Although the WTO has assessed the y

Although the WTO has assessed the year 2013 to be slightly more positive than 2012 in terms of world trade performance and signs of global trade recovery could be seen, world trade growth did not go beyond 2.1%. The lower than expected growth was driven by slowing demand in the developing countries although demand for certain agricultural products remains robust. Overall agricultural trade performance was a reflection of the global economic context: many main agricultural traders had to face stagnant or lower levels of exports and imports. (1)
As the other main traders struggled to keep up their exports, the EU came first in the ranking of world top agricultural exporters, even despite the appreciation of the euro against major currencies. This was achieved greatly due to increased volumes of cereal exports though higher prices for some key export products (meat and dairy products) also contributed. Since 2010, when the EU switched to being a net exporter of agricultural products, the trade surplus has been growing constantly, hitting a new record every year and reaching €18.6 billion in 2013. (2)
EU agricultural imports, which remained stagnant in 2013, partly reflect the fact that EU demand has not fully recovered after the economic crisis. On the other hand, prices for many commodities also remained low, which kept the import value down. (3)
he analysis of 15 export products with the highest export gains showed that, on average, only 10% of the increase in EU exports in 2013 was price driven, the remaining 90% being quantity-driven. Wheat tops the list of products with the biggest export gains, while the growth in beverage exports slowed down. (4)
Although the US still remains the top destination for EU agri-food products (led by beverages), it was not the most dynamic export market in 2013, showing a modest growth. Given that at the same time EU imports from the US (particularly various products for animal feed) increased by 17%, EU agricultural trade surplus with the US decreased. (5)


Contrary to previous years, the largest absolute gain in EU agricultural export value in 2013 was achieved in China, which was also the second fastest going market after Saudi Arabia in relative terms. Chinese demand for agricultural products was firm, but the percentage growth in imports value slowed down, notably because of lower prices. Nevertheless, China has become world's third biggest global agricultural importer and is also an increasingly important exporter, already positioning fourth in 2013. (6)
