The incidence of respiratory distre

The incidence of respiratory distress syndrome
was 10.5% for infants who were born at 34 weeks
gestation and 0.3% at 38 weeks. Similarly, the incidence
of transient tachypnea of the newborn was 6.4% for
those who were born at 34 weeks and 0.4% at 38
weeks, pneumonia was 1.5% vs 0.1% and respiratory
failure was 1.6% vs 0.2% respectively(7). Some RDS
infants require mechanical ventilation depending on the
degree of prematurity, whereas 3.3% of infants born at
34 weeks need assisted ventilation(8). However
evidence showed that the rate of short-term respiratory
complications of late preterm newborns were higher
than those at term(9). Few studied examined the
differences of respiratory morbidities among late
preterm with different gestational age. However, the
data were limited due to small sample number(2,4-6).
Preterm cases accounted for at least 10% of all
deliveries at Bhumibol Adulyadej hospital. The
shortage of NICU beds and respirators are always
problematic. Decreasing the rate of infant with RDS
would lower the NICU admission and respiratory
support. To determine the complication of these late
preterm neonates in different gestation is important for
clinical decision.
Materials and Met

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อุบัติการณ์ของกลุ่มอาการทุกข์ทางเดินหายใจคือ 10.5% สำหรับทารกที่เกิดสัปดาห์ที่ 34ครรภ์และ 0.3% 38 สัปดาห์ ในทำนองเดียวกัน อุบัติการณ์ของภาวะหายใจเร็วชั่วคราวในทารกแรกเกิดเป็น 6.4%ผู้ที่เกิดที่ 34 สัปดาห์และ 0.4% ที่ 38สัปดาห์ ปอดบวมถูกเทียบกับ 1.5% 0.1% และทางเดินหายใจความล้มเหลวถูก respectively(7) 0.2% vs 1.6% บาง RDSทารกจำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจขึ้นอยู่กับการปริญญา prematurity ในขณะที่ 3.3% ของทารกที่เกิด34 สัปดาห์ต้องช่วย ventilation(8) อย่างไรก็ตามหลักฐานแสดงให้เห็นว่าระยะสั้นอัตราการหายใจภาวะแทรกซ้อนของทารกแรกเกิดคลอดบุตรก่อนกำหนดเวลาได้สูงกว่ากว่า term(9) ไม่กี่ศึกษาตรวจสอบการความแตกต่างของ morbidities ทางเดินหายใจระหว่างสายpreterm กับอายุครรภ์ที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม การข้อมูลมีจำกัดเนื่องจากตัว number(2,4-6)กรณีคลอดบุตรก่อนกำหนดสัดส่วนน้อย 10% ของทั้งหมดส่งที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช การปัญหาการขาดแคลนเตียง NICU และพกอยู่เสมอมีปัญหา ของทารกพร้อม RDSจะลดเข้า NICU และทางเดินหายใจการสนับสนุน การตรวจสอบภาวะแทรกซ้อนของปลายเหล่านี้ทารกแรกเกิดคลอดบุตรก่อนกำหนดในครรภ์แตกต่างกันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับการตัดสินใจทางคลินิกวัสดุ และพบ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อุบัติการณ์ของโรคระบบทางเดินหายใจ
เป็น 10.5% สำหรับเด็กทารกที่เกิดใน 34 สัปดาห์
ตั้งครรภ์และ 0.3% ในสัปดาห์ที่ 38 ในทำนองเดียวกันอุบัติการณ์
ของภาวะหายใจเร็วชั่วคราวในทารกแรกเกิดเป็น 6.4% สำหรับ
คนที่เกิดวันที่ 34 สัปดาห์และ 0.4% ใน 38
สัปดาห์, โรคปอดบวมเป็น 1.5% เทียบกับ 0.1% และระบบทางเดินหายใจ
ล้มเหลวเป็น 1.6% เทียบกับ 0.2% ตามลำดับ (7) บาง RDS
ทารกจะใช้เครื่องช่วยหายใจขึ้นอยู่กับ
ระดับของทารกเกิดก่อนกำหนดในขณะที่ 3.3% ของทารกเกิดที่
34 สัปดาห์ต้องระบายอากาศช่วย (8) อย่างไรก็ตาม
หลักฐานที่แสดงให้เห็นว่าอัตราการหายใจระยะสั้น
ภาวะแทรกซ้อนของทารกแรกเกิดที่คลอดก่อนกำหนดปลายสูง
กว่าผู้ที่มีระยะ (9) ไม่กี่ศึกษาตรวจสอบ
ความแตกต่างของการป่วยระบบทางเดินหายใจในหมู่ปลาย
คลอดก่อนกำหนดด้วยอายุครรภ์ที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตาม
ข้อมูลที่ถูก จำกัด เนื่องจากจำนวนกลุ่มตัวอย่างขนาดเล็ก (2,4-6).
กรณีคลอดก่อนกำหนดคิดเป็นอย่างน้อย 10% ของ
การส่งมอบที่โรงพยาบาลภูมิพลอดุลยเดช
ปัญหาการขาดแคลนเตียงหออภิบาลและเครื่องช่วยหายใจอยู่เสมอ
ที่มีปัญหา การลดอัตราทารกพร้อม RDS
จะลดค่าเข้าชมหออภิบาลและระบบทางเดินหายใจ
การสนับสนุน เพื่อตรวจสอบภาวะแทรกซ้อนเหล่านี้ปลาย
ทารกคลอดก่อนกำหนดในการตั้งครรภ์ที่แตกต่างกันเป็นสิ่งสำคัญสำหรับ
การตัดสินใจทางคลินิก.
วัสดุและได้พบกับ