All projects are broadly divided in

All projects are broadly divided into two types of applications 2 tier and 3 tier architecture. Basically high level we can say that 2-tier architecture is Client server application and 3-tier architecture is Web based application. Below I am concentrating on the difference between Two-Tier and Three-Tier Architecture, what all advantages, disadvantages and practical example - See more at: http://www.softwaretestingclass.com/what-is-difference-between-two-tier-and-three-tier-architecture/#sthash.aLtGRx1T.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โครงการทั้งหมดทั่วไปแบ่งออกเป็นสองชนิดของโปรแกรมประยุกต์ 2 ชั้นและ 3 ชั้นสถาปัตยกรรม โดยทั่วไปเราสามารถพูดได้ว่า 2 ชั้นสถาปัตยกรรมไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์แอพลิเคชัน และสถาปัตยกรรม 3 ระดับคือ เว็บระดับสูงการประยุกต์ใช้ ด้านล่างผมกำลัง concentrating บนความแตกต่างระหว่างสองระดับและสถาปัตยกรรมสาม สิ่งทั้งหมดข้อดี ข้อเสีย และปฏิบัติ อย่าง - ดูเพิ่มเติมได้ที่: http://www.softwaretestingclass.com/what-is-difference-between-two-tier-and-three-tier-architecture/#sthash.aLtGRx1T.dpuf

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โครงการทั้งหมดจะถูกแบ่งออกเป็นสองประเภทของการใช้งาน 2 ชั้นและสถาปัตยกรรมชั้น 3 โดยทั่วไปในระดับสูงที่เราสามารถพูดได้ว่าสถาปัตยกรรม 2 ชั้นเป็นโปรแกรมไคลเอนต์เซิร์ฟเวอร์และสถาปัตยกรรม 3 ชั้นเป็นโปรแกรมบนเว็บ ด้านล่างนี้ผมกำลังจดจ่ออยู่กับความแตกต่างระหว่างสองชั้นและสามชั้นสถาปัตยกรรมสิ่งที่ข้อดีข้อเสียและตัวอย่างในทางปฏิบัติ - ดูเพิ่มเติมได้ที่:

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

โครงการทั้งหมดเป็นวงกว้างแบ่งออกเป็นสองประเภทของการใช้งาน 2 ชั้น และ 3 ชั้นสถาปัตยกรรม โดยทั่วไปเราสามารถพูดได้ว่าสถาปัตยกรรมระดับ 2-tier เป็นโปรแกรมไคลเอ็นต์เซิร์ฟเวอร์และสถาปัตยกรรม 3-tier เป็นโปรแกรมประยุกต์บนเว็บที่ใช้ ด้านล่างผมมุ่งเน้นความแตกต่างระหว่างระดับสองและสามระดับสถาปัตยกรรม อะไรทั้งหมด ข้อดี ข้อเสีย และตัวอย่างจริงดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http :/ / www.softwaretestingclass . com / อะไรคือความแตกต่างระหว่างระดับสองและสามระดับสถาปัตยกรรม / # sthash.altgrx1t.dpuf