, each software project can be considered a “unit of analysis” for a software company, since a complete “software life cycle”, which include software management activities and software development activities, will be performed each time a software project is executed.
Each software project generates only one final system, and the number of customers that can benefit from this project output (final system) generates a perspective of scale for the result of a software project. If a project output has thousands of potential customers, corporate strategy should be based for mass-selling; on the other extreme, if the number of customers that can benefit from this project output is the initial customer only, the development company should focus on selling more software projects for this specific customer.
As a consequence, the relationship between total number of customers and total number of projects in a software company reveals the company’s specialization towards customized or mass development. Therefore, an analysis of the obtained data using the relationship between number of active customers and number of active projects to segment software companies revealed three relevant categories:
. • Customer Oriented: companies with less than one customer per project, usually developing several software projects for few specific customers. The main objective is to develop software on demand for their customers; as a consequence, the stronger the customer, the bigger the opportunities for the software company.
. • Service Oriented: companies with few customers per project. They usually work with few software systems and provide services related with these systems for their customers, including software customization, implementation, user training and software operation (outsourcing).
. • Product Oriented: companies with several customers per project, usually working in the development of standard software solutions, which are commercialized with several other companies.

Based on this new categorization, we could verify that services and products at the software market can be divided as presented in table 2:

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความคิดริเริ่มงานวิจัยสองต่อการก่อสร้างแบบสำหรับการจัดตำแหน่งระหว่างผู้จำหน่ายและผู้ใช้ซอฟต์แวร์มาจากวิจัยเกี่ยวกับภาคซอฟต์แวร์โดยเฉพาะ แตกต่างจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ในการศึกษานี้ มีรุ่นไม่เริ่มต้นที่จะใช้เป็นพื้นฐาน เนื่องจากในระดับตลาด บริษัทซอฟต์แวร์ที่มักจะจัดเป็น "นักพัฒนาผลิตภัณฑ์" หรือ "ผู้ให้บริการ" และการจัดประเภทนี้เป็นประโยชน์ในการวิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างการพัฒนาและ competences หลักที่บริษัทซอฟต์แวร์ [8]
