As Orwell spent more and more time

As Orwell spent more and more time with the down-and-outs of England, he became convinced that the only remedy for the invidious problem of poverty lay in socialism, a political and economic philosophy arguing that only when the state controls the means of production and distribution will all members of a nation share its profits and rewards. Unlike capitalism, the philosophy holding that a nation's means of production and distribution should be privately owned and controlled, socialism argues that only government regulation of a nation's economy can close the gap between the rich and the poor. Although he was not a virulent anti-capitalist, Orwell did think that only with the gradual introduction of socialist ideas and practices into British life would the poor eventually come to share in the fruits of their nation's prosperity.

As he explained in his Preface to the Ukrainian edition of Animal Farm, "I became pro-Socialist more out of disgust with the way the poorer section of the industrial workers were oppressed and neglected than out of any theoretical admiration for a planned society." After fighting against fascism (an oppressive system of government in which the ruling party has complete economic control) in the Spanish Civil War, Orwell dedicated himself to exploring political questions in his writing. As he explains in the essay "Why I Write," "Every line of serious work I have written since 1936 has been written, directly or indirectly, against totalitarianism and for democratic socialism." His detestation and fear of totalitarianism — an even more extreme form of fascism in which the ruling party has complete control over all aspects of a people's lives — thus informed much of his literary output.

Orwell examined socialism in a number of his nonfiction works but was prompted to write Animal Farm by what he saw as a prevalent — and false — belief that the Russian Revolution of 1917 was a step toward socialism for millions of poor and oppressed Russians. Orwell felt that Stalin's brutal rise to power was not only barbaric, but a betrayal of the socialist principles for which Lenin, Trotsky, and he had presumably revolted. In hindsight, this seems obvious, but in the world of World War II Europe, such an attack on Russia was willingly stifled by many British leftists who wanted to believe that Russia was indeed moving toward a true union of socialist republics. The fact that Russia was — like England — fighting Hitler also made Orwell's position more unpalatable to leftist thinkers. Still, he felt that the U.S.S.R. was not progressing toward socialism but totalitarianism: "I was struck by clear signs of its transformation into a hierarchical society, in which the rulers have no more reason to give up their power than any ruling class." Convinced that "a destruction of the Soviet myth was essential if we wanted a revival of the Socialist movement," Orwell began thinking about how he could best communicate his opinions on socialism and Stalin.

His thoughts were ignited when he happened to see a village boy whipping a cart-horse. At that moment, Orwell received the inspiration he needed to formulate his ideas into Animal Farm: "It struck me that if only such animals became aware of their strength we would have no power over them, and that men exploit animals" as the government in a totalitarian state exploits the common people. Now Orwell had a plan for his novel which would both argue the need for a true socialist government and warn the world of the ways in which socialist ideas threatened the will of these in power who wish to control other people. His book would demonstrate the ways in which — despite all of their socialist propaganda — the leaders of the Russian Revolution (especially Stalin) had created in a system even worse than its previous one and sound an alarm to all English readers about the dangers of believing in the Soviet myth. (For a more detailed examination of how the events of the novel parallel those of the Russian Revolution, see the Critical Essays.) After a number of rejections from publishers, the novel was finally accepted by the small publishing firm of Secker and Warburg and proved to be a tremendous success, both in England and the United States. After Nineteen Eighty-Four, another novel that portrays life under an oppressive government, Animal Farm is Orwell's most renowned work.

