Purpose of review: There has been a

Purpose of review: There has been a marked increase in the study of cognitive biases in schizophrenia, which has in part been stimulated by encouraging results with cognitive–behavioral interventions in the disorder. We summarize new evidence on cognitive biases thought to trigger or maintain positive symptoms in schizophrenia and present a new therapeutic intervention.

Recent findings: Recent studies indicate that patients with paranoid schizophrenia jump to conclusions, show attributional biases, share a bias against disconfirmatory evidence, are overconfident in errors, and display problems with theory of mind. Many of these biases precede the psychotic episode and may represent cognitive traits. Building upon this literature, we developed a metacognitive training program that aims to convey scientific knowledge on cognitive biases to patients and provides corrective experiences in an engaging and supportive manner. Two new studies provide preliminary evidence for the feasibility and efficacy of this approach.

Summary: The gap between our advanced understanding of cognitive processes in schizophrenia and its application in clinical treatment is increasingly being narrowed. Despite emerging evidence for the feasibility and efficacy of metacognitive training as a stand-alone program, its most powerful application may be in combination with individual cognitive–behavioral therapy.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของรีวิว: มีที่ทำให้การศึกษาของอคติองค์ความรู้ในโรคจิตเภท ซึ่งบางส่วนได้ถูกกระตุ้นโดยการส่งเสริมผล ด้วยปัญญา – พฤติกรรมแทรกแซงในความผิดปกติ เราสรุปหลักฐานใหม่บนอคติองค์ความรู้ความคิดที่จะก่อให้เกิด หรือรักษาอาการบวกในโรคจิตเภท และปัจจุบันการแทรกแซงการรักษาใหม่เมื่อเร็ว ๆ นี้: การศึกษาล่าสุดบ่งชี้ว่า ผู้ป่วยจิตเภทหวาดระแวงข้ามไปยังข้อสรุป แสดงอคติ attributional แบ่งปันความอคติต่อหลักฐาน disconfirmatory มี overconfident ข้อผิดพลาด และแสดงปัญหาเกี่ยวกับทฤษฎีของจิตใจ หลายอคติเหล่านี้นำหน้าตอนที่โรคจิต และอาจแสดงลักษณะความรู้ความเข้าใจ สร้างเมื่อวรรณกรรมนี้ เราพัฒนาโปรแกรมฝึกอภิปัญญาที่มีวัตถุประสงค์เพื่อถ่ายทอดความรู้ทางวิทยาศาสตร์บนอคติองค์ความรู้กับผู้ป่วย และให้ถูกต้องมีประสบการณ์ในลักษณะน่าสนใจ และให้การสนับสนุน ศึกษาใหม่ที่สองให้หลักฐานเบื้องต้นสำหรับความเป็นไปได้และประสิทธิภาพของวิธีการนี้สรุป: ช่องว่างระหว่างความเข้าใจขั้นสูงของกระบวนการทางปัญญาในโรคจิตเภทและการประยุกต์ใช้ในการรักษาทางคลินิกคือมากถูก narrowed แม้ มีหลักฐานที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับความเป็นไปได้และประสิทธิภาพของอภิปัญญาการฝึกอบรมเป็นโปรแกรมแบบสแตนด์อโลน การประยุกต์ใช้พลังอาจร่วมกับการบำบัดทางปัญญา – พฤติกรรมที่แต่ละ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการตรวจสอบ: มีความชัดเจนมากขึ้นในการศึกษาของอคติความรู้ความเข้าใจในจิตเภทที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นโดยการส่งเสริมให้ผลลัพธ์ที่มีการแทรกแซงความรู้ความเข้าใจพฤติกรรมในความผิดปกติ เราสรุปหลักฐานใหม่บนอคติทางปัญญาความคิดที่จะเรียกหรือรักษาอาการในเชิงบวกในผู้ป่วยโรคจิตเภทและนำเสนอการแทรกแซงการรักษาใหม่. ผลการวิจัยล่าสุด: การศึกษาล่าสุดระบุว่าผู้ป่วยที่มีการกระโดดโรคจิตเภทแบบหวาดระแวงไปสู่ข้อสรุปแสดงอคติ attributional แบ่งปันอคติกับหลักฐาน disconfirmatory ที่มี เหิมเกริมในข้อผิดพลาดและการแสดงปัญหากับทฤษฎีของจิตใจ หลายอคติเหล่านี้นำหน้าตอนโรคจิตและอาจเป็นตัวแทนของลักษณะทางปัญญา สร้างเมื่อวรรณกรรมนี้เราพัฒนาโปรแกรมการฝึกอบรมอภิปัญญาที่มีจุดมุ่งหมายในการถ่ายทอดความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับอคติความรู้ความเข้าใจให้แก่ผู้ป่วยและให้ประสบการณ์การแก้ไขในลักษณะที่มีส่วนร่วมและให้การสนับสนุน สองการศึกษาใหม่ให้มีหลักฐานเบื้องต้นสำหรับความเป็นไปได้และความมีประสิทธิภาพของวิธีการนี้. สรุป: ช่องว่างระหว่างความเข้าใจขั้นสูงของเราของกระบวนการทางปัญญาในโรคจิตเภทและการประยุกต์ใช้ในการรักษาทางคลินิกมากขึ้นคือการลดลง แม้จะมีหลักฐานที่เกิดขึ้นใหม่สำหรับความเป็นไปได้และความมีประสิทธิภาพของการฝึกอบรมอภิปัญญาเป็นโปรแกรมแบบสแตนด์อโลนโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอาจจะอยู่ในการรวมกันกับบุคคลรักษาความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพฤติกรรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มีรีวิว : มีการเพิ่มขึ้นเครื่องหมายในการศึกษาการคิดอคติในผู้ป่วยจิตเภท ซึ่งมีในส่วนที่ถูกกระตุ้นโดยนิมิตผลด้วยการรับรู้และพฤติกรรมการแทรกแซงในโรค เราสรุปหลักฐานใหม่ในการคิดอคติคิดที่จะเรียกหรือ รักษาอาการจิตเภทและปัจจุบันบวกในการแทรกแซงการรักษาใหม่ล่าสุดผลการวิจัยการศึกษาล่าสุดบ่งชี้ว่าผู้ป่วยเป็นโรคจิตเภทจะด่วนสรุป แสดงอคติเชิงการอนุมานสาเหตุร่วมกัน อคติ กับหลักฐาน disconfirmatory จะเหลิงในข้อผิดพลาดและปัญหาการแสดงผล กับทฤษฎีของจิตใจ หลายของอคติเหล่านี้หน้าโรคจิตตอน และอาจเป็นตัวแทนของลักษณะการคิด สร้างเมื่อวรรณกรรมนี้ เราได้พัฒนาโปรแกรมการฝึกเมตาคอคนิชันที่มีจุดมุ่งหมายที่จะถ่ายทอดความรู้ทางวิทยาศาสตร์เกี่ยวกับการคิดอคติกับผู้ป่วยและให้ประสบการณ์การแก้ไขในลักษณะการมีส่วนร่วมและสนับสนุน สองการศึกษาใหม่ให้หลักฐานเบื้องต้นสำหรับความเป็นไปได้และประสิทธิภาพของวิธีการนี้สรุป : ช่องว่างระหว่างความเข้าใจของกระบวนการทางปัญญาขั้นสูงในผู้ป่วยจิตเภท และการประยุกต์ใช้ในการรักษาทางคลินิกมากขึ้นคือแคบลง แม้จะมีหลักฐานใหม่สำหรับความเป็นไปได้และประสิทธิภาพของการฝึกเมตาคอคนิชันเป็นโปรแกรมแบบ stand - alone , ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดโปรแกรมอาจจะรวมกันกับแต่ละองค์ความรู้–พฤติกรรมบำบัด