This work focused on the extraction

This work focused on the extraction of rice bran oil using supercritical carbon dioxide (SC-CO2) and
compressed liquefied petroleum gas (LPG). For the supercritical extractions, the influence of pressure and
temperature on the extraction yield was evaluated from 150 to 250 bar and from 40 to 80
C, whereas for
compressed LPG extractions were performed at 5e25 bar and 20e40
C. The antioxidant activity of the
extracts was assayed by DPPH (2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl) radical scavenging method and the
chemical composition by gas chromatography-mass spectrometry (GCeMS). The highest yields were
12.68 and 12.07 wt%, whereas the maximum antioxidant activities were 71.67 and 67.49% for extraction
using SC-CO2 and compressed LPG, respectively. The chemical profile of fatty acids was similar for both
solvents. The antioxidant compound found in both processes was the b-sitosterol, which is one of the
components of g-oryzanol. From kinetics analysis it was demonstrated that using LPG it is possible to
decrease the solvent/feed mass by a factor of approximately 30, and extraction time by a factor of 15.
Considering the slight difference in the yield and antioxidant activities of extracts between the solvents,
compressed LPG is a more promising solvent than supercritical CO2 for extraction of rice bran oil, since
the extraction period can be considerably reduced while lowering the energy required for solvent
recompression.
© 2015 Elsevier Ltd. All rights reserved.

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

งานนี้มุ่งเน้นไปที่การสกัดน้ำมันรำข้าวโดยใช้ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ supercritical (SC-CO2)
และก๊าซปิโตรเลียมเหลวบีบอัด(LPG) สำหรับสกัด supercritical
อิทธิพลของความดันและอุณหภูมิที่มีต่อผลผลิตสกัดถูกประเมิน150-250 บาร์และ 40-80
องศาเซลเซียสในขณะที่สำหรับการสกัดสารแอลพีจีได้ดำเนินการบีบอัดที่5e25 บาร์และ 20e40 องศาเซลเซียส ฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดจากได้รับการวิเคราะห์โดย DPPH (2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl) วิธีการต้านอนุมูลและองค์ประกอบทางเคมีโดยspectrometry โคมวลก๊าซ (GCeMS) อัตราผลตอบแทนที่สูงที่สุดเป็น12.68 และ 12.07% โดยน้ำหนักในขณะที่กิจกรรมการต้านอนุมูลอิสระได้สูงสุด 71.67 และ 67.49% สำหรับการสกัดโดยใช้SC-CO2 และแอลพีจีที่ถูกบีบอัดตามลำดับ รายละเอียดทางเคมีของกรดไขมันที่ใกล้เคียงกันทั้งตัวทำละลาย สารประกอบสารต้านอนุมูลอิสระที่พบในกระบวนการทั้งสองเป็น B-sitosterol ซึ่งเป็นหนึ่งในส่วนประกอบของกรัมโอรี จากการวิเคราะห์จลนศาสตร์มันก็แสดงให้เห็นว่าการใช้แอลพีจีก็เป็นไปได้ที่จะลดตัวทำละลาย / มวลฟีดโดยปัจจัยที่ประมาณ 30 และเวลาที่สกัดโดยปัจจัยที่ 15 พิจารณาแตกต่างกันเล็กน้อยในกิจกรรมผลผลิตและสารต้านอนุมูลอิสระของสารสกัดระหว่างตัวทำละลายที่ , บีบอัดก๊าซ LPG เป็นตัวทำละลายที่มีแนวโน้มมากกว่า CO2 supercritical การสกัดน้ำมันรำข้าวเนื่องจากระยะเวลาการสกัดที่สามารถลดลงอย่างมากในขณะที่ลดการใช้พลังงานที่จำเป็นสำหรับการทำละลายrecompression. © 2015 เอลส์ จำกัด สงวนลิขสิทธิ์

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานนี้เน้นการสกัดน้ำมันรำข้าวโดยใช้คาร์บอนไดออกไซด์วิกฤตยิ่งยวด ( sc-co2 ) และ
อัดก๊าซปิโตรเลียมเหลว ( LPG ) สำหรับการสกัด supercritical อิทธิพลของความดันและอุณหภูมิในการสกัด
ประเมิน 150 - 250 บาร์ และจาก 40 ถึง 80
C ในขณะที่
การสกัด LPG อัดมีการปฏิบัติในบาร์และ 5e25 20e40
Cฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของ
สารสกัดซีรั่มโดย dpph ( 2,2-diphenyl-1-picrylhydrazyl ) เป็นตัวเร่งปฏิกิริยา และองค์ประกอบทางเคมีโดยวิธี
สัปดาห์แก๊ส spectrometry ( gcems ) ผลผลิตสูงสุดคือ
12.68 12.07 เปอร์เซ็นต์โดยน้ำหนัก และมีสารต้านอนุมูลอิสระสูงสุดและกิจกรรม 71.67 67.49 % สำหรับการสกัด sc-co2
โดยใช้ก๊าซปิโตรเลียมเหลวและอัดตามลำดับชื่อโปรไฟล์ของกรดไขมันคล้ายคลึงทั้ง
สารละลาย สารต้านอนุมูลอิสระ สารประกอบที่พบในกระบวนการทั้งสอง เป็นเบ้าซิโตสเตอรอล ซึ่งเป็นหนึ่งในองค์ประกอบของ g-oryzanol
. จากการวิเคราะห์จลนศาสตร์ก็แสดงว่าใช้ LPG เป็นไปได้

ลดตัวทำละลาย / ดึงมวลโดยปัจจัยประมาณ 30 , เวลาและการสกัดโดยปัจจัยที่ 15 .
การพิจารณาความแตกต่างเล็กน้อยในผลผลิตและฤทธิ์การต้านออกซิเดชันของสารสกัดระหว่างสารละลาย
อัดก๊าซ LPG เป็นตัวทำละลายสัญญามากกว่าคาร์บอนไดออกไซด์เหนือวิกฤตเพื่อสกัดน้ํามันรําข้าว เนื่องจาก
ระยะเวลาการสกัดสามารถลดลงอย่างมากในขณะที่การลดพลังงานที่ต้องใช้เพื่อละลาย

สงวนลิขสิทธิ์ 2015 Recompression ใน . ส จำกัด .