Of course, the novel's meaning is not rooted solely in its portrayal of the Russian Revolution. The novel asks its readers to examine the ways in which political leaders with seemingly noble and altruistic motives can betray the very ideals in which they ostensibly believe, as well as the ways in which certain members of a nation can elect themselves to positions of great power and abuse their fellow citizens, all under the guise of assisting them. The novel also presents the subtle ways in which a group of citizens — of a farm or a nation — can be eventually led by the nose into a terrible life ruled by a totalitarian regime. In "Why I Write," Orwell describes Animal Farm as "the first book in which I tried, with full consciousness of what I was doing, to fuse political purpose and artistic purpose into one whole." His political purpose — presenting a model of socialism gone wrong — is found in the way that the novel's animals reflect different kinds of humans and their struggles for freedom and power. Orwell felt that a farm where "All Animals Are Equal" would solve many social and economic problems — but he also knew that such a system would be difficult to maintain, since some animals would act on the principle that "Some Are More Equal Than Others.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ออร์เวลล์เวลาขึ้น และเวลาเพิ่มเติมกับ down-and-outs ของอังกฤษ เขาก็มั่นใจว่า เพียงแก้ไขปัญหาความยากจนเปรยวางในสังคมนิยม ปรัชญาการเมือง และเศรษฐกิจ ที่โต้เถียงที่เฉพาะเมื่อรัฐควบคุมวิธีการผลิตและการกระจาย จะสมาชิกทั้งหมดของประเทศร่วมของผลกำไรและผลตอบแทน ซึ่งแตกต่างจากทุนนิยม ปรัชญาถือว่า พาหนะของประเทศที่ผลิตและจำหน่ายจะมีเอกชนเป็นเจ้าของ และ ควบคุม สังคมนิยมจนเท่ารัฐบาลควบคุมเศรษฐกิจของประเทศสามารถปิดช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้ virulent anti-capitalist ออร์เวลล์ได้ว่า เท่ากับแนะนำสมดุลของแนวคิดสังคมนิยม และปฏิบัติในอังกฤษชีวิตจะยากจนในที่สุด มาใช้ในผลไม้ของความเจริญรุ่งเรืองของชาติตามที่เขาอธิบายไว้เขา Preface รุ่นยูเครนของฟาร์มสัตว์ "เป็นสังคมนิยมสนับสนุนออกเพิ่มเติมของชังกับวิธีที่ถูกรุกราน และที่ไม่มีกิจกรรมมากกว่าจากการชื่นชมทฤษฎีสังคมแผนส่วนแรงงานอุตสาหกรรมย่อม" หลังจากสู้รบกับฟาสซิสต์ (ระบบการกดขี่ของรัฐบาลซึ่งฝ่ายปกครองที่ได้ควบคุมเศรษฐกิจ) ในสงครามกลางเมืองของสเปน ออร์เวลล์ทรงอุทิศพระองค์เพื่อสำรวจคำถามทางการเมืองในการเขียนของเขา ตามที่เขาอธิบายในเรียงความ "ทำไม I เขียน" "ทุกบรรทัดของงานอย่างจริงจังเพราะมีเขียนตั้งแต่ค.