In the 1990s, neoliberal policies w

In the 1990s, neoliberal policies were expanded. Another round of currency devaluation boosted the export sector, whose share of the GDP increased from 29.8% in 1990 to 51.3% in 2006. Following the speculative attacks on the krona, the Swedish government floated the currency in November 1992 (Jonung 2011). The government also embarked on austerity measures to reduce the debt that had been incurred as a result of helping out the banks and fighting the recession. The social democratic government cut 134 billion krona in spending in 1994. The social programs were not spared. A pension reform reduced pension payouts and tied the plans to the stock market, i.e. defined contribution plans (Westerlund 2008). Benefits critical to immigrants such as social assistance, family benefits, pensions and housing allowances were cut, though some of the cuts were restored by 1998 (Sainsbury 2012, 88). Social security spending as percentage of GDP declined from 16.5% in 1980 to 15.4% in 2006. At the same time taxes have been reduced. The state income tax was reduced from 7.92% of GDP in 1990 to 2.14% in 2005 (Ankarloo 2009, 37-40). Sweden reduced public spending from 67% of GDP in 1993 to 49% of GDP in 2013. The top marginal tax rate was reduced from 84% in 1983 to 57% in 2013. In 2013, the Swedish government cut the corporate-tax rate from 26.3% to 22%. The public debt is consolidated from 70% of GDP during the height of the recession in 1993 to 37% in 2010 (Economist 2013c). The current account deficit turned into a surplus, and reached $29 billion in 2010.11 The government deregulated and privatized the energy, telecom and postal services (Westerlund 2008). The privatizations resulted in a loss of public-sector jobs. Public sector employment declined from 423,000 in 1985 to 240,000 in 1996 (Ergungor 2013), affirming that the government would not be the employer of last resort to maintain full employment. The central government’s control over the education system was transferred to municipalities (Lindvall 2006, 266). Housing policy was dismantled with the shutdown of the housing ministry in the early 1990s (ibid. 267).