สองสำรวจได้ตระหนัก มุ่งให้เข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับการสร้างความแตกต่างของบริษัทซอฟต์แวร์ตามแนวทางการพัฒนาของพวกเขา การสำรวจครั้งแรกถูกออกแบบ และดำเนินการโดยใช้แนวทางที่เสนอ โดย Forza [17] เนื้อหาของแบบสอบถามเป็นไปตาม "มาตรฐาน ISO/IEC 12207 –ซอฟต์แวร์วงจรชีวิตคำ" [12], อีกทั้งยังมีคำถามเกี่ยวกับระดับความสำคัญเชิงกลยุทธ์ วิธีปฏิบัติทางการค้า และกิจกรรมการพัฒนาซอฟต์แวร์
ผู้เสนอคำถาม ตอบถูกถามเกี่ยวกับการปฏิบัติทางการค้า รวมโครงการที่ใช้งานอยู่และจำนวนลูกค้าที่ใช้งานอยู่ที่หน่วยธุรกิจต่าง ๆ จัดการซอฟต์แวร์เกี่ยวข้องกับแนวคิด วิธีการ และเทคนิคการจัดการโครงการซอฟต์แวร์และกิจกรรมการพัฒนา [18] ในบริบทนี้ แต่ละโครงการซอฟต์แวร์ถือได้ว่าเป็น "หน่วยวิเคราะห์" สำหรับบริษัทซอฟต์แวร์ ตั้งแต่การเสร็จสมบูรณ์ "ซอฟต์แวร์วงจรชีวิต" ซึ่งรวมกิจกรรมซอฟต์แวร์จัดการและกิจกรรมการพัฒนาซอฟต์แวร์ จะดำเนินการแต่ละครั้งที่ดำเนินการโครงการซอฟต์แวร์
แต่ละโครงการซอฟต์แวร์สร้างระบบเดียวสุดท้าย และหมายเลขของลูกค้าที่ได้รับประโยชน์จากโครงการนี้ผลผลิต (ขั้นสุดท้ายระบบ) สร้างมุมมองของสเกลสำหรับผลลัพธ์ของโครงการซอฟต์แวร์ ถ้าผลลัพธ์โครงการมีมากมายของลูกค้าที่มีศักยภาพ ควรใช้กลยุทธ์ขององค์กรโดยรวมขาย บนสุดอื่น ๆ ถ้าหมายเลขของลูกค้าที่ได้รับประโยชน์จากผลผลิตโครงการนี้ ลูกค้าเริ่มต้นเท่านั้น บริษัทพัฒนาควรมุ่งขายโครงการซอฟต์แวร์เพิ่มเติมสำหรับลูกค้าเฉพาะนี้
ผล ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนลูกค้าและจำนวนโครงการในบริษัทซอฟต์แวร์เผยให้เห็นถึงความเชี่ยวชาญของบริษัทสู่การพัฒนาที่กำหนดเอง หรือโดยรวม ดังนั้น การวิเคราะห์ข้อมูลได้รับโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนของลูกค้าที่ใช้งานอยู่และหมายเลขของเซ็กเมนต์ที่บริษัทซอฟต์แวร์ใช้งานโครงการเปิดเผยประเภทสามที่เกี่ยวข้อง:
• Oriented ลูกค้า: บริษัทที่ มีลูกค้าน้อยหนึ่งสำหรับแต่ละโครงการ มักจะพัฒนาโครงการซอฟต์แวร์ต่าง ๆ สำหรับลูกค้าที่เฉพาะเจาะจงเพียงไม่กี่ วัตถุประสงค์หลักคือการ พัฒนาซอฟต์แวร์ตามความต้องการของลูกค้า เป็นสัจจะการ ลูกค้าที่แข็งแกร่ง โอกาสที่ใหญ่กว่าสำหรับบริษัทซอฟต์แวร์
. • Oriented บริการ: บริษัทที่ มีลูกค้าน้อยต่อโครงการ พวกเขามักจะทำงานกับบางซอฟต์แวร์ระบบ และให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบเหล่านี้สำหรับลูกค้าของพวกเขา รวมถึงการปรับแต่งซอฟต์แวร์ งาน ฝึกอบรมผู้ใช้ และซอฟต์แวร์การดำเนินการ (outsourcing)
. •ผลิตภัณฑ์ Oriented: บริษัท มีลูกค้าหลายต่อโครงการ มักจะทำงานในการพัฒนาโซลูชั่นซอฟต์แวร์มาตรฐาน ซึ่งมี commercialized กับบริษัทอื่น ๆ หลาย