At the same time, exports to Japan suffered, as a result of the weak demand and the unfavourable exchange rate. (7)
In 2013, US agri-food exports were still negatively affected by drought of the previous year, in particular exports of soy beans and cotton to China. On top of lower export prices, US exports were also partly replaced by Brazil, which saw its soya bean exports go up by one third. On the other hand, US could report a good year for wheat sales, for which interestingly Brazil became the top destination alongside China. (8)
Apart from the good result of soya bean and maize exports, Brazil witnessed in 2013 a slowdown in the growth of its total agricultural exports, as many commodity prices were low. The cross trade of ethanol between Brazil and the US, i.e. export of cane-based ethanol to the US and imports of corn-based ethanol from the US, continued in 2013, but the net balance reversed in favour of the US. Brazil's imports from the US more than doubled in 2013. (9)
Russia’s exports of agricultural commodities suffered in 2013. Although Russia imported less meat, sugar and potatoes, its trade deficit increased to €20 billion. (10)
As in previous years, in 2013 the EU continued to be the top importer of products from the least developed countries, Although their share of EU agricultural imports is just 2.8%, it is much more than the average (0.4%) of the other main importers (USA, Canada, Japan, New Zealand, Australia). (11)

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ถึงแม้ว่าองค์การมีประเมินปี 2013 จะเป็นบวกเล็กน้อยกว่า 2012 ในแง่ของประสิทธิภาพทางการค้าโลก และไม่สามารถเห็นสัญญาณของการฟื้นตัวของการค้าโลก เจริญเติบโตการค้าโลกก็ไม่กลับเกิน 2.1% ต่ำกว่าคาดเติบโตถูกขับเคลื่อน โดยชะลอความต้องการในประเทศกำลังพัฒนาแม้ว่าอุปสงค์สำหรับสินค้าเกษตรยังคงแข็งแกร่ง รวม ค้าเกษตรประสิทธิภาพสะท้อนให้เห็นถึงบริบททางเศรษฐกิจโลก: หลายผู้ค้าเกษตรหลักมีหน้าศิลปิน หรือต่ำกว่าระดับของการส่งออกและนำเข้า (1)เป็นการเทรดหลักต่อสู้จะติดตามพวกเขาส่งออก EU มาก่อนในการจัดอันดับโลกด้านเกษตรผู้ส่งออก แม้มีการแข็งค่าของเงินยูโรเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ นี้สำเร็จมากเนื่องจากไดรฟ์ข้อมูลที่เพิ่มขึ้นของการส่งออกธัญพืชว่าคีย์บางอย่างสูงกว่าราคาส่งออกผลิตภัณฑ์ (เนื้อสัตว์และผลิตภัณฑ์นม) อีกด้วย ตั้งแต่ 2553 เมื่อ EU สลับเป็น ผู้ส่งออกสินค้าเกษตรสุทธิ ดุลการค้ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตีคอร์ดใหม่ทุกปี และถึง 18.6 ล้านปอนด์ในปี 2013 (2)EU เกษตรนำเข้า ที่อยู่นิ่งในปี 2013 บางส่วนสะท้อนความจริงที่ว่า ความต้องการใน EU