Continuous cropping poses a number

Continuous cropping poses a number of issues to tomato cultivation under plastic tunnels in China, and the intercropping of garlic with tomato may help to solve these problems. In this study, we compared tomato/garlic intercropping with tomato monoculture and investigated the differences in the physicochemical properties of the medium, as well as the growth, yield and quality of spring tomato, under plastic tunnel organic medium cultivation during the year 2011–2012. The results showed that the pH value was higher and the EC value was lower in the intercropping medium than in the monoculture medium. The alkaline hydrolysis content of the intercropping medium did not change significantly over the tomato growth period, but available phosphorus and available potassium were both reduced continuously. The alkaline phosphatase and cellulase activities were both higher in the intercropping medium, while urease activity was lower. The invertase activity in the intercropping medium was significantly lower than in the monoculture medium before tomato transplanting but showed a nonsignificant difference at the fruit set stage of the tomato. The total microorganism population decreased for a short period after the garlic harvest in the intercropping medium but recovered to the level of the monoculture (control) at fruit set stage of the tomato. Intercropping increased the bacterial and actinomycetous populations but decreased fungal population in comparison to monoculture. The intercropped garlic inhibited the growth of the spring tomato, but this inhibition decreased after the garlic harvest. The chlorophyll contents in the leaves were increased, but the photosynthetic rate was decreased, for the intercropping spring tomato compared to the monoculture tomato. The tomato fruit quality, in terms of the titratable acid, vitamin C and dry matter contents, was significantly higher in the intercropping system, while the solid matter, soluble protein and soluble sugar contents did not differ significantly between the two methods. Intercropping reduced the total spring tomato yield but produced a higher net income than did monoculture. In conclusion, intercropping garlic with tomato can improve both the microorganism populations and the enzyme activity of the medium, which together reduce the obstacles of continuous tomato production.