Ben Jonson said that his family ori

Ben Jonson said that his family originally came from the folk of the Anglo-Scottish border country, which genealogy is verified by the three spindles (rhombi) in the Jonson family coat of arms. One spindle is a diamond-shaped heraldic device shared with the Border-country Johnstone family of Annandale. Jonson's clergyman father died two months before his birth; his mother married a master bricklayer two years later.[4][5] Jonson attended school in St. Martin's Lane. Later, a family friend paid for his studies at Westminster School, where the antiquarian, historian, topographer, and officer of arms, William Camden (1551–1623) was one of his masters. In the event, the pupil and the master became friends, and the intellectual influence of Camden's broad-ranging scholarship upon Jonson's art and literary style remained notable, until Camden's death in 1623.

On leaving Westminster School, Jonson was to have attended the University of Cambridge, to continue his book learning; but did not, because of his unwilled apprenticeship to his bricklayer stepfather.[2][4] According to the churchman and historian Thomas Fuller (1608–61), Jonson at this time built a garden wall in Lincoln's Inn. After having been an apprentice bricklayer, Ben Jonson went to Netherlands, and volunteered to soldier with the English regiments of Francis Vere (1560–1609), in Flanders.

The Hawthornden Manuscripts (1619), of the conversations between Ben Jonson and the poet William Drummond of Hawthornden (1585–1649), report that, when in Flanders, Jonson engaged, fought, and killed an enemy soldier in single combat, and took for trophies the weapons of the vanquished soldier.[6] After his military activity on the Continent, Jonson returned to England and worked as an actor and as a playwright. As an actor, Jonson was the protagonist “Hieronimo” (Geronimo) in the play The Spanish Tragedy (ca. 1586), by Thomas Kyd (1558–94), the first revenge tragedy in English literature. Moreover, by 1597, he was a working playwright employed by Philip Henslowe, the leading producer for the English public theatre; by the next year, the production of Every Man in His Humour (1598) had established Jonson's reputation as a dramatist.[7][8]

