พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เมื่อทรงพระเยาว์ ทรงมีความคุ้นเคยกับโรงงานแปรรูปผลิตภัณฑ์นมมาเมื่อ พ.ศ. ๒๔๗๘ เคยเสด็จฯ พร้อมด้วยพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรมหาอานันทมหิดล และสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทอดพระเนตรโรงงานออร์เบอร์ ผลิตนมข้นหวานของเนสท์เล่ ที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงตระหนักว่า นม มีคุณค่าทางอาหารสูงและเป็นประโยชน์ต่อร่างกายมนุษย์ ดังนั้นเมื่อเสด็จประพาสประเทศเดนมาร์ก ใน พ.ศ. ๒๕๐๓ จึงเสด็จทอดพระเนตร กิจการฟาร์มโคนมและการแปรรูปผลิตภัณฑ์นมหลายแห่ง เพื่อศึกษาความเป็นไปได้ในการดำเนินกิจการ โคนมและแปรรูปนมในประเทศไทย ซึ่งในครั้งนั้นสมเด็จพระเจ้าเฟรเดอริก ที่ ๙ แห่งเดนมาร์ก ร่วมรัฐบาล และองค์การเกษตรกรรมของประเทศเดนมาร์ก ได้น้อมเกล้าฯ ถวายโครงการส่งเสริมการเลี้ยงโคนมในประเทศไทยโดยจัดตั้งเป็น “ฟาร์มโคนมไทย-เดนมาร์ก” ขึ้นที่อำเภอมวกเหล็ก จังหวัดสระบุรี เป็นกิจการฟาร์มโคนมแห่งแรกในประเทศไทย
ต่อมาใน พ.ศ. ๒๕๐๕ บริษัท เอส.อาร์. จำกัด ได้น้อมเกล้าฯ ถวายลูกโคพันธุ์เรดเดน จำนวน ๔ ตัวเป็นเพศผู้ ๑ ตัว เพศเมีย ๑ ตัว และโคสาวตั้งท้องอีก ๒ ตัว ต่อมากรมปศุสัตว์ได้น้อมเกล้าฯ ถวายโคสาวตั้งท้องอีก ๒ ตัว พันธ์บราวน์สวิส และลูกผสมเรดชินดิ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ จำนวน ๓๒,๘๘๖.๗๓ บาท เพื่อใช้ในการดำเนินการจัดสร้างโรงโคนม ในบริเวณพระตำหนักสวนจิตรลดารโหฐาน และเสด็จฯ เปิด “โรงโคนมสวนจิตรลดา“ เมื่อวันที่ ๑๒ มกราคม พ.ศ. ๒๕๐๕ ซึ่งได้พระราชทานพระราโชบายสำหรับโรงโคนมสวนจิตรลดาไว้ ๔ ประการ คือ
๑. ส่งเสริมและเผยแพร่การเลี้ยงโคนมโดยสาธิตการดำเนินงานให้เป็นตัวอย่างแก่ เกษตรกรเพื่อสามารถที่จะนำเอาวิธีการดังกล่าวไปดำเนินการเองได้ภายในครอบ ครัว
๒. เพื่อค้นคว้า ทดลองหาวิชาการแผนใหม่เกี่ยวกับโคนม และทำการเผยแพร่ความรู้ไปยังเกษตรกรผู้เลี้ยงโคนม เพื่อปรับปรุงวิธีการให้ถูกต้องและเหมาะสม
๓. เพื่อทำการคัดเลือกและปรับปรุงพันธ์โคนม ที่เหมาะสมกับสภาพภูมิอากาศ และภูมิประเทศของประเทศไทย
๔. เพื่อส่งเสริมให้มีการบริโภคนมสดให้กว้างขวางยิ่งขึ้น