ศ. 1936 มีการเขียน โดยตรง หรือโดย อ้อม กับ totalitarianism และสังคมนิยมประชาธิปไตย" Detestation ของเขาและความกลัวของ totalitarianism — ฟาสซิสต์ที่ฝ่ายปกครองมีควบคุมทุกด้านของชีวิตของผู้คนรูปแบบมากขึ้น — จึง ทราบมากผลผลิตวรรณกรรมของเขาออร์เวลล์สังคมนิยมในจำนวนผลงาน nonfiction ตรวจสอบ แต่ได้รับการพร้อมท์เพื่อเขียนฟาร์มสัตว์ โดยสิ่งที่เขาเห็นเป็นแพร่หลาย — และเท็จซึ่งเชื่อว่า การปฏิวัติรัสเซีย 1917 ของก้าวสังคมนิยมนับล้านของคนจน และถูกรุกรานนี่ ออร์เวลล์รู้สึกว่า ขึ้นโหดร้ายของสตาลินอำนาจไม่เพียงแต่ป่า เถื่อน แต่กลับหลักการสังคมนิยมที่เลนิน Trotsky และสันนิษฐานว่ามี revolted ใน hindsight นี้ดูเหมือนชัดเจน แต่ในโลกของยุโรปสงครามโลก เช่นการโจมตีรัสเซียถูกอาศัย stifled โดย leftists อังกฤษจำนวนมากที่ต้องการเชื่อว่า รัสเซียถูกย้ายจริงต่อสหภาพแรงงานที่แท้จริงของชาติสังคมนิยม ข้อเท็จจริงที่รัสเซีย — ชอบอังกฤษ — ต่อสู้ฮิตเลอร์ยังทำตำแหน่งของออร์เวลล์ขึ้นปร่า thinkers ทั้ง ยังคง เขารู้สึกว่า U.S.S.R. ที่มีไม่ความก้าวหน้าไปสู่สังคมนิยมแต่ totalitarianism: "ฉันหลง โดยสัญญาณชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงในสังคมตามลำดับชั้น ที่มีเหตุผลมากขึ้นให้อำนาจมากกว่าชั้นปกครองใด ๆ " ออร์เวลล์เริ่มคิดว่าเขาสามารถสื่อความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับสังคมนิยมและสตาลินส่วนความเชื่อมั่นว่า "ทำลายของตำนานโซเวียตสำคัญเราต้องฟื้นฟูของการเคลื่อนไหวสังคมนิยม"ความคิดของเขาถูกลุกเมื่อเขาเกิดไปดูหมู่บ้านเด็กผู้ชาย whipping รถม้า ในขณะที่ ออร์เวลล์ได้รับแรงบันดาลใจที่เขาจำเป็นต้องกำหนดความคิดของเขาในฟาร์มสัตว์: "หลงผมว่า ถ้ามีเพียงสัตว์ดังกล่าวเริ่มตระหนักถึงความแข็งแรงของพวกเขา เราจะไม่มีอำนาจเหล่านั้น และว่า มนุษย์ใช้ประโยชน์สัตว์" เป็นรัฐบาลในประโยชน์รัฐคริสต์คนทั่วไป ตอนนี้ ออร์เวลล์ได้แผนในนวนิยายของเขาที่จะโต้แย้งต้องรัฐบาลสังคมนิยมจริง และเตือนโลกของแบบซึ่งความคิดสังคมนิยมถูกคุกคามของอำนาจเหล่านี้ที่ต้องการควบคุมคนอื่น หนังสือของเขาจะแสดงให้เห็นถึงวิธีการซึ่งแม้ มีการโฆษณาชวนเชื่อของสังคมนิยมทั้งหมด — ผู้นำการปฏิวัติรัสเซีย (โดยเฉพาะสตาลิน) มีสร้างในระบบแย่กว่าตัวก่อนหน้านี้ และเสียงปลุกผู้อ่านภาษาอังกฤษทั้งหมดเกี่ยวกับอันตรายของการเชื่อในตำนานโซเวียต (ตรวจสอบรายละเอียดเพิ่มเติมวิธี เหตุการณ์ในนิยายแบบขนานของการปฏิวัติรัสเซีย ดูเรียงความสำคัญ) หลังจากจำนวนปฏิเสธจากผู้เผยแพร่ นวนิยายสุดท้ายยอมรับบริษัทประกาศเล็ก Secker และวอร์เบิร์ก และพิสูจน์ให้ สำเร็จมหาศาล ทั้ง ในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา หลังจาก Nineteen Eighty-Four นวนิยายอีกที่ portrays ชีวิตภายใต้รัฐบาลที่กดขี่ ฟาร์มสัตว์ได้ทำชื่อเสียงที่สุดของออร์เวลล์แน่นอน ความหมายของนวนิยายจะไม่รากแต่เพียงผู้เดียวในการวาดภาพของการปฏิวัติรัสเซีย นวนิยายการถามการอ่านการตรวจสอบแบบที่ผู้นำทางการเมืองกับโนเบิล