จากคำกล่าวที่ว่า “การศึกษาสร้างคน ค

จากคำกล่าวที่ว่า “การศึกษาสร้างคน คนสร้างชาติ” คือการที่ประเทศชาติจะพัฒนาได้นั้นจำเป็นต้องมีทรัพยากรบุคคลภายในประเทศที่มีความรู้ความสามารถ ที่จะช่วยกันพัฒนาเพื่อแข่งขันกับประเทศต่างๆ ได้อย่างทัดเทียม ฉะนั้นการสร้างคนจะต้องเริ่มตั้งแต่ในเด็กและเยาวชน ดังในคำกล่าวที่ว่า “เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ในปัจจุบันเด็กและเยาวชนได้รับการเข้าเรียนในโรงเรียน โดยมีเป้าหมายของการศึกษาคือจะต้องพัฒนาให้มีความพร้อมทั้ง ด้านร่างกาย ด้านจิตใจ ด้านอารมณ์ ด้านสังคม และด้านสติปัญญา โดยในส่วนของวิชาพลศึกษามีเป้าหมายที่จะพัฒนาผู้เรียนให้มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ มีทักษะในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ รวมไปถึงการคิดวางแผนหรือการพัฒนาทักษะต่างๆ ของตนเอง จึงแสดงให้เห็นว่าในขณะที่เด็กได้เล่นกีฬาอยู่นั้นเขาจะต้องบูรณาการความรู้ ความเข้าใจ ทักษะและความสามารถทั้งหมดของเขาแสดงออกมาอย่างเต็มที่ และช่วยให้เขาสามารถมองเห็นว่าการใช้ชีวิตในสังคมก็เปรียบเสมือนการแข่งขันกีฬาที่จะต้องมีการแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นในการอยู่ร่วมกันในสังคมของชีวิตจริงเขาก็จะอยู่ร่วมกันอย่างผู้มีน้ำใจนักกีฬา ด้วยเหตุนี้การพลศึกษาจึงเป็นส่วนประกอบหนึ่งของการสร้างสังคมโดยเริ่มจากการปลูกฝังในเด็กและเยาวชนให้มีใจรักในการออกกำลังกายและเล่นกีฬา ปลูกฝังให้เด็กรู้จักบทบาทหน้าที่ในสังคม และเคารพในกฏกติกาของสังคม ดังนั้นพลศึกษาไม่ได้ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง สมบูรณ์ แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่ยังช่วยพัฒนาการการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่น ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการดำเนินชีวิต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากคำกล่าวที่ว่า ?? การศึกษาสร้างคนคนสร้างชาติ ?? ได้อย่างทัดเทียม ดังในคำกล่าวที่ว่า ?? เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้า ด้านร่างกายด้านจิตใจด้านอารมณ์ด้านสังคมและด้านสติปัญญา มีทักษะในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆ ของตนเอง ความเข้าใจ และเคารพในกฏกติกาของสังคม สมบูรณ์ แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากคำกล่าวที่ว่า“การศึกษาสร้างคนคนสร้างชาติ”คือการที่ประเทศชาติจะพัฒนาได้นั้นจำเป็นต้องมีทรัพยากรบุคคลภายในประเทศที่มีความรู้ความสามารถที่จะช่วยกันพัฒนาเพื่อแข่งขันกับประเทศต่างๆได้อย่างทัดเทียมฉะนั้นการสร้างคนจะต้องเริ่มตั้งแต่ในเด็กและเยาวชนดังใน คำกล่าวที่ว่า“เด็กในวันนี้คือผู้ใหญ่ในวันหน้าในปัจจุบันเด็กและเยาวชนได้รับการเข้าเรียนในโรงเรียนโดยมีเป้าหมายของการศึกษาคือจะต้องพัฒนาให้มีความพร้อมทั้งด้านร่างกายด้านจิตใจด้านอารมณ์ด้านสังคมและด้านสติปัญญาโดยในส่วนของวิชาพลศึกษามีเป้าหมายที่จะพัฒ นาผู้เรียนให้มีร่างกายที่สมบูรณ์แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บมีทักษะในการปฏิบัติกิจกรรมต่างๆรวมไปถึงการคิดวางแผนหรือการพัฒนาทักษะต่างๆของตนเองจึงแสดงให้เห็นว่าในขณะที่เด็กได้เล่นกีฬาอยู่นั้นเขาจะต้องบูรณาการความรู้ความเข้าใจทักษะและความสามารถทั้งหมด ของเขาแสดงออกมาอย่างเต็มที่และช่วยให้เขาสามารถมองเห็นว่าการใช้ชีวิตในสังคมก็เปรียบเสมือนการแข่งขันกีฬาที่จะต้องมีการแข่งขันกันอยู่ตลอดเวลาดังนั้นในการอยู่ร่วมกันในสังคมของชีวิตจริงเขาก็จะอยู่ร่วมกันอย่างผู้มีน้ำใจนักกีฬาด้วยเหตุนี้การพลศึกษาจึงเป็น ส่วนประกอบหนึ่งของการสร้างสังคมโดยเริ่มจากการปลูกฝังในเด็กและเยาวชนให้มีใจรักในการออกกำลังกายและเล่นกีฬาปลูกฝังให้เด็กรู้จักบทบาทหน้าที่ในสังคมและเคารพในกฏกติกาของสังคมดังนั้นพลศึกษาไม่ได้ทำให้สุขภาพร่างกายแข็งแรงสมบูรณ์แต่เพียงอย่างเดียวเท่านั้นคุน ต่ยังช่วยพัฒนาการการใช้ชีวิตร่วมกับผู้อื่นซึ่งเป็นรากฐานสำคัญในการดำเนินชีวิต