History of Loy Krathong A crowd wit

History of Loy Krathong


A crowd with flickering light of candles and color of flowers decorating floating object is familiar scene in a celebration occurring in a twelfth month in lunar calendar. It is one of wonderful Asian cultures when rivers and canals are full of water. Since we have been a kid, I guess everyone must be impressed with this festive occasion in November - Loy Krathong. Most of us are convinced that floating objects or Krathongs are originated in Sukhothai by Tao Sri Chulalak or Nang Noppamas, who was one of Phra Ruang’s wives. However, some assert that the story was written in the reign of Rama III merely to advocate women on role model of a good wife, as no evidence is found to prove the festival’s existence. They believe that Loy Krathong has just been celebrated since the end of Ayutthaya. Despite the confusing history, this gracious culture is still alive. People still conducts this ritual not only to worship the footprint of the Buddha on a riverside in India, but also to pay respect to Chulamanee Chedi in heaven. Another well-known purpose is to show their gratitude to the Goddess of the Water on their plentiful use of water and ask for forgiveness in the ensuing pollution. Moreover, many people believe that floating the beautiful Krathong away also refers to flying away misfortune and bad things in the past and asking for good luck in the future.

In Thailand, people enjoy creating their own Krathong made from natural resources, such as leaves and trunks of banana adorned with flowers. Some might use bread instead of synthetic materials showing their concern for environment. Other than flowers, a candle and incense sticks, we often put some coins or betel pepper and nut in our Krathongs. And that’s why our Krathongs can’t drift any further as they are raided for little money. Nevertheless, Loy Krathong Festival remains the most romantic and favorite occasion for a number of people and still best represents our gratitude.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประวัติลอยกระทง ฝูงชน ด้วยการกระพริบแสงของเทียนและสีของดอกไม้ผสมวัตถุลอยเป็นฉากที่คุ้นเคยในการเฉลิมฉลองที่เกิดขึ้นในเดือนสิบสองในปฏิทินจันทรคติ มันเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมเอเชียยอดเยี่ยมเมื่อแม่น้ำลำคลองเต็มไปด้วยน้ำ เนื่องจากเราได้รับเด็ก ผมคิดว่า ทุกคนต้องประทับใจกับโอกาสนี้เทศกาลในเดือนพฤศจิกายน - วันลอยกระทง ส่วนมากของเรามีความเชื่อมั่นที่วัตถุลอยหรือ Krathongs มีกำเนิดในสุโขทัยโดยเต่าศรี Chulalak นาง Noppamas ผู้เป็นภรรยาพระเรืองหนึ่ง อย่างไรก็ตาม บางยืนยันรูปว่า เรื่องถูกเขียนขึ้นในรัชสมัยของพระราม III เพียงเพื่อสนับสนุนผู้หญิงในแบบของภรรยาที่ดี เป็นหลักฐานไม่พบเพื่อพิสูจน์การมีอยู่ของเทศกาล พวกเขาเชื่อว่า