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในปี 1990 ได้ขยายนโยบาย neoliberal ครั้งหนึ่ง devaluation สกุลเงินประจำภาคการส่งออก มีสัดส่วนของ GDP เพิ่มขึ้นจาก 29.8% ในปี 1990 51.3% ในปี 2549 ต่อไปนี้การโจมตีในรูปแบบเก็งกำไร รัฐบาลสวีเดนลอยสกุลเงินในเดือน 1992 พฤศจิกายน (Jonung 2011) รัฐบาลยังมีการเริ่มต้นมาตรการเข้มงวดเพื่อลดหนี้ที่ได้เกิดขึ้นจากการช่วยออกฝั่ง และต่อสู้ภาวะถดถอย รัฐบาลประชาธิปไตยสังคมตัดรูป 134 พันล้านในปี 1994 การใช้จ่าย ไม่ได้ช่วยสังคมโปรแกรม การปฏิรูปเงินบำนาญลดลง payouts เพนชั่น และเชื่อมโยงกับแผนการตลาดหุ้น แผนการจัดสรรเช่นกำหนด (Westerlund 2008) ประโยชน์ที่สำคัญการอพยพช่วยเหลือสังคม สวัสดิการครอบครัว ชีพ และเบี้ยเลี้ยงที่พักถูกตัด แม้ว่าการตัดบางคืนค่า โดยปี 1998 (Sainsbury 2012, 88) สังคมที่ใช้จ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ของ GDP ปฏิเสธจาก 16.5% ในปี 1980 เป็น 15.4% ในปี 2549 ขณะเดียวกัน ภาษีลดลง รัฐภาษีลดลงจาก 7.92% ของ GDP ในปี 1990 2.14% ในปี 2005 (Ankarloo 2009, 37-40) สวีเดนลดสาธารณะใช้จ่ายจาก 67% ของ GDP ในปี 1993 เป็น 49% ของ GDP ในปี 2013 อัตราภาษีบนกำไรลดลงจาก 84% ในปี 1983 57% ในปี 2013 ในปี 2013 รัฐบาลสวีเดนตัดอัตราภาษีนิติบุคคลจาก 26.3% 22% หนี้สาธารณะรวมจาก 70% ของ GDP ในระหว่างความสูงของภาวะถดถอยในปี 1993 เป็น 37% ในปี 2553 (นักเศรษฐศาสตร์ 2013c) ดุลบัญชีปัจจุบันเปิดเป็นเป็นส่วนเกิน และถึง 29 พันล้านเหรียญใน 2010.11 รัฐบาล deregulated และ privatized พลังงาน โทรคมนาคม และไปรษณีย์ (Westerlund 2008) Privatizations ที่ส่งผลให้เกิดการสูญหายของงานภาครัฐ การจ้างงานภาครัฐลดลงจาก 423,000 ในปี 1985 กับ 240000 1996 (Ergungor 2013), เห็นพ้องว่า รัฐบาลจะเป็นนายของท้ายรักษาการจ้างงานเต็มที่ ของรัฐบาลกลางควบคุมระบบการศึกษาถูกโอนย้ายไปอำเภอ (Lindvall 2006, 266) นโยบายที่อยู่อาศัยถูกรื้อถอนกับการปิดของกระทรวงที่อยู่อาศัยในช่วงปี 1990 (ibid. 267)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในปี 1990 นโยบายเสรีนิยมใหม่กำลังขยาย รอบของการลดค่าเงินสกุลอื่นได้แรงหนุนภาคการส่งออกซึ่งมีหุ้นของ GDP เพิ่มขึ้นจาก 29.8% ในปี 1990-51.3% ในปี 2006 หลังจากที่การโจมตีการเก็งกำไรในโครนา, รัฐบาลสวีเดนลอยสกุลเงินในพฤศจิกายน 1992 (Jonung 2011) รัฐบาลยังลงมือมาตรการความเข้มงวดที่จะลดหนี้ที่ได้รับการเกิดขึ้นเป็นผลมาจากการช่วยเหลือธนาคารและการต่อสู้ภาวะเศรษฐกิจถดถอย รัฐบาลประชาธิปไตยสังคมตัด 134000000000 โครนในการใช้จ่ายในปี 1994 โครงการทางสังคมไม่ได้รับการงดเว้น การปฏิรูปเงินบำนาญลดการจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญและเชื่อมโยงกับแผนการที่จะลงทุนในตลาดหุ้นคือการมีส่วนร่วมกำหนดแผน (Westerlund 2008) ประโยชน์ที่สำคัญให้กับผู้อพยพเช่นการช่วยเหลือสังคมได้รับประโยชน์ครอบครัวเงินบำนาญและค่าใช้จ่ายที่อยู่อาศัยถูกตัดแม้ว่าบางส่วนของการปรับลดกำลังบูรณะโดย 1998 (เซนส์ปี 2012 88) การใช้จ่ายของการรักษาความปลอดภัยทางสังคมเป็นเปอร์เซ็นต์ของจีดีพีลดลงจาก 16.5% ในปี 1980-15.4% ในปี 2006 ในขณะเดียวกันภาษีได้รับลดลง ภาษีรายได้ของรัฐลดลงจาก 7.92% ของ GDP ในปี 1990-2.14% ในปี 2005 (Ankarloo 2009, 37-40) สวีเดนใช้จ่ายของประชาชนลดลงจาก 67% ของ GDP ในปี 1993-49% ของ GDP ในปี 2013 อัตราภาษีด้านบนลดลงจาก 84% ในปี 1983-57% ในปี 2013 ในปี 2013 