Regarding his marriage Jonson described his wife to William Drummond as "a shrew, yet honest". Since the seventeenth century, the identity of Jonson's wife has been obscure, yet she sometimes is identified as "Ann Lewis", the woman who married a Benjamin Jonson in 1594, at the church of St Magnus-the-Martyr, near London Bridge.[9] Concerning the family of Anne Lewis and Ben Jonson, the St. Martin church registers indicate that Mary Jonson, their eldest daughter, died in November 1593, at six months of age. That a decade later, in 1603, Benjamin Jonson, their eldest son, died of Bubonic plague when he was seven years old; to lament and honour the dead boy, Benjamin Jonson père wrote the elegiac On My First Sonne (1603). Moreover, thirty-two years later, a second son, also named Benjamin Jonson, died in 1635. In that period, Ann Lewis and Ben Jonson lived separate lives for five years; their matrimonial arrangement cast Ann Lewis as the housewife Jonson, and Ben Jonson as the artist who enjoyed the residential hospitality of his patrons, Sir Robert Townshend and Lord Aubigny, Esme Stuart, 3rd Duke of Lennox.[9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เบนโจนสันกล่าวว่า ครอบครัวของเขามาจากพื้นบ้านของประเทศของแดนอังกฤษอตภาษา ลำดับพงศ์ซึ่งตรวจสอบ โดยแกนที่สาม (rhombi) ในการโจนสันแฟมิลี่ตราแผ่นดิน แกนหนึ่งเป็นเพชรรูป heraldic อุปกรณ์ใช้ร่วมกันกับครอบครัวของ Annandale Johnstone ขอบประเทศ ของจอนสัน clergyman บิดาเสียชีวิต สองเดือนก่อนเขาเกิด แม่ของเขาแต่งงาน bricklayer หลักสองปีต่อมา[4][5] จอนสันร่วมโรงเรียนในเลนเซนต์มาร์ติน ภายหลัง เพื่อนครอบครัวจ่ายเขาศึกษาที่โรงเรียน Westminster เป็นหนึ่งในต้นแบบของเขาที่ antiquarian นักประวัติศาสตร์ topographer และเจ้าหน้าที่ของแผ่นดิน William Camden (1551 – สถาปนา) ในเหตุการณ์ ม่านและหลักการเป็น เพื่อน และอิทธิพลทางปัญญาการศึกษาช่วงกว้างของ Camden ศิลปะของจอนสันและสำนวนยังคงโดดเด่น จนตายของ Camden สถาปนาบนออกจากดาวโรงเรียน จอนสันได้เข้าร่วมประชุมมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ ต้องการเรียนหนังสือของเขา แต่ไม่ไม่ เพราะเขาฝึกงาน unwilled กับพ่อของเขา bricklayer[2][4] ตามการ churchman และนักประวัติศาสตร์ Thomas Fuller (1608 – 61), จอนสันครั้งนี้สร้างกำแพงสวนในของลินคอล์นอินน์ หลังจากมีการ bricklayer เป็นเด็กฝึกงาน เบนจอนสันไปเนเธอร์แลนด์ แล้ว volunteered ล้มลุกคลุกกับ regiments อังกฤษของ Francis เวียร์ (1560-1609), ในจังหวัดฟลานเดอร์เป็น Hawthornden (1619), ของการสนทนาระหว่างเบนจอนสันและกวี William ดรัมของ Hawthornden (1585-1649), รายงานว่า ในจังหวัดฟลานเดอร์ จอนสันหมั้น สู้ ฆ่าทหารเป็นศัตรูในการรบเดียว และเอาอาวุธของทหาร vanquished สำหรับถ้วยรางวัล[6] หลังจากเขากิจกรรมทางทหารบนทวีป จอนสันกลับไปอังกฤษ และทำงาน เป็นนักแสดง และตัวคุณเอง เป็นนักแสดง จอนสันได้ "Hieronimo" (เจอโรนิโม) ตัวเอกในโศกนาฏกรรมสเปน (ca. 