Conclusion The Neuman's system mode

Conclusion
The Neuman's system model is relevant and can be used as a framework to develop interventions for patient who are having or are at risk of having an asthma attack. The application of this model allows nurses to clearly identity the type of interventions suitable for different stages of asthma management. Moreover, it allows flexibility when planning care for individuals with their needs as the focus. Lastly, this model has brought together many different healthcare personnel to collaborate closely with nurses to manage the patient with asthma in a more holistic manner

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทสรุป แบบจำลองระบบของ Neuman เกี่ยวข้อง และสามารถใช้เป็นกรอบในการพัฒนางานวิจัยในผู้ป่วยที่มี หรือที่ที่เสี่ยงต่อการเป็นโรคหืดมี การประยุกต์ใช้แบบจำลองนี้ให้พยาบาลให้ชัดเจนระบุชนิดของการรักษาเหมาะสำหรับระยะต่าง ๆ ของการจัดการโรคหอบหืด นอกจากนี้ จะให้ความยืดหยุ่นเมื่อวางแผนการดูแลบุคคลที่มีความเป็นโฟกัส สุดท้าย รูปแบบนี้มีมากันหลายบุคลากรสุขภาพอื่นเพื่อทำงานร่วมกับพยาบาลในการจัดการผู้ป่วยโรคหอบหืดในลักษณะแบบองค์รวมมากขึ้นอย่างใกล้ชิด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สรุป
แบบจำลองระบบนูแมนเป็นที่เกี่ยวข้องและสามารถนำมาใช้เป็นกรอบในการพัฒนาการแทรกแซงสำหรับผู้ป่วยที่มีหรือมีความเสี่ยงของการมีโรคหอบหืด การประยุกต์ใช้รูปแบบนี้จะช่วยให้พยาบาลที่จะเป็นตัวตนอย่างชัดเจนชนิดของการแทรกแซงที่เหมาะสมสำหรับแต่ละขั้นตอนของการจัดการโรคหอบหืด นอกจากนี้ยังช่วยให้ความยืดหยุ่นเมื่อดูแลการวางแผนสำหรับบุคคลที่มีความต้องการของพวกเขาเป็นโฟกัส สุดท้ายรุ่นนี้ได้นำมารวมกันหลายบุคลากรทางการแพทย์ที่แตกต่างกันเพื่อทำงานร่วมกันอย่างใกล้ชิดกับพยาบาลในการจัดการผู้ป่วยที่มีโรคหอบหืดในลักษณะองค์รวมมากขึ้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สรุป
นิวแมนในรูปแบบระบบที่เกี่ยวข้อง และสามารถใช้เป็นกรอบในการพัฒนาผู้ป่วยผู้ป่วยที่มีหรือมีความเสี่ยงของการเป็นโรคหืด การประยุกต์โมเดลนี้จะช่วยให้พยาบาลที่จะชัดเจนระบุประเภทของการแทรกแซงที่เหมาะสมสำหรับแต่ละขั้นตอนของการบริหารจัดการโรคหอบหืด นอกจากนี้จะช่วยให้มีความยืดหยุ่นเมื่อการวางแผนการดูแลบุคคลที่มีความต้องการของพวกเขาเป็นจุดโฟกัส สุดท้าย รุ่นนี้มีมาด้วยกันบุคลากรสุขภาพที่แตกต่างกันมากที่จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับพยาบาลในการจัดการกับผู้ป่วยโรคหืดในลักษณะองค์รวมมากขึ้น