ตามการจัดประเภทใหม่นี้ เราสามารถตรวจสอบว่า สามารถแบ่งเป็นผลิตภัณฑ์ในตลาดซอฟต์แวร์และบริการที่แสดงในตารางที่ 2:

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความคิดริเริ่มการวิจัยที่สองที่มีต่อการก่อสร้างของรูปแบบสำหรับการจัดตำแหน่งระหว่างผู้ใช้ซอฟแวร์และซัพพลายเออร์มาจากการวิจัยโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับภาคซอฟต์แวร์ แตกต่างจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคมในการศึกษานี้ไม่พบว่ามีรูปแบบการเริ่มต้นที่จะใช้เป็นพื้นฐานเพราะในระดับตลาดที่ บริษัท ซอฟต์แวร์จะจัดมักจะเป็น "นักพัฒนาผลิตภัณฑ์" หรือ "ผู้ให้บริการ" และการจำแนกประเภทนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะวิเคราะห์ ความเชื่อมโยงระหว่างการพัฒนาและสมรรถนะหลักที่ บริษัท ซอฟแวร์ [8]
สองสำรวจได้ตระหนักเล็งที่จะได้รับทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับความแตกต่างของ บริษัท ซอฟต์แวร์ตามการพัฒนาของพวกเขา การสำรวจครั้งแรกที่ได้รับการออกแบบและดำเนินการโดยใช้แนวทางที่เสนอโดยฟอร์ซา [17] เนื้อหาของแบบสอบถามที่ได้รับการขึ้นอยู่กับ "มาตรฐาน ISO / IEC 12207 - ซอฟท์แวคำอธิบายวงจรชีวิต" [12] การใช้มาตรการคำถามเกี่ยวกับลำดับความสำคัญของยุทธศาสตร์การค้าและกิจกรรมการพัฒนาซอฟต์แวร์
ในบรรดาคำถามที่นำเสนอผู้ตอบแบบสอบถามถูกถามเกี่ยวกับการปฏิบัติทางการค้าของพวกเขา รวมทั้งจำนวนโครงการที่ใช้งานและจำนวนของลูกค้าที่ใช้งานในทุกหน่วยธุรกิจของพวกเขา ข้อเสนอการจัดการซอฟต์แวร์ที่มีแนวคิดวิธีการและเทคนิคในการบริหารจัดการโครงการซอฟต์แวร์และกิจกรรมการพัฒนา [18] ในบริบทนี้โครงการซอฟต์แวร์แต่ละคนจะสามารถได้รับการพิจารณาเป็น "หน่วยในการวิเคราะห์" บริษัท ซอฟแวร์ที่สมบูรณ์ตั้งแต่ "วงจรชีวิตของซอฟต์แวร์" ซึ่งรวมถึงกิจกรรมการจัดการซอฟต์แวร์และกิจกรรมการพัฒนาซอฟแวร์จะได้รับการดำเนินการครั้งที่โครงการซอฟต์แวร์จะถูกดำเนินการแต่ละ .
โครงการซอฟต์แวร์แต่ละสร้างระบบเดียวสุดท้ายและจำนวนของลูกค้าที่สามารถได้รับประโยชน์จากการส่งออกโครงการนี้ (ระบบสุดท้าย) สร้างมุมมองของระดับผลของโครงการซอฟต์แวร์ หากผลโครงการมีหลายพันของลูกค้าที่มีศักยภาพกลยุทธ์ขององค์กรควรจะขึ้นอยู่กับมวลขาย; ที่มาก ๆ ถ้าจำนวนลูกค้าที่สามารถได้รับประโยชน์จากการส่งออกโครงการนี้เป็นครั้งแรกของลูกค้าเท่านั้น บริษัท พัฒนาควรมุ่งเน้นไปที่การขาย โครงการซอฟต์แวร์มากขึ้นสำหรับลูกค้าที่เฉพาะเจาะจงนี้
เป็นผลให้ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนของลูกค้าและจำนวนรวมของโครงการใน บริษัท ซอฟต์แวร์ที่แสดงให้เห็นความเชี่ยวชาญของ บริษัท ต่อการพัฒนาที่กำหนดเองหรือมวล ดังนั้นการวิเคราะห์ข้อมูลที่ได้รับโดยใช้ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนของลูกค้าที่ใช้งานและจำนวนของโครงการที่ใช้งานกับกลุ่ม บริษัท ซอฟต์แวร์เปิดเผยสามหมวดหมู่ที่เกี่ยวข้อง:
. •ลูกค้า Oriented: บริษัท ที่มีน้อยกว่าหนึ่งในลูกค้าต่อโครงการมักจะพัฒนาโครงการซอฟต์แวร์หลายสำหรับลูกค้าที่เฉพาะเจาะจงไม่กี่ วัตถุประสงค์หลักคือการพัฒนาซอฟต์แวร์ในความต้องการสำหรับลูกค้าของพวกเขาเป็นผลให้ความแข็งแรงของลูกค้าที่ใหญ่กว่าโอกาสสำหรับ บริษัท ซอฟต์แวร์
• Service Oriented. บริษัท ที่มีลูกค้าไม่กี่ต่อโครงการ พวกเขามักจะทำงานร่วมกับระบบซอฟต์แวร์ไม่กี่และให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบเหล่านี้ให้กับลูกค้ารวมถึงการปรับแต่งซอฟต์แวร์การดำเนินการฝึกอบรมผู้ใช้และการดำเนินงานซอฟแวร์ (เอาท์ซอร์ส) ของพวกเขา
•ผลิตภัณฑ์เชิง. บริษัท ที่มีลูกค้าหลายต่อโครงการมักจะทำงานในการพัฒนา ซอฟแวร์มาตรฐานที่ได้รับการเชิงพาณิชย์กับ บริษัท อื่น ๆ อีกหลายตามหมวดหมู่ใหม่นี้เราสามารถตรวจสอบว่าสินค้าและบริการที่ตลาดซอฟแวร์สามารถแบ่งออกตามที่นำเสนอในตารางที่ 2:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