มีไม่เต็มกู้คืนหลังจากวิกฤตเศรษฐกิจ บนมืออื่น ๆ ราคาสินค้าโภคภัณฑ์มากมายยังยังคงต่ำ ที่เก็บค่าการนำเข้าลง (3) เขาวิเคราะห์ 15 ผลิตภัณฑ์ส่งออกส่งออกสูงสุดกำไรพบว่า เฉลี่ย เพียง 10% ของการเพิ่มขึ้นของ EU ส่งออกในปี 2013 ราคาขับเคลื่อน 90% ที่เหลือที่มีการควบคุมปริมาณได้ ข้าวสาลี tops รายการของผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรส่งออกที่ใหญ่ที่สุด ในขณะที่การเติบโตในการส่งออกเครื่องดื่มชะลอตัวลง (4)แม้ว่าสหรัฐอเมริกายังคง จุดหมายยอดนิยมสำหรับผลิตภัณฑ์ agri-อาหาร EU (นำ โดยเครื่องดื่ม), มันไม่ตลาดส่งออกที่สุดในปี 2013 แสดงเติบโตเจียมเนื้อเจียมตัว ระบุว่าในเวลาเดียวกันกับ EU นำเข้าจากสหรัฐอเมริกา (ผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับอาหารสัตว์) เพิ่มขึ้น 17% ดุลการค้าเกษตรของ EU กับสหรัฐฯ ลดลง (5)ขัดต่อปี ที่ใหญ่ที่สุดแน่นอนกำไรมูลค่าส่งออกเกษตรของ EU ในปี 2013 สำเร็จในประเทศจีน ที่ยังสองที่เร็วที่สุดกำลังตลาดหลังจากซาอุดีอาระเบียในเงื่อนไขที่สัมพันธ์กัน จีนความต้องการสินค้าเกษตรถูกกำหนด แต่การเจริญเติบโตเปอร์เซ็นต์ในค่านำเข้าที่ชะลอตัวลง ยวด เพราะราคาต่ำกว่า อย่างไรก็ตาม จีนได้กลายเป็น โลกที่สามที่ใหญ่ที่สุดโลกเกษตรผู้นำเข้า และจะยังส่งออกสำคัญมาก แล้วตำแหน่งสี่ในปี 2013 (6)ในเวลาเดียวกัน ส่งออกไปญี่ปุ่นรับความเดือดร้อน เป็นผลมาจากอุปสงค์ที่อ่อนแอและอัตราแลกเปลี่ยน unfavourable (7)ในปี 2013 ส่งออก agri-อาหารได้ยังส่งผลกระทบ โดยภัยแล้งของปีก่อน ในการส่งออกเฉพาะเมล็ดถั่วเหลืองและฝ้ายไปจีน บนล่างราคาส่งออก ส่งออกถูกแทนที่ โดยบราซิล ซึ่งเห็นเป็นถั่วเหลืองส่งออกไป โดยหนึ่งในสาม นั้นบางส่วนยัง บนมืออื่น ๆ สหรัฐฯ สามารถรายงานเป็นปีดีสำหรับข้าวสาลีขาย ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจบราซิลกลายเป็น จุดหมายยอดนิยมควบคู่ไปกับจีน (8)นอกจากผลดีของถั่วเหลืองและข้าวโพดส่งออก บราซิลเห็นในปี 2013 ความล่าช้าในการเติบโตของผลรวมของเกษตรที่ส่งออก ตามราคาสินค้าโภคภัณฑ์มากขึ้นต่ำ การข้ามค้าของเอทานอลระหว่างบราซิลและสหรัฐฯ เช่นส่งออกเอทานอลตามเท้าไปยังสหรัฐอเมริกาและนำเข้าเอทานอลโดยใช้ข้าวโพดจากสหรัฐอเมริกา ใน 2013 แต่ดุลสุทธิกลับลงสหรัฐอเมริกา นำเข้าของบราซิลจากสหรัฐอเมริกากว่าสองเท่าในปี 2013 (9)รัสเซียส่งออกของสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรประสบในปี 2013 แม้ว่ารัสเซียนำเข้าน้อยเนื้อ น้ำตาล และมันฝรั่ง ดุลการค้าเพิ่มขึ้นเพื่อ €20 พันล้าน (10)ในปี ในปี 2013 EU ยังคงเป็นผู้นำเข้าสูงสุดของผลิตภัณฑ์จากประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด แม้ว่ากันของ EU เกษตรนำเข้าได้เพียง 2.8% เป็นมากกว่าค่าเฉลี่ย (0.4%) ของตัวอื่น ๆ หลักนำเข้า (สหรัฐอเมริกา แคนาดา ญี่ปุ่น นิวซีแลนด์ ออสเตรเลีย) (11)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

