On the other hand, if a child has a

On the other hand, if a child has a parent that consistently understands and responds to her needs, it leads to what attachment theory pioneer John Bowlby called “a secure base.” This experience of being understood and cared for is imprinted on the brain like grooves in a record, and the child uses that experience as a model for future relationships. It functions almost like a mental security blanket, which he can carry and refer to throughout his life.
Sounds pretty important, right? But according to Siegel, while the concept is well known to most psychologists, it hasn’t really made its way into the hands of regular parents. When parents hear the word “attachment”, many think of “attachment parenting”, a term coined by Dr. Bill Sears, Associate Clinical Professor of Pediatrics at the University of California, Irvine, School of Medicine and author of more than 30 books on childcare.
There is a movement based on Sears’ work, in which parents attempt to extend the womb experience in order to ease their babies into the world. While the tenets of attachment parenting are interpreted in different ways, the bulk of parents who follow the attachment parenting path choose to co-sleep, “wear” their babies in a soft carrier, breastfeed on cue, and practice stay at home parenting.
It’s hard work, but proponents say it’s worth it. According to Sears, attachment kids whine less, listen more, are more sensitive to their friends and their parents, are much more able and willing to share, show compassion, and develop confidence. That’s because they spend the first few months of their lives as “Velcro babies”, kept emotionally and physically close at all times.
Lysa Parker, one of the founders of Attachment Parenting International, which is based on Sears’ work, says that infancy presents a small window of opportunity in which to reap huge developmental rewards. “We know that the human infant is the least developed of all mammals and only 25% of their brain is developed at birth, so they’re dependent on their parents for their very survival,” Parker says. “What’s exciting to us is that neuroscience over the past years has enlightened us that it’s not nature versus nurture, it’s nature and nurture. The way the infant’s brain develops is directly correlated to attachment”. Parker says that “when a child is allowed to do what he’s born to do … clinging, sucking, crying, and other attachment forming behaviors, then his brain develops in a natural way. That’s what over sixty years of research keeps proving over and over again.”
Siegel says the neuroscience points to something else: the most robust predictor of a child’s “security of attachment” is actually the parents’ own self-understanding. “Amazingly, the most important thing a parent can do, if you look at the research,” Siegel says, “is understand themselves. The research clearly shows that self- understanding and being open to your own feelings and the feelings of your child, is the best predictor of child attachment.”
At the heart of it all is the fact that we are social beings and that our brains are hard-wired to connect with others. The caregiving children receive, Siegel says, activates the brain in specific ways and that activation leads to the growth of explicit connections in the brain itself. In other words, the way you parent has a direct affect on the way in which your child's brain develops.
Love itself is not enough, Siegel says. Neither is proximity. And while we are a culture who loves to devour prescriptive parenting books, “no amount of reading will help” if you don’t internalize one key point: parents need to develop their own “mind-sight” (the ability to examine thoughts, feelings, perceptions, sensations, memories, beliefs, attitudes and intentions of others as well as ourselves) and that of their children.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในทางตรงกันข้ามถ้าเด็กมีพ่อแม่ที่สม่ำเสมอเข้าใจและตอบสนองต่อความต้องการของเธอจะนำไปสู่​​สิ่งที่แนบมากับจอห์นเป็นผู้บุกเบิกทฤษฎี Bowlby เรียกว่า "ฐานการรักษาความปลอดภัย." ประสบการณ์จากการทำความเข้าใจและการดูแลนี้จะตราตรึงใจในสมองเช่น ร่องในการบันทึกและเด็กจะใช้ประสบการณ์ที่เป็นแบบจำลองสำหรับความสัมพันธ์ในอนาคตทำงานได้เกือบจะเหมือนผ้าห่มการรักษาความปลอดภัยทางจิตซึ่งเขาสามารถดำเนินการและหมายถึงตลอดชีวิตของเขา.