1586), โดย Thomas Kyd (1558 – 94), โศกนาฏกรรมแก้แค้นครั้งแรกในวรรณคดีอังกฤษเล่น นอกจากนี้ โดย 1597 เขาถูกคุณทำงานที่จ้าง โดยฟิลิป Henslowe ผู้ผลิตชั้นนำสำหรับโรงละครสาธารณะภาษาอังกฤษ โดยปีหน้า การผลิตของทุกคนในอารมณ์ขันของพระองค์ (1598) ได้สร้างชื่อเสียงของจอนสันเป็นแบบ dramatist[7][8]เกี่ยวกับการแต่งงานของเขา โจนสันอธิบายภรรยากับ William ดรัมเป็น "a shrew ยังซื่อสัตย์" ตั้งแต่ศตวรรษ seventeenth ได้รับการปิดบังตัวตนของภรรยาของจอนสัน ยังเธอบางครั้งมีระบุเป็น "Ann ลูวิส" ผู้หญิงที่แต่งงานจอนสันเบนจามินใน 1594 ที่คริสตจักรของเซนต์แมกนัสเดอะมรณสักขี ใกล้กับลอนดอนบริดจ์[9] เกี่ยวกับครอบครัวของ Anne Lewis และเบนจอนสัน ทะเบียนโบสถ์เซนต์มาร์ตินระบุว่า มารีย์จอนสัน ลูกสาวคนโตของพวกเขา ตายใน 1593 พฤศจิกายน ที่หกเดือนของอายุ ว่า ทศวรรษต่อมา ในค.ศ. 1603 เบนจามินโจนสัน บุตรชายคนโตของพวกเขา ตายของกาฬโรคเมื่อเจ็ดปี ครวญ และเกียรติเด็กตาย เบนจามินโจนสัน père เขียน elegiac ที่ในซอนเนแรกของฉัน (ค.ศ. 1603) นอกจากนี้ สามสิบสองปีต่อมา ซันที่สอง ยัง ชื่อเบนจามินโจนสัน ตายใน 1635 ในช่วงเวลานั้น Ann Lewis และเบนจอนสันอาศัยชีวิตแยกห้าปี การจัดแต่งหล่อ Ann Lewis เป็นแม่บ้านจอนสัน และเบนโจนสันเป็นศิลปินที่ชอบการต้อนรับที่อยู่อาศัยของเขาอุปถัมภ์ เซอร์โรเบิร์ตทาวน์เซนด์ และพระ Aubigny, Esme Stuart ดุ๊ก 3 เลน[9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เบ็นกล่าวว่าครอบครัวของเขาเดิมมาจากพื้นบ้านของประเทศชายแดนแองโกลสก็อตซึ่งการลำดับวงศ์ตระกูลที่มีการยืนยันโดยสามแกน (rhombi) ในเสื้อครอบครัวจอห์นสันของแขน หนึ่งในแกนเป็นอุปกรณ์สื่อรูปเพชรที่ใช้ร่วมกันกับครอบครัวห์นสโตนชายแดนประเทศของเดล พ่อบาทหลวงจอห์นสันของเขาเสียชีวิตเมื่อสองเดือนก่อนเกิดของเขา; แม่ของเขาแต่งงานกับช่างปูนต้นแบบสองปีต่อมา. [4] [5] จอห์นสันเข้าโรงเรียนในเลนเซนต์มาร์ติน ต่อมาเพื่อนของครอบครัวที่จ่ายสำหรับการศึกษาของเขาที่โรงเรียนอาวที่โบราณวัตถุประวัติศาสตร์ผ้าขี้ริ้วและเจ้าหน้าที่ของแขนวิลเลียมแคมเดน (1551-1623) เป็นหนึ่งในต้นแบบของเขา ในกรณีที่นักเรียนและต้นแบบกลายเป็นเพื่อนและอิทธิพลทางปัญญาของแคมเดนทุนการศึกษาในวงกว้างตั้งแต่เมื่อศิลปะจอห์นสันและรูปแบบวรรณกรรมยังคงโดดเด่นจนตายของแคมเดนใน 1623. ออกจากโรงเรียน Westminster, จอห์นสันคือการได้เข้าเรียนที่มหาวิทยาลัย เคมบริดจ์เพื่อดำเนินการต่อการเรียนรู้หนังสือของเขา; แต่ไม่ได้เพราะของการฝึกงาน unwilled ของเขาที่จะพ่อเลี้ยงปูนของเขา. [2] [4] อ้างอิงจากนักบวชและนักประวัติศาสตร์โทมัสฟุลเลอร์ (1608-1661), จอห์นสันในเวลานี้สร้างกำแพงสวนในลินคอล์นอินน์ หลังจากที่มีการรับเด็กฝึกงานช่างก่ออิฐ, เบ็นไปประเทศเนเธอร์แลนด์และอาสาทหารกับทหารอังกฤษของฟรานซิ Vere (1560-1609) ในแฟลนเดอ. ต้นฉบับ Hawthornden (1619) ของการสนทนาระหว่างเบ็นและกวีวิลเลียม ดรัมมอนด์ของ Hawthornden (1585-1649), รายงานว่าเมื่ออยู่ในเดอร์ส, จอห์นสันมีส่วนร่วมต่อสู้และฆ่าทหารศัตรูในการต่อสู้เดียวและใช้เวลาเพื่อถ้วยรางวัลอาวุธของทหารสิ้นฤทธิ์. [6] หลังจากที่กิจกรรมทางทหารของเขาใน ทวีปจอห์นสันกลับไปอังกฤษและทำงานเป็นนักแสดงและนักเขียนบทละครเป็น ในฐานะที่เป็นนักแสดงจอห์นสันเป็นตัวชูโรง "Hieronimo" (Geronimo) ในละครโศกนาฏกรรมสเปน (แคลิฟอร์เนีย 1586) โดยโทมัส Kyd (1558-1594), โศกนาฏกรรมแก้แค้นครั้งแรกในวรรณคดีอังกฤษ นอกจากนี้โดย 1597 เขาเป็นนักเขียนบทละครที่ทำงานมีงานทำโดยฟิลิปสโลว์ผู้ผลิตชั้นนำสำหรับละครสาธารณะอังกฤษ; โดยในปีหน้าการผลิตของทุกคนในอารมณ์ขันของเขา (1598) ได้สร้างชื่อเสียงของจอห์นสันเป็นนักเขียนบทละคร. [7] [8] เกี่ยวกับการแต่งงานของเขาจอห์นสันอธิบายภรรยาของเขาวิลเลียมดรัมมอนด์เป็น "ปากร้าย แต่ความซื่อสัตย์" ตั้งแต่ศตวรรษที่สิบเจ็ดตัวตนของภรรยาของจอห์นสันได้รับการปิดบัง แต่บางครั้งเธอก็ถูกระบุว่าเป็น "แอนลูอิส" ผู้หญิงที่แต่งงานกับเบนจามินจอห์นสันใน 1594 ที่โบสถ์เซนต์แมกนัสที่พลีชีพใกล้กับสะพานลอนดอน [9] เกี่ยวกับครอบครัวของแอนน์ลูอิสและเบ็น, เซนต์มาร์ติลงทะเบียนคริสตจักรระบุว่าแมรี่จอห์นสันลูกสาวคนโตของพวกเขาเสียชีวิตในพฤศจิกายน 1593 เวลาหกเดือนของอายุ นั่นทศวรรษต่อมาใน 1603, เบนจามินจอห์นสัน, ลูกชายคนโตของพวกเขาเสียชีวิตจากกาฬโรคเมื่อเขาอายุได้เจ็ดขวบ; ที่จะเสียใจและให้เกียรติเด็กตายเบนจามินจอห์นสันpèreเขียนไว้อาลัยใน Sonne ครั้งแรกของฉัน (1603) นอกจากนี้สามสิบสองปีต่อมาลูกชายคนที่สองเช่นชื่อเบนจามินจอห์นสันเสียชีวิตในปี 1635 ในช่วงเวลาที่แอนลูอิสและเบ็นอาศัยอยู่ชีวิตที่แยกต่างหากสำหรับห้าปี จัดแต่งงานของพวกเขาโยนแอนลูอิสเป็นแม่บ้านจอห์นสันและเบนจอห์นสันเป็นศิลปินที่มีความสุขไปกับการต้อนรับที่อยู่อาศัยของลูกค้าของเขาเซอร์โรเบิร์ตทาวน์เซนด์และลอร์ด Aubigny เอสเม่จวร์ต 3 ดยุคแห่งเลนน็อกซ์. [9]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เบน จอนสัน กล่าวว่า ครอบครัวของเขาแต่เดิมมาจากเพลงพื้นบ้านของอังกฤษสกอตแลนด์ชายแดนประเทศ ซึ่งวงศ์ตระกูลคือการตรวจสอบโดยสามแกน ( rhombi ) ในจอนสันขนครอบครัวของแขน หนึ่งแกนเป็นเพชรรูปตราประจำตระกูลอุปกรณ์ร่วมกันกับชายแดนประเทศ Johnstone ครอบครัวของ Annandale . จอนสันของพระพ่อตายไปสองเดือนก่อนการเกิดของเขาแม่ของเขาแต่งงานกับหัวหน้าช่างปูน สองปีต่อมา [ 4 ] [ 5 ] จอนสันโรงเรียน ในซอย เซนต์ มาร์ติน ต่อมา เพื่อนของครอบครัวที่จ่ายสำหรับการศึกษาของเขาที่โรงเรียนเวสต์มินสเตอร์ ซึ่งโบราณวัตถุ , ประวัติศาสตร์ , ผู้เชี่ยวชาญการทำแผนที่และอธิบาย และเจ้าหน้าที่ของแขน วิลเลี่ยม แคมเดน ( 1551 –ค.ศ. 1623 ) คือหนึ่งในอาจารย์ของเขา ในเหตุการณ์ นักเรียนและอาจารย์เป็นเพื่อนกันแล้วและปัญญา อิทธิพลของ Camden เป็นกว้างตั้งแต่ทุนการศึกษาตามศิลปะและสไตล์วรรณกรรมยังคงเด่นสมบูรณ์ จนแคมเดน เสียชีวิตใน ค.ศ. 1623 .