และ altruistic ดูเหมือนว่าจะไม่สนคำครหาสามารถทรยศอุดมคติมากซึ่งรัฐบาลเชื่อว่า และวิธีการที่สมาชิกบางชาติสามารถเลือกตัวเองไปยังตำแหน่งของอำนาจ และละเมิดเพื่อนประชาชน ภายใต้ครอบให้ความช่วยเหลือพวกเขาทั้งหมด นวนิยายแสดงแบบรายละเอียดซึ่งยังกลุ่มประชาชน — ฟาร์มหรือประเทศซึ่งสามารถได้ในที่สุดนำ โดยจมูกเป็นชีวิตน่ากลัวที่ปกครอง โดยระบอบคริสต์ได้ ใน "ทำไม I เขียน ออร์เวลล์อธิบายฟาร์มสัตว์เป็น"สมุดบัญชีแรกที่ฉันพยายาม มีสติเต็มของฉันไม่ทำอะไร การฟิวส์วัตถุประสงค์ทางการเมืองและวัตถุประสงค์ของศิลปะลงในทั้งหมดหนึ่ง" วัตถุประสงค์ทางการเมืองของเขา — นำเสนอรูปแบบของสังคมนิยมไปไม่ถูกต้องซึ่งพบในลักษณะของนวนิยายสัตว์สะท้อนให้เห็นถึงชนิดต่าง ๆ ของมนุษย์และการต่อสู้ของพวกเขาสำหรับเสรีภาพและอำนาจ ออร์เวลล์รู้สึกว่า ฟาร์มที่ "สัตว์ทุกตัวจะเท่ากับ" จะแก้ปัญหาสังคม และเศรษฐกิจมากมาย — แต่เขายังรู้ว่า ระบบดังกล่าวจะยากต่อการรักษา เนื่องจากสัตว์บางอย่างจะดำเนินการบนหลักการว่า "ได้เท่ากันมากขึ้นกว่าคนอื่น ๆ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในฐานะที่เป็นเวลล์ใช้เวลามากขึ้นและมีเวลามากขึ้นกับลงและลึกหนาบางของอังกฤษเขาก็เชื่อว่าวิธีการรักษาที่เฉพาะสำหรับปัญหาที่เกิดขึ้นไม่ยุติธรรมของความยากจนอยู่ในสังคมนิยมปรัชญาทางการเมืองและเศรษฐกิจเถียงว่าก็ต่อเมื่อรัฐควบคุมปัจจัยการผลิต และการจัดจำหน่ายจะสมาชิกทุกคนในประเทศที่จะแบ่งปันผลกำไรและผลตอบแทนของ ซึ่งแตกต่างจากระบบทุนนิยมปรัชญาถือได้ว่าวิธีการของประเทศการผลิตและการจัดจำหน่ายควรจะเป็นของเอกชนและควบคุมสังคมนิยมระบุว่ากฎระเบียบของรัฐบาลเพียงอย่างเดียวของเศรษฐกิจของประเทศสามารถปิดช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน แม้ว่าเขาจะไม่ได้ต่อต้านทุนนิยมรุนแรงเวลล์ไม่คิดว่าเพียง แต่มีการเปิดตัวทีละน้อยของความคิดสังคมนิยมและการปฏิบัติที่เข้ามาในชีวิตของอังกฤษในที่สุดก็ไม่ดีจะมามีส่วนร่วมในผลของความเจริญรุ่งเรืองของประเทศของพวกเขา. ในขณะที่เขาอธิบายในคำนำของเขาไป รุ่นของยูเครนฟาร์มสัตว์ "ฉันกลายเป็นโปรสังคมนิยมมากขึ้นจากการรังเกียจด้วยวิธีการส่วนด้อยของคนงานในโรงงานอุตสาหกรรมถูกข่มเหงและถูกทอดทิ้งกว่าจากความชื่นชมในทางทฤษฎีใด ๆ สำหรับการวางแผนสังคม." หลังจากการต่อสู้กับลัทธิฟาสซิสต์ (ระบบการกดขี่ของรัฐบาลในการที่พรรคมีการควบคุมทางเศรษฐกิจสมบูรณ์) ในสงครามกลางเมืองสเปนเวลล์ทุ่มเทตัวเองเพื่อสำรวจคำถามทางการเมืองในการเขียนของเขา ในขณะที่เขาอธิบายในบทความ "ทำไมฉันเขียน", "ทุกบรรทัดของการทำงานอย่างจริงจังฉันได้เขียนตั้งแต่ 1936 ได้รับการเขียนโดยตรงหรือโดยอ้อมกับเผด็จการและระบอบสังคมนิยม." เขาเกลียดชังและความกลัวของเผด็จการ - แม้รูปแบบที่รุนแรงมากขึ้นของลัทธิฟาสซิสต์ซึ่งในพรรคมีการควบคุมที่สมบูรณ์มากกว่าทุกแง่มุมของชีวิตของผู้คน - จึงแจ้งมากของการส่งออกวรรณกรรมของเขา. เวลล์ตรวจสอบสังคมนิยมในจำนวนของผลงานสารคดีของเขาเป็น ได้รับแจ้งให้เขียนฟาร์มสัตว์สิ่งที่เขาเห็นเป็นที่แพร่หลาย - และเท็จ - ความเชื่อที่ว่าการปฏิวัติรัสเซีย 1917 เป็นขั้นตอนไปสู่สังคมนิยมสำหรับล้านของรัสเซียที่ยากจนและถูกกดขี่ เวลล์รู้สึกว่าการเพิ่มขึ้นของสตาลินที่โหดร้ายสู่อำนาจป่าเถื่อนไม่ได้เพียง แต่การทรยศของหลักการสังคมนิยมที่เลนินรอทสกี้และเขาก็ไม่เห็นน่าจะ ย้อนหลังนี้ดูเหมือนชัดเจน แต่ในโลกของสงครามโลกครั้งที่สองยุโรปเช่นโจมตีรัสเซียกลั้นความเต็มใจโดยพวกซ้ายชาวอังกฤษหลายคนที่อยากจะเชื่อว่ารัสเซียแน่นอนย้ายไปยังสหภาพที่แท้จริงของสาธารณรัฐสังคมนิยม ความจริงที่ว่ารัสเซียที่ชอบ - อังกฤษ - การต่อสู้ของฮิตเลอร์ยังทำให้ตำแหน่งของเวลล์ไม่อร่อยมากขึ้นที่จะเป็นนักคิดฝ่ายซ้าย แต่ถึงกระนั้นเขารู้สึกว่าล้าหลังไม่ได้พัฒนาไปสู่สังคมนิยม แต่เผด็จการ "ผมหลงโดยสัญญาณที่ชัดเจนของการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมที่มีลำดับชั้นในการที่ผู้ปกครองไม่มีเหตุผลที่จะให้ขึ้นอำนาจของพวกเขามากกว่าชนชั้นปกครองใด ๆ ." เชื่อว่า "การล่มสลายของตำนานโซเวียตเป็นสิ่งสำคัญหากเราต้องการการฟื้นตัวของการเคลื่อนไหวสังคมนิยม" เวลล์เริ่มคิดเกี่ยวกับวิธีการที่เขาสามารถที่ดีที่สุดในการสื่อสารความคิดเห็นของเขาเกี่ยวกับสังคมนิยมและสตาลิน. ความคิดของเขาได้จุดประกายเมื่อเขาเกิดขึ้นที่จะเห็นเด็กในหมู่บ้าน ตีรถม้า ในขณะที่เวลล์ได้รับแรงบันดาลใจที่เขาต้องการที่จะกำหนดความคิดของเขาในฟาร์มสัตว์ "มันหลงฉันว่าถ้าเพียงสัตว์เช่นเริ่มตระหนักถึงความแรงของพวกเขาเราจะไม่มีอำนาจเหนือพวกเขาและที่คนใช้ประโยชน์จากสัตว์" ในขณะที่รัฐบาลใน รัฐเผด็จการใช้ประโยชน์จากคนทั่วไป ตอนนี้เวลล์มีการวางแผนสำหรับนวนิยายของเขาซึ่งทั้งสองจะยืนยันความจำเป็นในการที่รัฐบาลสังคมนิยมจริงและเตือนโลกของวิธีการที่ความคิดสังคมนิยมขู่ประสงค์ของเหล่านี้อยู่ในอำนาจที่มีความประสงค์ที่จะควบคุมคนอื่น ๆ หนังสือของเขาที่จะแสดงให้เห็นถึงวิธีการที่ - แม้จะมีทั้งหมดของการโฆษณาชวนเชื่อสังคมนิยมของพวกเขา - ผู้นำของการปฏิวัติรัสเซีย (โดยเฉพาะสตาลิน) ได้สร้างขึ้นในระบบที่เลวร้ายยิ่งกว่าเดิมและเสียงสัญญาณเตือนภัยให้กับผู้อ่านภาษาอังกฤษทั้งหมดเกี่ยวกับอันตรายของการเชื่อ ในตำนานของสหภาพโซเวียต (สำหรับการตรวจสอบรายละเอียดของวิธีการที่เหตุการณ์ในนวนิยายขนานที่ของการปฏิวัติรัสเซียให้ดูบทความที่สำคัญ.) หลังจากที่จำนวนของการถูกปฏิเสธจากสำนักพิมพ์นวนิยายเรื่องนี้ได้รับการยอมรับในที่สุดโดย บริษัท สำนักพิมพ์เล็ก ๆ ของ Secker และวอร์เบิร์กและพิสูจน์แล้วว่า จะประสบความสำเร็จอย่างมากทั้งในอังกฤษและสหรัฐอเมริกา หลังจากที่เก้าสิบสี่นวนิยายที่สะท้อนชีวิตภายใต้รัฐบาลเผด็จการอีกฟาร์มสัตว์เป็นผลงานที่มีชื่อเสียงมากที่สุดของเวลล์. แน่นอนความหมายของนิยายไม่ได้ฝังราก แต่เพียงผู้เดียวในภาพของการปฏิวัติรัสเซีย