เสียงที่สำคัญสวยใช่มั้ย? แต่ตามที่ซีเกลขณะที่แนวคิดเป็นที่รู้จักกันดีนักจิตวิทยาส่วนใหญ่ก็ยังไม่ได้ทำจริงๆทางเข้าไปในมือของพ่อแม่ปกติ เมื่อพ่อแม่ได้ยินคำว่า "สิ่งที่แนบมา" จำนวนมากคิดว่าของ "สิ่งที่แนบมาเลี้ยงดู" คำประกาศเกียรติคุณโดยดร เซียร์บิลศาสตราจารย์คลินิกร่วมงานของกุมารเวชศาสต​​ร์ที่มหาวิทยาลัยแห่งแคลิฟอร์เนียเออร์, School of Medicine และผู้เขียนกว่า 30 หนังสือเกี่ยวกับการดูแลเด็ก
มีการเคลื่อนไหวขึ้นอยู่กับการทำงานของเซียร์ในการที่พ่อแม่พยายามที่จะขยายประสบการณ์มดลูกเพื่อบรรเทาทารกของพวกเขาเข้าไปในโลกคือ ในขณะที่หลักคำสอนของพ่อแม่สิ่งที่แนบมาจะถูกตีความในรูปแบบที่แตกต่างกันเป็นกลุ่มของพ่อแม่ผู้ปกครองที่ติดตามเส้นทางการเลี้ยงดูที่แนบมาเลือกที่จะร่วมหลับ, "ใส่" ทารกของพวกเขาในผู้ให้บริการซอฟท์, นมลูกคิวและการปฏิบัติเข้าพักที่บ้านพ่อแม่.
มันทำงานหนัก proponents แต่บอกว่ามันคุ้มค่า ตามที่เซียร์, เด็กสิ่งที่แนบมาสะอื้นน้อยฟังมากขึ้น, มีความไวต่อเพื่อนและพ่อแม่ของพวกเขามีมากที่สามารถและเต็มใจที่จะแบ่งปัน,แสดงความเห็นอกเห็นใจและพัฒนาความมั่นใจ ว่าเป็นเพราะพวกเขาใช้เวลาสองสามเดือนแรกของชีวิตของพวกเขาในฐานะ "เด็กทารกเวลโคร" เก็บอารมณ์และร่างกายปิดตลอดเวลา
Lysa Parker หนึ่งในผู้ก่อตั้งของสิ่งที่แนบเลี้ยงดูประเทศซึ่งจะขึ้นอยู่กับการทำงานของเซียร์กล่าวว่าวัยเด็กที่มีการจัดหน้าต่างเล็ก ๆ ของโอกาสในการที่จะเก็บเกี่ยวผลตอบแทนการพัฒนาขนาดใหญ่"เรารู้ว่าทารกของมนุษย์คือการพัฒนาน้อยที่สุดของสัตว์ทั้งหมดและเพียง 25% ของสมองของพวกเขาคือการพัฒนาที่เกิดดังนั้นพวกเขาจะขึ้นอยู่กับพ่อแม่ของพวกเขาเพื่อความอยู่รอดมากของพวกเขา" ปาร์กเกอร์พูดว่า "มีอะไรที่น่าตื่นเต้นสำหรับเราคือการที่ประสาทในช่วงหลายปีที่ผ่านมาได้รู้แจ้งเราว่ามันไม่ธรรมชาติเมื่อเทียบกับการรักษามันเป็นธรรมชาติและรักษาทางสมองของทารกพัฒนามีความสัมพันธ์โดยตรงกับสิ่งที่แนบมา " ปาร์กเกอร์กล่าวว่า "เมื่อเด็กได้รับอนุญาตให้ทำในสิ่งที่เขาเกิดมาเพื่อทำ ... เกาะดูดร้องไห้และสิ่งที่แนบอื่น ๆ สร้างพฤติกรรมแล้วสมองของเขาพัฒนาในทางธรรมชาติ นั่นคือสิ่งที่กว่าหกสิบปีของการวิจัยช่วยให้พิสูจน์ซ้ำแล้วซ้ำอีก "