จะไปโรงเรียนเวสต์มินสเตอร์ จอนสัน เพื่อเข้ามหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ เพื่อสานต่อการเรียนรู้หนังสือ แต่ไม่ได้ เพราะฝึกงาน unwilled ของเขาช่างปูนพ่อเลี้ยง[ 2 ] [ 4 ] ตามสัปปุรุษ และนักประวัติศาสตร์โทมัส ฟูลเลอร์ ( 1608 ( 61 ) , จอนสันในครั้งนี้สร้างกำแพงสวนใน Lincoln Inn หลังจากฝึกงานช่างปูน เบนจอนสันไปเนเธอร์แลนด์ และอาสาเป็นทหารกับทหารอังกฤษ ฟรานซิส เวียร์ ( 1560 ) ใน ) ในฟลานเดอร์ส

ต้นฉบับ hawthornden ( 1037 )การสนทนาระหว่างแอตแลนติสและกวีวิลเลียม Drummond ของ hawthornden ( ปลูกฝัง ( 817 ) รายงานว่า เมื่อในแฟลน จอนสัน ร่วมต่อสู้และฆ่าทหารศัตรูในการต่อสู้ และเอารางวัลอาวุธของทหารรักษา [ 6 ] หลังจากกิจกรรมทางทหารของเขาในทวีป จอนสันกลับมา อังกฤษและทำงานในฐานะนักแสดงและนักเขียนบทละคร . ในฐานะนักแสดงจอนสันคือตัวเอกของเรื่อง " hieronimo " ( สาด ) ในละครโศกนาฏกรรมสเปน ( CA . 1586 ) โดยโทมัส KYD ( 1237 – 94 ) , โศกนาฏกรรมแก้แค้นครั้งแรกในวรรณคดีอังกฤษ ยิ่งกว่านั้น นั่น เขาเป็นนักเขียนบทละครที่ใช้งานโดยฟิลิป henslowe , ผู้ผลิตชั้นนําในโรงละครสาธารณะภาษาอังกฤษ โดยในปีถัดไปการผลิตของผู้ชายทุกคนในอารมณ์ขันของเขา ( 1598 ) ได้ก่อตั้ง จอนสัน ชื่อเสียงในฐานะนักเขียนบทละคร [ 7 ] [ 8 ]

เกี่ยวกับการแต่งงานของเขา จอนสันอธิบายภรรยาวิลเลียม Drummond เป็น " ชนิดหนึ่ง แต่เที่ยงตรง " ตั้งแต่ศตวรรษที่สิบเจ็ด , เอกลักษณ์ของภรรยาที่สมบูรณ์ได้ปิดบัง แต่บางครั้งเธอถูกระบุว่าเป็น " แอน ลูอิส " ผู้หญิงที่แต่งงานกับเบนจามินโจนสันในปีนั้น ,ที่โบสถ์เซนต์แมกนัสทรมานใกล้ลอนดอน [ 9 ] เกี่ยวกับครอบครัวของแอน ลูอิส และเบน จอนสัน , เซนต์มาร์ตินโบสถ์นี้บ่งชี้ว่า แมรี่ จอนสัน ลูกสาวคนโตของพวกเขาเสียชีวิตในเดือนพฤศจิกายน 1551 ที่อายุหกเดือน ที่ทศวรรษที่ผ่านมาในภายหลังใน 1603 , เบนจามินโจนสัน ลูกชายคนโตของพวกเขาเสียชีวิตจากกาฬโรคเมื่อเขาอายุ 7 ปี เพื่อทบทวนและให้เกียรติเด็กตายเบนจามินโจนสัน P è re เขียนไว้อาลัยในที่สุดแรกของฉัน ( 1603 ) นอกจากนี้ ปี 32 หลัง ลูกที่สอง ยังชื่อ เบน จอนสัน เสียชีวิตเป็น . ในช่วงเวลานั้น แอน ลูอิส และเบน จอนสันอาศัยอยู่ชีวิตที่แยกต่างหากสำหรับห้าปี ของการแต่งงาน หล่อจัด แอน ลู เป็นแม่บ้านที่สมบูรณ์ และเบน จอนสัน เป็นศิลปินที่ชอบ การพักอาศัย ของลูกค้าของเขาเซอร์โรเบิร์ตทาวน์เซนด์และองค์ aubigny เอสเม่ สจ๊วต ที่ 3 ดยุคแห่งเลนน็อกซ์ . [ 9 ]