2 การวิจัยริเริ่มไปสู่การสร้างรูปแบบการจัดตำแหน่งระหว่างผู้ใช้ซอฟต์แวร์และซัพพลายเออร์ที่มาจากการวิจัยโดยเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับภาคซอฟต์แวร์ แตกต่างจากอุตสาหกรรมโทรคมนาคม ในการศึกษานี้ไม่มีโมเดลเริ่มต้นที่จะใช้เป็นหลัก เพราะในระดับตลาดบริษัทซอฟต์แวร์มักจะจัดเป็น " นักพัฒนาผลิตภัณฑ์ " หรือ " ผู้ให้บริการ " และประเภทนี้ไม่มีประโยชน์ที่จะวิเคราะห์ความเชื่อมโยงระหว่างการพัฒนาทักษะกระบวนการและหลักที่ บริษัท ซอฟต์แวร์ [ 8 ]
สองการสำรวจได้ตระหนักมุ่งมั่นที่จะได้รับความเข้าใจเบื้องต้นเกี่ยวกับความแตกต่างของ บริษัท ซอฟต์แวร์ตามวิธีปฏิบัติของการพัฒนาการสำรวจครั้งแรกได้รับการออกแบบและดำเนินการ การใช้แนวทางที่เสนอโดย Forza [ 17 ] เนื้อหาของแบบสอบถามตาม " ISO / IEC 12207 ซอฟต์แวร์วงจรชีวิตรายละเอียด " [ 12 ] รวมคำถามเกี่ยวกับความสำคัญเชิงกลยุทธ์เชิงปฏิบัติ และกิจกรรมการพัฒนาซอฟต์แวร์
ระหว่างเสนอคำถาม ผู้ตอบแบบสอบถามถามเกี่ยวกับการปฏิบัติในเชิงพาณิชย์ของพวกเขารวมถึงจำนวนของโครงการที่ใช้งานอยู่ และจำนวนลูกค้าที่ใช้งานในหน่วยธุรกิจของพวกเขา การจัดการซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับแนวคิด วิธีการและเทคนิคการจัดการซอฟต์แวร์โครงการและกิจกรรมการพัฒนา [ 18 ] ในบริบทนี้ แต่ละโครงการซอฟต์แวร์ที่สามารถจะถือว่าเป็น " หน่วยของการวิเคราะห์ " สำหรับบริษัทซอฟต์แวร์ ตั้งแต่ที่สมบูรณ์ซอฟต์แวร์ " วงจรชีวิต "ซึ่งรวมถึงกิจกรรมการจัดการซอฟต์แวร์และการพัฒนาซอฟต์แวร์กิจกรรมจะดำเนินการในแต่ละเวลาของโครงการซอฟต์แวร์คือประหารชีวิต
แต่ละโครงการซอฟต์แวร์สร้างเพียงหนึ่งสุดท้ายของระบบ และจำนวนลูกค้าที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ออก ( ระบบสุดท้าย ) สร้างมุมมองของระดับผลของโครงการซอฟต์แวร์ถ้าออกโครงการมีหลายพันของลูกค้าที่มีศักยภาพ , กลยุทธ์องค์กร ควรใช้สำหรับมวลขาย ; ในอื่น ๆที่รุนแรง หากจำนวนลูกค้าที่ได้ประโยชน์จากโครงการนี้ ออก เป็น ลูกค้า เริ่มต้นเพียง บริษัท การพัฒนาควรเน้นการขายโครงการซอฟต์แวร์เพิ่มเติมสำหรับลูกค้าที่เฉพาะเจาะจงนี้
ตามคำขอความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนลูกค้าและจำนวนของโครงการในบริษัทซอฟต์แวร์ พบความเชี่ยวชาญของบริษัทต่อเอง หรือการพัฒนามวล ดังนั้น การวิเคราะห์ข้อมูลโดยการใช้ความสัมพันธ์ระหว่างจำนวนของลูกค้าที่ใช้งาน และจำนวนงานโครงการกลุ่มบริษัทซอฟต์แวร์พบสามประเภทที่เกี่ยวข้อง :

- มุ่งเน้นลูกค้าบริษัทที่มีน้อยกว่าลูกค้าต่อโครงการ มักจะพัฒนาโครงการซอฟต์แวร์หลายสำหรับลูกค้าที่เฉพาะเจาะจงบางอย่าง วัตถุประสงค์หลักคือ เพื่อพัฒนาซอฟต์แวร์ตามความต้องการของลูกค้าของพวกเขา เป็นผลให้แข็งแกร่ง ลูกค้าที่ใหญ่กว่าโอกาสสำหรับ บริษัท ซอฟต์แวร์

- มุ่งเน้นการให้บริการ : บริษัทกับลูกค้าไม่กี่ ต่อโครงการพวกเขามักจะทำงานกับระบบซอฟต์แวร์ไม่กี่และให้บริการที่เกี่ยวข้องกับระบบเหล่านี้ให้กับลูกค้าของพวกเขา รวมถึงการปรับแต่ง การใช้งานซอฟต์แวร์ การฝึกอบรมผู้ใช้และซอฟต์แวร์การดำเนินงาน ( Outsourcing )

ผลิตภัณฑ์ที่มุ่งเน้นบริการ : บริษัทกับลูกค้าหลายต่อโครงการมักจะทำงานในการพัฒนาโซลูชั่นซอฟต์แวร์มาตรฐานซึ่งในเชิงพาณิชย์กับ บริษัท อื่น ๆ

ตามแบบใหม่นี้ เราสามารถตรวจสอบว่าผลิตภัณฑ์และบริการในตลาดซอฟต์แวร์สามารถแบ่งออกได้เป็น แสดงในตารางที่ 2 :