ซีเกลกล่าวว่าจุดประสาทอย่างอื่น.ทำนายที่แข็งแกร่งที่สุดของ "การรักษาความปลอดภัยของสิ่งที่แนบมา" ของเด็กเป็นจริงความเข้าใจตนเองของพ่อแม่ของตัวเอง "น่าอัศจรรย์สิ่งที่สำคัญที่สุดที่ผู้ปกครองสามารถทำถ้าคุณมองไปที่การวิจัย" ซีเกลกล่าวว่า "จะเข้าใจตัวเอง การวิจัยแสดงให้เห็นชัดเจนว่าความเข้าใจตนเองและการเปิดให้ความรู้สึกของคุณเองและความรู้สึกของลูกของคุณเป็นตัวบ่งชี้ที่ดีที่สุดของสิ่งที่แนบเด็ก. "
ที่หัวใจของมันทั้งหมดเป็นความจริงที่เราเป็นสิ่งมีชีวิตทางสังคมและการที่สมองของเราจะยากสายในการเชื่อมต่อกับคนอื่น ๆ เด็กได้รับการดูแล, ซีเกลกล่าวว่าป็นสมองในรูปแบบที่เฉพาะเจาะจงและการใช้งานที่นำไปสู่​​การเจริญเติบโตของการเชื่อมต่อที่ชัดเจนในสมองตัวเอง ในคำอื่น ๆทางผู้ปกครองคุณจะมีอิทธิพลโดยตรงต่อวิธีการที่สมองของเด็กพัฒนา. รัก
ตัวเองไม่ได้มากพอที่ซีเกลกล่าวว่า ไม่เป็นความใกล้ชิด และในขณะที่เรามีวัฒนธรรมที่รักการกินหนังสือเลี้ยงดูกำหนด "จำนวนของการอ่านจะช่วยให้ไม่" ถ้าคุณไม่ internalize จุดหนึ่งที่สำคัญพ่อแม่ต้องพัฒนาตัวเอง "สายตาใจ" พวกเขา (ความสามารถในการตรวจสอบความคิด, ความรู้สึกการรับรู้ความรู้สึกความทรงจำความเชื่อทัศนคติและความตั้งใจของผู้อื่นเช่นเดียวกับที่ตัวเอง) และที่เด็กของพวกเขา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในทางกลับกัน ถ้าเด็กมีแม่ที่เข้าใจ และตอบสนองความต้องการของเธอ มันนำไปสู่ผู้บุกเบิกทฤษฎีสิ่งที่แนบมาอย่างสม่ำเสมอ Bowlby จอห์นเรียก "ทางฐาน ประสบการณ์นี้จะเข้าใจ และอุปการะจะ imprinted ในสมองเช่นร่องในระเบียน และเด็กใช้ประสบการณ์ที่เป็นแบบจำลองสำหรับความสัมพันธ์ในอนาคต มันหน้าที่เกือบจิตผ้าห่มความปลอดภัย ซึ่งเขาสามารถดำเนินการ และหมายถึงตลอดชีวิตของเขา
เสียงสวยสำคัญ ขวา แต่ตาม Siegel ในขณะที่แนวคิดเป็นที่รู้จักกับนักจิตวิทยาส่วนใหญ่ ไม่ได้จริง ๆ ทำทางในมือของผู้ปกครองอย่างสม่ำเสมอ เมื่อพ่อแม่ได้ยินคำว่า "เอกสารแนบ" จำนวนมากคิดเป็นตัว "แนบหลัก" เป็นคำ โดยดร.ตั๋ว Sears เชื่อมโยงศาสตราจารย์คลินิกของกุมารเวชที่มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนีย เออร์วิน โรงเรียนแพทยศาสตร์ และผู้เขียนหนังสือกว่า 30 ดูแลเด็ก
มีการเคลื่อนไหวที่ใช้ในการทำงานของ Sears การที่พ่อแม่พยายามที่จะขยายประสบการณ์มดลูกเพื่อช่วยทารกของพวกเขาเข้าสู่โลกได้ ในขณะที่ tenets ของสิ่งที่แนบไปแปลความหมายในลักษณะต่าง ๆ จำนวนมากของผู้ปกครองที่ตามเส้นทางที่แนบมาไปเลือก co-sleep "สวม" ทารกของพวกเขาในผู้ขนส่งอ่อน ให้นมลูกในสัญลักษณ์ และปฏิบัติอยู่ที่บ้านไป
จึงทำงานหนัก แต่สัมผัสก็ ตาม Sears เด็กแนบ whine น้อย ฟังมาก อ่อนไหวมากกับเพื่อนและครอบครัว เป็นมากสามารถ และเต็มใจที่จะใช้ร่วมกัน แสดงความเมตตา และพัฒนาความเชื่อมั่น เนื่องจากพวกเขาใช้จ่าย 3 เดือนแรกของชีวิตเป็น "เวลโครทารก" ทั้งหมดเก็บไว้อารมณ์ และร่างกายปิดที่เวลา
ปาร์คเกอร์ Lysa หนึ่งในผู้ก่อตั้งประเทศแนบนี่ ซึ่งใช้ในการทำงานของ Sears กล่าวว่า ตราสินค้าแสดงหน้าต่างขนาดเล็กโอกาสที่จะเก็บเกี่ยวรางวัลใหญ่พัฒนา ปาร์คเกอร์กล่าวว่า "เรารู้ว่า เด็กทารกมนุษย์พัฒนาน้อยที่สุดของการเลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหมด และเป็นพัฒนาเพียง 25% ของสมองของพวกเขาที่เกิด จึงจะขึ้นอยู่กับพ่อแม่เพื่อความอยู่รอดของพวกเขามาก "คืออะไรน่าตื่นเต้นให้เราจะประสาทการที่ที่ผ่านมาปีมี enlightened เราว่า ไม่ธรรมชาติเทียบกับสำรอง ธรรมชาติของมัน และสำรอง วิธีพัฒนาสมองของเด็กทารกเป็นตรง correlated เพื่อแนบ" ปาร์คเกอร์กล่าวว่า "เมื่อเด็กสามารถทำสิ่งที่เขาได้เกิดทำ...แนบ clinging ดูด crying และอื่น ๆ ที่เป็นลักษณะการทำงาน แล้วสมองพัฒนาวิธีธรรมชาติ ที่เป็นอะไรมากกว่าหกสิบปีของการวิจัยช่วยพิสูจน์เล่า"
Siegel กล่าวว่า ประสาทวิทยาศาสตร์คะแนนเป็นอย่างอื่น: จำนวนประตูที่แข็งแกร่งที่สุดของเด็ก "ความปลอดภัยของเอกสารแนบ" เป็นจริง self-understanding พ่อแม่เอง "น่าอัศจรรย์ สิ่งสำคัญที่สุดหลักทำ ถ้าคุณดูที่วิจัย Siegel กล่าวว่า "ไม่เข้าใจตัวเอง การวิจัยอย่างชัดเจนแสดงว่าความเข้าใจตนเองและเปิดให้ความรู้สึกของคุณเองและความรู้สึกของเด็ก คือจำนวนประตูที่ดีที่สุดของเด็กแนบ"