แม้ว่าองค์การการค้าโลกได้ประเมินในปี 2013 จะเป็นบวกมากขึ้นเล็กน้อยกว่า 2012 ในแง่ของประสิทธิภาพการค้าโลกและสัญญาณการฟื้นตัวของการค้าโลกอาจจะเห็นการเจริญเติบโตของการค้าโลกไม่ได้ไปไกลกว่า 2.1% การเจริญเติบโตต่ำกว่าที่คาดเป็นผลมาจากการชะลอตัวของความต้องการในประเทศที่กำลังพัฒนาถึงแม้ว่าความต้องการสินค้าเกษตรบางอย่างยังคงแข็งแกร่ง ผลการดำเนินงานการค้าสินค้าเกษตรโดยรวมเป็นภาพสะท้อนของบริบททางเศรษฐกิจทั่วโลก: ผู้ค้าหลายเกษตรหลักต้องเผชิญกับระดับนิ่งหรือลดลงของการส่งออกและนำเข้า (1)
ในฐานะที่เป็นผู้ค้าหลักอื่น ๆ พยายามที่จะให้ทันการส่งออกของพวกเขาสหภาพยุโรปมาเป็นคนแรกในการจัดอันดับของผู้ส่งออกชั้นนำของโลกการเกษตรแม้แม้จะมีการแข็งค่าของเงินยูโรเทียบกับสกุลเงินหลัก นี่คือความสำเร็จอย่างมากเนื่องจากปริมาณที่เพิ่มขึ้นของการส่งออกธัญพืชแม้ว่าราคาที่สูงขึ้นสำหรับบางสินค้าส่งออกที่สำคัญ (เนื้อและผลิตภัณฑ์นม) ก็มีส่วน นับตั้งแต่ปี 2010 เมื่อสหภาพยุโรปเปลี่ยนไปเป็นผู้ส่งออกสุทธิของสินค้าเกษตรดุลการค้าได้รับการเติบโตอย่างต่อเนื่องกดปุ่มบันทึกใหม่ทุกปีและถึง€ 18600000000 ในปี 2013 (2)
นำเข้าการเกษตรของสหภาพยุโรปซึ่งยังคงซบเซาในปี 2013 ส่วนหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่ว่าความต้องการของสหภาพยุโรปยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่หลังจากที่วิกฤตเศรษฐกิจ ในทางกลับกันราคาสำหรับสินค้าจำนวนมากยังอยู่ในระดับต่ำซึ่งทำให้มูลค่าการนำเข้าลดลง (3)
การวิเคราะห์ของเขา 15 สินค้าส่งออกที่มีกำไรสูงสุดส่งออกพบว่าโดยเฉลี่ยเพียง 10% ของการส่งออกเพิ่มขึ้นในสหภาพยุโรปในปี 2013 ได้รับแรงผลักดันราคาส่วนที่เหลือ 90% ปริมาณการขับเคลื่อน ข้าวสาลี tops รายการของผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในขณะที่การเติบโตของการส่งออกเครื่องดื่มที่ชะลอตัวลง (4)
ถึงแม้ว่าสหรัฐยังคงเป็นปลายทางยอดนิยมสำหรับสหภาพยุโรปสินค้าเกษตรอาหาร (นำโดยเครื่องดื่ม) มันไม่ได้เป็นตลาดส่งออกที่เติบโตเร็วที่สุดในปี 2013 แสดงให้เห็นถึงการเจริญเติบโตเจียมเนื้อเจียมตัว ที่ระบุว่าการนำเข้าของสหภาพยุโรปเวลาเดียวกันจากสหรัฐอเมริกา (โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลิตภัณฑ์ต่างๆสำหรับอาหารสัตว์) เพิ่มขึ้น 17% เกินดุลการค้าสหภาพยุโรปการเกษตรกับสหรัฐลดลง (5) ตรงกันข้ามกับปีก่อนหน้ากำไรแน่นอนที่ใหญ่ที่สุดในมูลค่าส่งออกสินค้าเกษตรของสหภาพยุโรปในปี 2013 ก็ประสบความสำเร็จในประเทศจีนซึ่งเป็นตลาดที่สองจะเร็วที่สุดหลังจากที่ซาอุดีอาระเบียในแง่ญาติ ความต้องการของจีนสำหรับสินค้าเกษตรเป็น บริษัท แต่การเจริญเติบโตร้อยละของมูลค่าการนำเข้าชะลอตัวลงโดยเฉพาะอย่างยิ่งเพราะราคาที่ต่ำกว่า อย่างไรก็ตามจีนได้กลายเป็นผู้นำเข้าทั่วโลกการเกษตรสามที่ใหญ่ที่สุดในโลกและยังเป็นผู้ส่งออกที่สำคัญมากขึ้นแล้วการวางตำแหน่งที่สี่ในปี 2013 (6) ในเวลาเดียวกันการส่งออกไปยังประเทศญี่ปุ่นได้รับความเดือดร้อนเป็นผลมาจากความต้องการที่อ่อนแอและอัตราแลกเปลี่ยนที่ไม่เอื้ออำนวย . (7) ในปี 2013 