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปลูกพืชอย่างต่อเนื่องซึ่งทำให้เกิดจำนวนปัญหาการปลูกมะเขือเทศภายใต้อุโมงค์พลาสติกในจีน และ intercropping กระเทียมกับมะเขือเทศอาจช่วยแก้ปัญหาเหล่านี้ ในการศึกษานี้ เรามะเขือเทศ/กระเทียม intercropping กับมะเขือเทศเรื่องเปรียบเทียบ และตรวจสอบความแตกต่างในคุณสมบัติของ สื่อ ตลอดจนการเจริญเติบโต ผลผลิต และคุณภาพของมะเขือเทศในฤดูใบไม้ผลิ ใต้อุโมงค์พลาสติกอินทรีย์เพาะปลูกกลางปี 2011 – 2012 physicochemical ผลพบว่า ค่า pH สูงกว่า และค่า EC เป็นล่างในสื่อ intercropping กว่าในเรื่องการ เนื้อหาไฮโตรไลซ์ด่างกลาง intercropping ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญระยะเจริญเติบโตของมะเขือเทศ แต่มีฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมมีได้ทั้งสองลดลงอย่างต่อเนื่อง อัลคาไลน์ฟอสฟาเตสและ cellulase กิจกรรมได้ทั้งสองสูงในสื่อ intercropping ขณะที่กิจกรรมยูอยู่ล่าง กิจกรรม invertase ในสื่อ intercropping ต่ำกว่าในเรื่องสื่อก่อน transplanting แต่พบความแตกต่าง nonsignificant ที่ผลมะเขือเทศตั้งระยะของมะเขือเทศ ประชากรจุลินทรีย์รวมลดลงในระยะสั้น ๆ หลังการเก็บเกี่ยวกระเทียมในสื่อ intercropping แต่กู้คืนระดับของเรื่อง (ควบคุม) ในขั้นตอนการตั้งค่าผลไม้ของมะเขือเทศ Intercropping เพิ่มประชากรแบคทีเรีย และ actinomycetous แต่ลดประชากรเชื้อรา โดยเรื่อง กระเทียม intercropped ห้ามการเจริญเติบโตของมะเขือเทศฤดูใบไม้ผลิ แต่นี้ยับยั้งการลดลงหลังการเก็บเกี่ยวกระเทียม เนื้อหาคลอโรฟิลล์ในใบเพิ่มอีก แต่อัตรา photosynthetic ถูกลด ลง การเปรียบเทียบกับเรื่องมะเขือเทศมะเขือเทศสปริง intercropping มะเขือเทศผลไม้คุณภาพ กรด titratable วิตามินซี และแห้งเรื่อง เนื้อหา อยู่อย่างมีนัยสำคัญสูงในระบบ intercropping ขณะที่เรื่องแข็ง โปรตีนละลายน้ำได้ และเนื้อหาน้ำตาลละลายน้ำได้ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างสองวิธี Intercropping ลดลงผลผลิตมะเขือเทศรวมสปริง แต่ผลิตเงินได้สุทธิสูงกว่าไม่ได้เรื่อง เบียดเบียน intercropping กระเทียมกับมะเขือเทศจะช่วยเพิ่มประชากรจุลินทรีย์และเอนไซม์ของกลาง ซึ่งช่วยลดอุปสรรคของการผลิตมะเขือเทศต่อเนื่องกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การปลูกพืชอย่างต่อเนื่องก่อให้เกิดจำนวนของปัญหากับการเพาะปลูกมะเขือเทศภายใต้อุโมงค์พลาสติกในประเทศจีนและแซมของกระเทียมมะเขือเทศอาจจะช่วยแก้ปัญหาเหล​​่านี้ ในการศึกษานี้เราเมื่อเทียบกับมะเขือเทศ / กระเทียมแซมด้วยเชิงเดี่ยวมะเขือเทศและตรวจสอบความแตกต่างในคุณสมบัติทางเคมีกายภาพของกลางเช่นเดียวกับการเจริญเติบโตผลผลิตและคุณภาพของมะเขือเทศฤดูใบไม้ผลิภายใต้อุโมงค์พลาสติกเพาะปลูกกลางอินทรีย์ในระหว่างปี 2011-2012 . ผลการศึกษาพบว่าค่าพีเอชสูงและค่า EC ต่ำในสื่อแซมกว่าในกลางเชิงเดี่ยว เนื้อหาการย่อยสลายเป็นด่างของกลางแซมไม่ได้เปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญในช่วงการเจริญเติบโตของมะเขือเทศ แต่ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่มีอยู่ทั้งสองที่ลดลงอย่างต่อเนื่อง ด่าง phosphatase และกิจกรรมเซลลูเลสทั้งสองสูงขึ้นในกลางแซมในขณะที่กิจกรรม urease ต่ำ กิจกรรมอินเวอร์ในสื่อแซมอย่างมีนัยสำคัญต่ำกว่าในกลางเชิงเดี่ยวก่อนที่จะปลูกมะเขือเทศ แต่แสดงให้เห็นความแตกต่างที่ไม่มีนัยสำคัญในขั้นตอนการติดผลของมะเขือเทศ ประชากรจุลินทรีย์รวมลดลงเป็นระยะเวลาสั้น ๆ หลังการเก็บเกี่ยวกระเทียมในกลางแซม แต่หาย​​ไปในระดับของเชิงเดี่ยว (ควบคุม) ในขั้นตอนการติดผลของมะเขือเทศ แซมเพิ่มประชากรแบคทีเรียและ actinomycetous แต่ลดลงประชากรเชื้อราในการเปรียบเทียบกับการปลูกพืชเชิงเดี่ยว กระเทียมแซมยับยั้งการเจริญเติบโตของมะเขือเทศฤดูใบไม้ผลิ แต่การยับยั้งนี้ลดลงหลังการเก็บเกี่ยวกระเทียม เนื้อหาคลอโรฟิลในใบเพิ่มขึ้น แต่อัตราการสังเคราะห์แสงลดลงสำหรับฤดูใบไม้ผลิมะเขือเทศแซมเมื่อเทียบกับมะเขือเทศเชิงเดี่ยว คุณภาพของผลมะเขือเทศในแง่ของกรดที่ไตเตรท, วิตามินซีและเนื้อหาแห้งอย่างมีนัยสำคัญที่สูงขึ้นในระบบแซมขณะที่เรื่องของแข็งโปรตีนที่ละลายน้ำและปริมาณน้ำตาลที่ละลายน้ำได้ไม่แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญระหว่างสองวิธี แซมลดผลผลิตมะเขือเทศฤดูใบไม้ผลิทั้งหมด แต่ผลิตรายได้สุทธิสูงกว่าได้เชิงเดี่ยว โดยสรุปกระเทียมแซมด้วยมะเขือเทศสามารถปรับปรุงทั้งประชากรจุลินทรีย์และเอนไซม์ของกลางซึ่งร่วมกันลดอุปสรรคในการผลิตมะเขือเทศอย่างต่อเนื่อง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การปลูกพืชอย่างต่อเนื่องทั้งจำนวนของปัญหาการปลูกมะเขือเทศภายใต้อุโมงค์พลาสติกในประเทศจีน และแซมด้วยมะเขือเทศกระเทียมอาจช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ ในการศึกษานี้เราเปรียบเทียบมะเขือเทศกระเทียมและมะเขือเทศและการศึกษาความแตกต่างในคุณสมบัติทางกายภาพและทางเคมีของอาหาร ตลอดจนการเจริญเติบโต ผลผลิต และคุณภาพของมะเขือเทศ ฤดูใบไม้ผลิภายใต้อุโมงค์พลาสติกอินทรีย์ปานกลาง ปลูกในช่วงปี 2011 – 2012 ผลการศึกษาพบว่าค่า pH สูงขึ้น และค่า EC ลดลงในและกลางกว่าในการสื่อ เนื้อหาของระบบการย่อยสลายด่างปานกลางไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากกว่ามะเขือเทศการเจริญเติบโต ระยะเวลาแต่ฟอสฟอรัสและโพแทสเซียมที่มีอยู่ทั้งสองลดลงอย่างต่อเนื่อง กิจกรรมเอนไซม์ alkaline phosphatase และทั้งสองสูงในระบบกลาง ขณะที่กิจกรรมที่มีต่ำกว่าการเปรียบเทียบกิจกรรมในระบบลดลงปานกลางในการปลูกมะเขือเทศกลางก่อน แต่พบว่าไม่มีความแตกต่างกันในเวทีของผลมะเขือเทศประชากรจุลินทรีย์ทั้งหมดลดลงในระยะสั้น หลังการเก็บเกี่ยวในการปลูกกระเทียมขนาดกลางแต่ฟื้นตัวในระดับของการปลูกพืชเชิงเดี่ยว ( ควบคุม ) ในผลไม้ชุดเวทีของมะเขือเทศ และเพิ่มประชากรแบคทีเรียและเชื้อรา actinomycetous แต่เมื่อเปรียบเทียบกับประชากรในเชิงเดี่ยวส่วนชุดกระเทียมมีฤทธิ์ยับยั้งการเจริญเติบโตของฤดูใบไม้ผลิ มะเขือเทศ แต่สารนี้จะลดลงหลังจากกระเทียมเก็บเกี่ยว และคลอโรฟิลล์ในใบเพิ่มขึ้น แต่อัตราการสังเคราะห์แสงลดลง สำหรับการปลูกในฤดูใบไม้ผลิ เมื่อเทียบกับการปลูกพืชเชิงเดี่ยวมะเขือเทศมะเขือเทศ มะเขือเทศผลไม้คุณภาพ ในแง่ของปริมาณกรด วิตามินซี และปริมาณวัตถุแห้ง ,สูงกว่าในระบบการปลูกเป็นพืชร่วม ในขณะที่เรื่องของแข็งละลายโปรตีนและน้ำตาลละลายเนื้อหาไม่ได้แตกต่างระหว่างสองวิธี การปลูกมะเขือเทศ ผลผลิตลดลง รวม สปริง แต่ผลิตสูงกว่ารายได้สุทธิมากกว่าเชิงเดี่ยว สรุปกับมะเขือเทศและกระเทียมสามารถเพิ่มประชากรจุลินทรีย์และเอนไซม์ของตัวกลาง ซึ่งร่วมกันลดอุปสรรคของการผลิตมะเขือเทศอย่างต่อเนื่อง