หัวใจของมันคือ ความจริงว่า เราเป็นสิ่งมีชีวิตทางสังคม และสมองของเรา hard-wired เพื่อเชื่อมต่อกับผู้อื่น Caregiving เด็กรับ Siegel กล่าวว่า เรียกใช้สมองเฉพาะต่าง ๆ และเปิดใช้งานที่นำไปสู่การเติบโตของการเชื่อมต่อที่ชัดเจนในสมองตัวเอง ในคำอื่น ๆ ตามที่คุณหลักมีผลโดยตรงมาที่สมองของเด็กพัฒนา
รักตัวเองยังไม่พอ Siegel กล่าวว่า ไม่มีความใกล้ชิด และใน ขณะที่เรามีวัฒนธรรมที่ชอบแดกไปรับมือหนังสือ "ไม่มียอดเงินของการอ่านจะช่วยให้" ถ้าคุณไม่ internalize จุดสำคัญหนึ่ง: ผู้ปกครองจำเป็นต้องพัฒนาตนเอง "จิตตา" (สามารถตรวจสอบความคิด ความรู้สึก รับรู้ รู้สึก ความทรงจำ ความเชื่อ ทัศนคติ และความตั้งใจของผู้อื่นรวมทั้งตนเอง) และที่อยู่ของเด็ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในอีกด้านหนึ่งถ้าเด็กที่มีแม่ที่ได้รับเข้าใจและตอบสนองความต้องการของเธอเป็นทางนำไปสู่สิ่งที่แนบมาทฤษฎี Pioneer จอห์น bowlby เรียกว่า"ฐานมีความ ปลอดภัย "รับประสบการณ์นี้ของเป็นที่เข้าใจและไม่สนใจเป็นชนิดในสมองที่เหมือนกับร่องในบันทึกและเด็กจะใช้ประสบการณ์ที่เป็นรุ่นสำหรับความสัมพันธ์ในอนาคตจะสามารถทำงานเกือบจะเหมือนกับผ้าห่มการรักษาความ ปลอดภัย ทางด้านจิตใจซึ่งเขาสามารถพาคุณไปตลอดทั่วทั้งพื้นที่และดูชีวิตของเขา
เสียงค่อนข้างสำคัญทางด้านขวา แต่ตาม siegel ในขณะที่แนวความคิดที่เป็นที่รู้จักกันอย่างดีในการนักจิตวิทยามากที่สุดมันไม่ได้มีวิธีการของมันได้ไปอยู่ในมือของพ่อแม่อย่างสม่ำเสมออย่างแท้จริง เมื่อคุณพ่อคุณแม่ได้ยินคำว่า"เอกสารแนบที่"หลายคนคิดว่า"พ่อแม่เอกสารแนบ"ที่รับโดยดร.ร่างพระราชบัญญัติมากกว่าตึก Searsรองศาสตราจารย์ทางการแพทย์ของกุมารเวชศาสตร์ที่มหาวิทยาลัย California , Irvine โรงเรียนของยาและผู้เขียนมากกว่า 30 เล่มที่ดูแลเด็ก.
มีการเคลื่อนไหวที่ใช้งาน Sears 'ที่พ่อแม่มีความพยายามเพื่อขยายประสบการณ์จาก ครรภ์ มารดาในการสั่งซื้อเพื่อความสะดวกง่ายดายลูกน้อยของพวกเขาเข้าสู่โลก ในขณะที่ยึดหลักของพ่อแม่ที่มีเอกสารแนบตีความในลักษณะที่แตกต่างกันความจุของพ่อแม่ที่ทำตามเส้นทางพ่อแม่เอกสารแนบที่เลือกที่จะร่วมกัน - นอน"สวมใส่"ลูกน้อยของพวกเขาในแบบไม่มีแอลกอฮอล์ที่ป้อนนมจากเต้านมแม่ผู้ให้บริการในการปฏิบัติและ CUE เข้าพักที่บ้านพ่อแม่.