ลอยกระทงมีเพียงการเฉลิมฉลองนับตั้งแต่สิ้นสุดของอยุธยา แม้ มีประวัติสับสน วัฒนธรรมเมตตานี้จะยังมีชีวิตอยู่ คนยังคงดำเนินพิธีกรรมนี้ไม่เพียง เพื่อบูชารอยพระบนริมแม่น้ำในอินเดีย แต่นับถือ Chulamanee เจดีย์ในสวรรค์ วัตถุประสงค์อื่นที่รู้จักกันดีคือการ แสดงความกตัญญูของเทพเจ้าแห่งท้องน้ำใช้อุดมสมบูรณ์ของน้ำ และขออภัยโทษในมลพิษเพราะ นอกจากนี้ หลายคนเชื่อว่า การลอยกระทงที่สวยงามไปยังหมายถึงการบินเก็บไปหมดและสิ่งเลวร้ายในอดีต และถามโชคดีในอนาคต ในประเทศไทย คนเพลิดเพลินไปกับกระทงของตัวเองจากธรรมชาติ การสร้างใบและกางเกงของกล้วยประดับ ด้วยดอกไม้ บางคนอาจใช้ขนมปังแทนวัสดุสังเคราะห์แสดงความกังวลของพวกเขาสำหรับสิ่งแวดล้อม นอกจากดอกไม้ มีธูปเทียนและ sticks เรามักจะใส่เหรียญบาง หรือหมากพริก และถั่วใน Krathongs ของเรา และที่ว่าทำไมเรา Krathongs ไม่ดริฟท์ใด ๆ เพิ่มเติมขณะที่พวกเขาเป็นเอกชนสำหรับการ อย่างไรก็ตาม เทศกาลลอยกระทงยังคง โอกาสสุดโรแมนติก และชื่นชอบสำหรับหลายคน และยังส่วนแสดงถึงความกตัญญูของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประวัติความเป็นมาของการลอยกระทงฝูงชนที่มีแสงริบหรี่ของเทียนและสีของดอกไม้ตกแต่งวัตถุลอยเป็นฉากที่คุ้นเคยในการเฉลิมฉลองที่เกิดขึ้นในเดือนที่สิบสองในปฏิทินของดวงจันทร์ มันเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมเอเชียที่ยอดเยี่ยมเมื่อแม่น้ำและคลองที่เต็มไปด้วยน้ำ เนื่องจากเราได้รับเด็กผมคิดว่าทุกคนจะต้องประทับใจกับโอกาสเทศกาลนี้ในเดือนพฤศจิกายน - ลอยกระทง ส่วนใหญ่เราจะเชื่อว่าวัตถุลอยหรือกระทงมาในสุโขทัยโดยเต่าศรีจุฬาลักษณ์หรือนางนพมาศซึ่งเป็นหนึ่งในภรรยาของพระร่วง อย่างไรก็ตามบางคนยืนยันว่าเรื่องราวที่เขียนขึ้นในสมัยรัชกาลที่สามเพียงเพื่อที่จะสนับสนุนผู้หญิงในรูปแบบบทบาทของการเป็นภรรยาที่ดีในขณะที่ไม่มีหลักฐานพบว่าพิสูจน์การดำรงอยู่ของเทศกาล พวกเขาเชื่อว่าลอยกระทงได้รับเพียงแค่การเฉลิมฉลองตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยา แม้จะมีประวัติศาสตร์ที่ทำให้เกิดความสับสนนี้วัฒนธรรมมีน้ำใจยังมีชีวิตอยู่ ผู้คนก็ยังดำเนินการพิธีกรรมนี้ไม่เพียง แต่จะนมัสการรอยเท้าของพระพุทธเจ้าริมแม่น้ำในอินเดีย แต่ยังเคารพเจดีย์จุฬามณีในสวรรค์ วัตถุประสงค์ที่รู้จักกันดีก็คือการแสดงความกตัญญูต่อเทพธิดาของน้ำในการใช้งานของพวกเขาที่อุดมสมบูรณ์ของน้ำและขอขมาในมลพิษตามมา นอกจากนี้หลายคนเชื่อว่าลอยสวยงามกระทงไปยังหมายถึงการบินที่บินไปโชคร้ายและสิ่งที่ไม่ดีในอดีตที่ผ่านมาและขอให้โชคดีในอนาคต. ในประเทศไทยคนที่สนุกกับการสร้างของตัวเองกระทงที่ทำจากทรัพยากรทางธรรมชาติเช่นใบและ ลำต้นกล้วยประดับด้วยดอกไม้ บางคนอาจจะใช้ขนมปังแทนวัสดุสังเคราะห์ที่แสดงความห่วงใยต่อสิ่งแวดล้อม นอกเหนือจากดอกเป็นแท่งเทียนและธูปเรามักจะใส่เหรียญบางส่วนหรือพริกและถั่วพลูในกระทงของเรา และที่ว่าทำไมกระทงของเราไม่สามารถลอยเพิ่มเติมใด ๆ ที่พวกเขาจะบุกเข้าไปในสำหรับเงินน้อย อย่างไรก็ตามเทศกาลลอยกระทงยังคงเป็นโอกาสที่โรแมนติกที่สุดและชื่นชอบสำหรับผู้คนจำนวนมากและยังคงแสดงให้เห็นถึงความกตัญญูที่ดีที่สุดของเรา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ประวัติความเป็นมาของวันลอยกระทง


ฝูงชนที่มีแสงกระพริบของเทียนและสีของดอกไม้ผสมวัตถุลอย เป็นฉากที่คุ้นเคยในการเฉลิมฉลองที่เกิดขึ้นใน 12 เดือนในปฏิทินจันทรคติ มันเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของชาวเอเชียที่ยอดเยี่ยมเมื่อแม่น้ำและคลองที่เต็มไปด้วยน้ำ ตั้งแต่เราเป็นเด็ก ฉันคิดว่าทุกคนคงจะประทับใจกับเทศกาลนี้โอกาสในเดือนพฤศจิกายน - ลอยกระทง .ส่วนใหญ่เราเชื่อว่าวัตถุลอย หรือกระทงมาสุโขทัยโดยท้าวศรี chulalak หรือนางนพมาศ ซึ่งเป็นภรรยา ของพระร่วง . อย่างไรก็ตาม ยืนยันว่า เรื่องที่ถูกเขียนขึ้นในรัชสมัยของ พระราม 3 เพียง เพื่อสนับสนุนสตรีในการเป็นแบบอย่างของภรรยาที่ดี ไม่พบหลักฐานที่จะพิสูจน์การดำรงอยู่ของเทศกาลพวกเขาเชื่อว่า ลอยกระทง เพิ่งได้รับการเฉลิมฉลองมาตั้งแต่ปลายกรุงศรีอยุธยา แม้จะมีประวัติศาสตร์ความสับสน วัฒนธรรม น้ำใจ นี้ยังมีชีวิตอยู่ ผู้คนยังคงดำเนินพิธีกรรมนี้ไม่เพียง แต่เพื่อบูชารอยพระพุทธบาทของพระพุทธเจ้าบนแม่น้ำในอินเดีย แต่ยังไหว้จุฬามณีเจดีย์บนสวรรค์อื่นที่รู้จักกันดีมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความกตัญญูต่อเทพธิดาแห่งน้ำใช้อุดมสมบูรณ์ของน้ำและขอขมาในความสัมพันธ์กับมลพิษ นอกจากนี้หลายคนเชื่อว่า ลอยกระทงสวยงามออกไปยังหมายถึงบินไปโชคร้ายและสิ่งไม่ดีในอดีตและขอให้โชคดีในอนาคต

ในประเทศไทยคนเพลิดเพลินกับการสร้างกระทงของตัวเองที่ทำจากธรรมชาติ เช่น ใบ และลำต้นของกล้วยประดับด้วยดอกไม้ บางคนอาจจะใช้ขนมปังแทนของวัสดุสังเคราะห์ที่แสดงความกังวลของพวกเขาสำหรับสภาพแวดล้อม นอกจากดอกไม้ เทียนและธูป เรามักจะเอาเหรียญหรือพริกไทยพลูและถั่วในกระทงของเราและนั่นคือเหตุผลที่กระทงของเราไม่สามารถลอยใด ๆเพิ่มเติมตามที่พวกเขาจะปล้นเงินเล็ก ๆน้อย ๆ อย่างไรก็ตาม เทศกาลลอยกระทง ยังคงโอกาสโรแมนติกที่สุดและที่ชื่นชอบสำหรับจำนวนของคนและยังคงที่ดีที่สุดแสดงความกตัญญูของเรา