สหรัฐส่งออกเกษตรอาหารก็ยังคงได้รับผลกระทบจากภัยแล้งของปีที่ผ่านมาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในการส่งออกของเมล็ดถั่วเหลืองและฝ้ายไปยังประเทศจีน ด้านบนของราคาสินค้าส่งออกที่ต่ำกว่าการส่งออกของสหรัฐยังแทนที่บางส่วนจากบราซิลซึ่งเห็นการส่งออกถั่วเหลืองของมันขึ้นไปโดยหนึ่งในสาม ในทางกลับกันเราสามารถรายงานเป็นปีที่ดีสำหรับการขายข้าวสาลีที่น่าสนใจบราซิลกลายเป็นปลายทางยอดนิยมควบคู่ไปกับประเทศจีน (8) นอกเหนือจากผลงานที่ดีของถั่วเหลืองและการส่งออกข้าวโพดบราซิลร่วมเป็นสักขีพยานในปี 2013 ชะลอตัวลงในการเจริญเติบโตของการส่งออกเกษตรทั้งหมดเช่นราคาสินค้าโภคภัณฑ์หลายอยู่ในระดับต่ำ ค้าข้ามของเอทานอลระหว่างบราซิลและสหรัฐอเมริกาคือการส่งออกเอทานอลจากอ้อยที่ใช้ในสหรัฐอเมริกาและการนำเข้าเอทานอลจากข้าวโพดจากสหรัฐอเมริกาอย่างต่อเนื่องในปี 2013 แต่ยอดดุลสุทธิกลับในความโปรดปรานของสหรัฐ การนำเข้าของบราซิลจากสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวในปี 2013 (9) การส่งออกของรัสเซียของสินค้าเกษตรที่ได้รับความเดือดร้อนในปี 2013 แม้ว่ารัสเซียนำเข้าเนื้อสัตว์น้อยลงน้ำตาลและมันฝรั่งขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นถึง€ 20000000000 (10) ขณะที่ในปีก่อนหน้านี้ในปี 2013 สหภาพยุโรปยังคงเป็นผู้นำเข้าด้านบนของผลิตภัณฑ์จากประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างน้อยถึงแม้ว่าส่วนแบ่งของการนำเข้าของสหภาพยุโรปการเกษตรเป็นเพียง 2.8% มันเป็นมากขึ้นกว่าค่าเฉลี่ย (0.4%) ของ ผู้นำเข้าหลักอื่น ๆ (สหรัฐอเมริกา, แคนาดา, ญี่ปุ่น, นิวซีแลนด์, ออสเตรเลีย) (11)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

แม้ว่าองค์การการค้าโลกมีประเมิน ปี 2013 จะเป็นบวกเล็กน้อยกว่า 2012 ในแง่ของประสิทธิภาพการค้าโลก และสัญญาณการฟื้นตัวของการค้าโลกอาจจะเห็นการเจริญเติบโตของการค้าโลกไม่เกิน 2.1 % ลดลงกว่าที่คาดไว้คือการขับเคลื่อนด้วยอุปสงค์ชะลอตัว ในการพัฒนาประเทศ แม้ว่าอุปสงค์สินค้าเกษตรบางอย่างยังคงแข็งแกร่งประสิทธิภาพการค้าสินค้าเกษตรโดยรวม สะท้อนบริบททางเศรษฐกิจทั่วโลกผู้ค้าเกษตรหลายหลักต้องหน้านิ่ง หรือลดระดับของการส่งออกและนำเข้า ( 1 )
เป็นหลักอื่น ๆที่ผู้ค้าพยายามที่จะทำให้การส่งออกของอียูมาครั้งแรกในการจัดอันดับของโลกด้านบนเกษตรส่งออกแม้จะแข็งค่าของเงินยูโรเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆนี้ประสบความสำเร็จอย่างมากจากการเพิ่มปริมาณข้าวส่งออก แต่ราคาที่สูงขึ้นสำหรับผลิตภัณฑ์ส่งออกที่สำคัญ ( เนื้อและผลิตภัณฑ์นม ) นอกจากนี้ยังสนับสนุน . ตั้งแต่ปี 2010 เมื่อสหภาพยุโรปเปลี่ยนเป็นผู้ส่งออกสุทธิของผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร ดุลการค้ามีการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตีบันทึกใหม่ทุกปี และเข้าถึงลูกค้า 18.6 พันล้านในปี 2013 ( 2 )