รัฐบาลสวีเดนตัดอัตราภาษีขององค์กรจาก 26.3% มาอยู่ที่ 22% หนี้สาธารณะรวมจาก 70% ของ GDP ในช่วงความสูงของภาวะเศรษฐกิจถดถอยใน 1993-37% ในปี 2010 (เศรษฐศาสตร์ 2013c) การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดกลายเป็นส่วนเกินและไปถึง $ 29000000000 ใน 2,010.11 รัฐบาล deregulated และแปรรูปพลังงานโทรคมนาคมและบริการไปรษณีย์ (Westerlund 2008) การแปรรูปผลในการสูญเสียของงานภาครัฐ การจ้างงานภาครัฐลดลงจาก 423,000 ในปี 1985 เพื่อ 240,000 ในปี 1996 (Ergungor 2013) ยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่เป็นนายจ้างสุดท้ายในการรักษาการจ้างงานเต็ม การควบคุมของรัฐบาลกลางมากกว่าระบบการศึกษาที่ถูกย้ายไปอยู่ในเขตเทศบาล (Lindvall 2006, 266) นโยบายที่อยู่อาศัยถูกถอดด้วยการปิดของกระทรวงที่อยู่อาศัยในช่วงต้นทศวรรษ 1990 (อ้างแล้ว. 267)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ในปี 1990 , นโยบาย neoliberal กำลังขยาย การประกาศลดค่าเงินอีกรอบ รวมทั้งภาคการส่งออกซึ่งมีหุ้นของ GDP เพิ่มขึ้นจาก 29.8 % ในปี 1990 51.3 % ในปี 2006 ต่อไปนี้การโจมตีเก็งในโครนา รัฐบาลสวีเดนลอยตัวสกุลเงินในเดือนพฤศจิกายน ปี 1992 ( jonung 2011 )รัฐบาลยังได้เริ่มมาตรการความเข้มงวดในการลดหนี้ที่ได้รับที่เกิดจากการช่วยหาธนาคารและต่อสู้กับภาวะเศรษฐกิจถดถอย รัฐสังคมประชาธิปไตย 134 พันล้านโครนาตัดในการใช้จ่ายในปี 1994 โปรแกรมสังคมไม่รักษาไว้ ปฏิรูปการจ่ายเงินบำเหน็จบำนาญและการเชื่อมโยงแผนการตลาด ได้แก่กำหนดวางแผนงาน ( westerlund 2008 ) ประโยชน์ที่สำคัญที่จะอพยพ เช่น ช่วยเหลือสังคม สงเคราะห์ครอบครัว บำนาญและเบี้ยเลี้ยง ที่อยู่อาศัยถูก แม้ว่าบางส่วนของการตัดและเรียกคืนโดย 1998 ( Sainsbury 2012 , 88 ) ประกันสังคมจ่ายเป็นเปอร์เซ็นต์ของจีดีพี ลดลงจาก 16.5% ในปี 1980 15.4 % ในปี 2006 ในขณะเดียวกัน ภาษีได้ลดลงรัฐภาษีเงินได้ลดลงจาก 7.92 % ของ GDP ในปี 1990 ถึง 2.14 ล้านบาทในปี 2548 ( ankarloo 2009 , 37-40 ) สวีเดนลดการใช้จ่ายสาธารณะจาก 67 % ของ GDP ในปี 49 % ของจีดีพีในปี 2556 ขอบด้านบนอัตราภาษีลดลงจาก 84% ในปี 1983 และ 57 % ในปี 2013 ในปี 2013 รัฐบาลสวีเดนตัดอัตราภาษีนิติบุคคลจากเดิมร้อยละ 22 %หนี้สาธารณะ จำนวน 70 % ของ GDP ในช่วงความสูงของภาวะถดถอยในปี 1993 ถึง 37% ในปี 2010 ( นักเศรษฐศาสตร์ 2013c ) การขาดดุลบัญชีเดินสะพัดกลายเป็นส่วนเกิน และถึง $ 30 พันล้านดอลลาร์ใน 2010.11 รัฐบาลปริมาณการแปรรูปพลังงานและโทรคมนาคมและบริการไปรษณีย์ ( westerlund 2008 ) ที่แปรรูปผลในการสูญเสียของงานภาครัฐการจ้างงานภาครัฐลดลงจาก 423000 ในปี 1985 เพื่อ 240 , 000 ในปี 1996 ( ergungor 2013 ) ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้เป็นนายจ้างของรีสอร์ทสุดท้ายในการรักษาเต็มรูปแบบการจ้างงาน การควบคุมของรัฐบาลกลางผ่านระบบการศึกษา ถูกโอนไปเทศบาล ( ลินด์เวิล 2006 , 266 )นโยบายที่อยู่อาศัยถูกรื้อถอนด้วยการปิดของกระทรวงที่อยู่อาศัยในช่วงต้นทศวรรษ 1990 ( อ้างแล้ว . 267 )