As in the case of a spectrum from a

As in the case of a spectrum from a prism, we can plot the amplitudes of all the frequency components versus frequency of each component to produce a spectrum. For the square wave illustrated above, we get the following bar graph shown below. Each bar in this "line" spectrum represents the amplitude of one of the frequencies contained in the original square wave. As in the optical case discussed above, we call this type of spectrum where the components only exist at particular points along the frequency axis a line spectrum.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในกรณีของสเปกตรัมจากปริซึม เราสามารถพล็อตช่วงของส่วนประกอบความถี่ทั้งหมดเมื่อเทียบกับความถี่ของแต่ละส่วนเพื่อผลิตเป็นสเปกตรัม สำหรับคลื่นสี่เหลี่ยมที่แสดงข้างต้น เราได้กราฟแท่งต่อไปนี้ที่แสดงด้านล่าง แต่ละแถบสเปกตรัม "บรรทัด" นี้แทนความกว้างของความถี่ที่อยู่ในคลื่นสี่เหลี่ยมต้นฉบับ ในกรณีแสงที่กล่าวถึงข้างต้น เราเรียกคลื่นชนิดนี้ที่ส่วนประกอบเท่านั้นมีอยู่เฉพาะจุดตามแกนความถี่ของสเปกตรัมเส้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เช่นในกรณีของคลื่นความถี่จากปริซึมที่เราสามารถพล็อตของทุกช่วงกว้างของคลื่นความถี่ส่วนประกอบเมื่อเทียบกับความถี่ของแต่ละองค์ประกอบในการผลิตคลื่นความถี่ สำหรับคลื่นสี่เหลี่ยมที่แสดงข้างต้นเราได้รับกราฟแท่งแสดงด้านล่างต่อไปนี้ แต่ละแถบนี้ "สาย" คลื่นความถี่ที่แสดงให้เห็นถึงความกว้างของคลื่นความถี่ที่มีอยู่ในตารางคลื่นเดิม เช่นในกรณีแสงที่กล่าวข้างต้นเราเรียกประเภทของคลื่นความถี่ที่ส่วนประกอบเท่านั้นที่อยู่ในจุดโดยเฉพาะอย่างยิ่งตามความถี่แกนสเปกตรัมเส้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เช่นในกรณีของสเปกตรัมจากปริซึม เราสามารถแปลงแรงบิดทั้งหมดของส่วนประกอบความถี่ความถี่ของแต่ละองค์ประกอบในการผลิตสเปกตรัม สำหรับตารางคลื่นภาพประกอบข้างต้นที่เราได้รับตามกราฟแท่งที่แสดงด้านล่าง แต่ละแถบใน " สาย " สเปกตรัมแสดงแอมปลิจูดของความถี่ที่มีอยู่ในคลื่นสี่เหลี่ยมเดิมเช่นในกรณีแสงที่กล่าวข้างต้น เราเรียกว่าสเปกตรัมที่มีส่วนประกอบอยู่เพียงประเภทนี้ที่จุดใด รวมทั้งความถี่แกนเส้น สเปกตรัม