การนำเข้าสินค้าเกษตรของไทยซึ่งยังคงจมปลักใน 2013 , ส่วนหนึ่งสะท้อนให้เห็นถึงความจริงที่ว่าความต้องการ EU ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ หลังวิกฤตเศรษฐกิจ บนมืออื่น ๆ , ราคา หลายสินค้ายังคงอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งทำให้มูลค่าการนำเข้าลง ( 3 )
เขาวิเคราะห์ 15 ผลิตภัณฑ์ส่งออกที่มีมากที่สุดที่ได้รับการส่งออก พบว่า โดยเฉลี่ยเพียง 10 % ของการเพิ่มขึ้นในการส่งออกของสหภาพยุโรปใน 2013 คือราคาในการขับเคลื่อนเหลือ 90% เป็นปริมาณที่ขับเคลื่อน ข้าวสาลี tops รายการของผลิตภัณฑ์ที่มีกำไรส่งออกที่ใหญ่ที่สุดในขณะที่การเจริญเติบโตในการส่งออกเครื่องดื่มชะลอตัวลง ( 4 )
ถึงแม้ว่าเรายังคงเป็นปลายทางยอดนิยมสำหรับ EU เกษตรผลิตภัณฑ์อาหาร ( นำโดยเครื่องดื่ม ) ไม่ใช่ตลาดส่งออกแบบไดนามิกมากที่สุดในปี 2013 แสดงการเจริญเติบโตเจียมเนื้อเจียมตัวระบุว่าในเวลาเดียวกันสหภาพยุโรปนำเข้าจากอเมริกา ( โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์ต่างๆสำหรับอาหารสัตว์ ) เพิ่มขึ้น 17% , ยุโรปเกษตรกรรมดุลการค้ากับสหรัฐลดลง ( 5 )


ต่อปีก่อนหน้านี้ ที่ใหญ่ที่สุดในสหภาพยุโรป มูลค่าการส่งออกสินค้าเกษตรแน่นอนได้รับใน 2013 คือประสบความสำเร็จในประเทศจีน ซึ่งเป็นตลาดที่เร็วที่สุดที่สองไป หลังจากซาอุดิอาระเบีย ในแง่ของญาติความต้องการของจีนสำหรับผลิตภัณฑ์ทางการเกษตร หนักแน่น แต่เปอร์เซ็นต์ของมูลค่านำเข้าชะลอตัวลง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเนื่องจากราคาที่ลดลง อย่างไรก็ตาม จีนได้กลายเป็นของโลกที่สามที่ใหญ่ที่สุดทั่วโลกและยังเป็นผู้ส่งออกสินค้าเกษตรผู้นำเข้าสำคัญยิ่งขึ้น แล้วตำแหน่งที่สี่ใน 2013 ( 6 )
ในเวลาเดียวกัน การส่งออกไปญี่ปุ่นลำบากผลของความต้องการที่อ่อนแอ และอัตราแลกเปลี่ยน ลบ ( 7 )
ในปี 2013 เราเกษตรอาหารส่งออก ยังรับผลกระทบจากภัยแล้งของปีก่อนหน้านี้ในการส่งออกโดยเฉพาะเมล็ดถั่วเหลืองและฝ้ายในประเทศจีน ด้านบนของราคาสินค้าส่งออกลดลง เราส่งออกยังแทนที่บางส่วนจากบราซิล ซึ่งเห็นของถั่วเหลืองส่งออกไปถึงหนึ่งในสาม บนมืออื่น ๆเราสามารถรายงานเป็นปีดีสำหรับข้าวสาลีขาย ซึ่งน่าสนใจบราซิลกลายเป็นปลายทางด้านบนข้างประเทศจีน ( 8 )
นอกจากผลของถั่วเหลือง และส่งออกข้าวโพด , บราซิล ร่วมเป็นสักขีพยานใน 2013 การชะลอตัวในการเจริญเติบโตของยอดส่งออกสินค้าเกษตร เป็นสินค้าราคาต่ำมาก . ข้ามการค้าเอทานอลระหว่างบราซิลและสหรัฐ คือการส่งออกเอทานอลอ้อยจากสหรัฐอเมริกา และนำเข้าเอทานอลจากข้าวโพดจากสหรัฐ ต่อไปในปี 2013 แต่กลับสุทธิสมดุลในความโปรดปรานของเรา การส่งออกของบราซิลจากเรามากกว่าสองเท่าในปี 2013 ( 9 )
รัสเซียส่งออกของสินค้าโภคภัณฑ์เกษตรได้รับความเดือดร้อนใน 2013 แม้ว่ารัสเซียนำเข้าเนื้อสัตว์น้อยลง น้ำตาล มันฝรั่ง ขาดดุลการค้าเพิ่มขึ้นจ่าย 20 ล้าน ( 10 )
ในปีก่อนหน้านี้ ใน 2013 อียูยังคงมียอดนำเข้าสินค้าจากประเทศที่พัฒนาน้อยที่สุด แม้ว่าหุ้นของการนำเข้าสินค้าเกษตรของสหภาพยุโรปเป็นเพียง 2.8% , มันเป็นมากกว่าค่าเฉลี่ย ( 0.4% ) ของหลักอื่น ๆเข้า ( สหรัฐอเมริกา , แคนาดา , ญี่ปุ่น , นิวซีแลนด์ , ออสเตรเลีย ) ( 11 )