มันเป็นงานหนักแต่ผู้สนับสนุนบอกว่าเป็นที่น่าได้ ตามเอกสารแนบสำหรับเด็กมากกว่าตึก Sears บ่นไม่ฟังมากขึ้นมีความไวต่อแสงมากขึ้นเพื่อเพื่อนของเขาและพ่อแม่ของตนมีมากขึ้นสามารถและไม่เต็มใจที่จะใช้ร่วมกันแสดงความเห็นอกเห็นใจและพัฒนาความเชื่อมั่น นั่นเป็นเพราะพวกเขาใช้ช่วงเวลาไม่กี่เดือนแรกของชีวิตความเป็นอยู่ของพวกเขาในฐานะที่เป็น"เด็กทารกแถบยึดแบบเวลโครเพื่อ"การดูแลรักษาให้อยู่ใกล้กับทุกครั้งอารมณ์และร่างกาย "
lysa หนึ่งในผู้ก่อตั้งของเอกสารแนบพ่อแม่นานาชาติซึ่งอยู่ในงาน' Sears กล่าวว่าตั้งแต่ยังแบเบาะมีหน้าต่างขนาดเล็กของโอกาสในการที่จะได้รับผลตอบแทนด้านการพัฒนาขนาดใหญ่"เราไม่รู้ว่าเด็กทารกของมนุษย์ที่พัฒนาขึ้นเป็นอย่างน้อยที่ของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมทั้งหมดและเป็นเพียง 25% ของสมองของพวกเขาได้รับการพัฒนาที่เกิดดังนั้นพวกเขาจึงขึ้นอยู่กับพ่อแม่ของตนเพื่อความอยู่รอดของเขาเป็นอย่างมาก""กล่าวว่า "สิ่งที่น่าตื่นตาตื่นใจของเราเป็นที่ยอมรับมากกว่าปีที่ผ่านมามีอะไรพวกเราว่ามันเป็นธรรมชาติของไม่ได้เมื่อเทียบกับอบรมเป็นธรรมชาติและการอบรมวิธีที่สมองของเด็กทารกที่ได้พัฒนาเป็นความสัมพันธ์โดยตรงกับอุปกรณ์" "บอกว่า"เมื่อเด็กได้รับอนุญาตให้ทำในสิ่งที่เขาเป็นเกิดมาเพื่อทำการดูดร้องไห้...ติดอยู่และอุปกรณ์อื่นๆสร้างพฤติกรรมแล้วสมองของเขาได้พัฒนาไปในทางที่เป็นธรรมชาติ นั่นคือสิ่งที่มากกว่าหกสิบปีของการวิจัยให้พิสูจน์มากกว่าและเหนืออีกครั้ง"
siegel กล่าวว่ายอมรับที่จุดในบางสิ่งบางอย่างกว่าตัวที่มีความแข็งแรงทนทานที่สุดของของเด็กที่"การรักษาความ ปลอดภัย ของอุปกรณ์"เป็นจริงด้วยตนเอง - ความเข้าใจของคุณพ่อคุณแม่ที่เป็นของตัวเอง "สิ่งที่สำคัญที่สุดอย่างน่ามหัศจรรย์ใจของพ่อแม่ที่สามารถทำได้หากคุณดูที่การวิจัยที่มีอยู่" siegel กล่าวว่า"มีความเข้าใจกันเอง การวิจัยที่มีอยู่ให้เห็นอย่างชัดเจนถึงความรู้สึกแบบเปิดโล่งไปยังตัวของท่านเองด้วยตนเองการทำความเข้าใจและการเป็นที่และความรู้สึกของลูกของคุณเป็นตัวทำนายที่ดีเยี่ยมของเอกสารแนบเด็ก"
อยู่ในบริเวณใจกลางของทั้งหมดเป็นความจริงที่ว่าเราเป็นมนุษย์เหมือนทางสังคมและที่สมองของเรามีฮาร์ดดิสก์แบบใช้สายเพื่อเชื่อมต่อกับผู้อื่น สำหรับเด็ก caregiving ที่ได้รับ siegel กล่าวว่าจะเปิดใช้งานในสมองที่ในหลายวิธีระบุและว่าการเปิดใช้งานจะนำไปสู่การขยายตัวของการเชื่อมต่ออย่างชัดเจนในสมองให้ตัวของมันเอง ในคำอื่นๆวิธีที่คุณแม่คุณได้ส่งผลกระทบต่อโดยตรงบนเส้นทางที่สมองของเด็กได้พัฒนา.
ความรักนั้นไม่เพียงพอ siegel กล่าว ไม่อยู่ใกล้ และในขณะที่เรามีวัฒนธรรมที่ผู้ที่รักการสวาปามหนังสือพ่อแม่แนะนำ"ไม่มีจำนวนของการอ่านจะช่วยให้"หากคุณไม่ได้และจุดเชื่อมต่อหนึ่งปุ่มผู้ปกครองจำเป็นต้องพัฒนาตัวเอง"ใจ - สายตาของเขา"(ความสามารถที่จะตรวจสอบความรู้สึกความคิดรับรู้ความรู้สึกความทรงจำความเชื่อทัศนคติและความตั้งใจของผู้อื่นและเป็นตัวของเราเอง)และของบุตรของตนได้