นวนิยายเรื่องนี้ขอให้ผู้อ่านที่จะตรวจสอบวิธีการที่ผู้นำทางการเมืองที่มีแรงจูงใจที่ดูเหมือนจะมีเกียรติและเห็นแก่ผู้อื่นสามารถทรยศต่ออุดมการณ์มากในการที่พวกเขาอย่างเห็นได้ชัดเชื่อเช่นเดียวกับวิธีการที่สมาชิกบางประเทศสามารถเลือกที่ตัวเองไปอยู่ในตำแหน่งของพลังอันยิ่งใหญ่ และการละเมิดพลเมืองที่เป็นเพื่อนของพวกเขาทั้งหมดภายใต้หน้ากากของการให้ความช่วยเหลือพวกเขา นวนิยายเรื่องนี้ยังมีการจัดรูปแบบที่ลึกซึ้งซึ่งในกลุ่มของประชาชน - ของฟาร์มหรือประเทศ - สามารถนำไปในที่สุดโดยจมูกเป็นชีวิตที่น่ากลัวปกครองโดยเผด็จการระบอบการปกครอง ใน "ทำไมฉันเขียน" เวลล์อธิบายฟาร์มสัตว์เป็น "หนังสือเล่มแรกที่ฉันพยายามมีสติเต็มรูปแบบของสิ่งที่ผมทำเพื่อจุดประสงค์ทางการเมืองหลอมรวมและวัตถุประสงค์ศิลปะเป็นหนึ่งทั้ง." วัตถุประสงค์ทางการเมืองของเขา - นำเสนอรูปแบบของสังคมนิยมไปผิด - ถูกพบในวิธีการที่สัตว์นวนิยายสะท้อนให้เห็นถึงแตกต่างกันของมนุษย์และการต่อสู้ของพวกเขาเพื่อเสรีภาพและอำนาจ เวลล์รู้สึกว่าฟาร์มที่ "สัตว์ทั้งหมดเท่ากัน" จะแก้ปัญหาทางสังคมและเศรษฐกิจจำนวนมาก - แต่เขาก็รู้ว่าระบบดังกล่าวจะเป็นเรื่องยากที่จะรักษาเนื่องจากสัตว์บางชนิดจะทำหน้าที่บนหลักการที่ว่า "บางคนมีความเท่าเทียมกันมากกว่าคนอื่น ๆ .

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ตามที่ Orwell ใช้เวลามากขึ้นกับลงลึกหนาบางของอังกฤษ เขาจึงมั่นใจว่า การแก้ไขปัญหาความยากจน สำหรับสินค้าที่ไม่ต้องการวางในสังคมนิยม , ปรัชญาทางการเมืองและเศรษฐกิจที่ถกเถียงกันว่า เมื่อรัฐควบคุมวิธีการของการผลิตและการกระจายสินค้าจะให้สมาชิกทุกคนในประเทศมีส่วนแบ่งผลกำไรและผลตอบแทน ซึ่งแตกต่างจากทุนนิยมปรัชญาถือของประเทศ หมายถึง การผลิตและการกระจายควรเป็นเจ้าของและควบคุม ระบบสังคมนิยม ระบุว่าระเบียบของรัฐบาลของเศรษฐกิจของประเทศ สามารถปิดช่องว่างระหว่างคนรวยและคนจน ถึงแม้ว่าเขาไม่ได้รุนแรงต่อต้านนายทุน ,ออร์เวลล์คิดว่าเฉพาะกับค่อยๆแนะนำความคิดสังคมนิยมและการปฏิบัติในชีวิต จนในที่สุดอังกฤษจะมาร่วมกันในผลของความเจริญรุ่งเรืองของประเทศของพวกเขา .

ตามที่เขาอธิบายในคำนำของเขากับรุ่นยูเครนของฟาร์มสัตว์" ฉันกลายเป็นโปรสังคมนิยมมากขึ้นจากการรังเกียจกับวิธีที่ยากจนส่วนของคนงานถูกข่มเหงและถูกทอดทิ้งมากกว่า จากทฤษฎีการชื่นชมแผนสังคม หลังจากต่อสู้กับลัทธิฟาสซิสต์ ( ระบบการกดขี่ของรัฐบาลที่พรรครัฐบาลมีการควบคุมทางเศรษฐกิจสมบูรณ์ ) ในสงครามกลางเมืองของสเปนออร์เวลล์อุทิศตนเพื่อสำรวจคำถามทางการเมืองในการเขียนของเขา ที่เขาอธิบายในบทความ " ทำไมฉันเขียน " , " ทุกบรรทัดงานจริงจังผมเขียนตั้งแต่ 1936 ได้ถูกเขียนไว้โดยตรงหรือโดยอ้อมกับการปกครองแบบเผด็จการ และสังคมนิยมประชาธิปไตย" ของเขาที่เกลียดชังและความกลัวของลัทธิเผด็จการ - แม้รุนแรงมากขึ้นในรูปแบบของลัทธิฟาสซิสต์ซึ่งพรรคจะควบคุมทุกด้านของชีวิต - ประชาชนจึงแจ้งมาก

ออกวรรณกรรมของเขา