The reverse learning theory says th

The reverse learning theory says that as we learn and grow, connections are made in our neocortex in a semirandom way. As the number of connections increases, the network becomes less and less efficient. If there were no mechanism to control the number of connections, "parasitic" memories - memories that combine parts of real memories and are falsely associated with many different inputs - would develop eventually. Crick and Mitchison predicted that if this were to happen, people might develop bizarre thoughts (from mixed up memories), hallucinations (from memories being associated with the wrong inputs) or obsessions (from the same connections being made over and over).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทฤษฎีเรียนรู้กลับบอกว่า เป็นเราเรียนรู้ และเติบโต การเชื่อมต่อในจะ neocortex ของเราในแบบ semirandom เมื่อจำนวนการเชื่อมต่อมากขึ้น เครือข่ายจะมีประสิทธิภาพน้อย ถ้ามีกลไกในการควบคุมจำนวนการเชื่อมต่อ ความทรงจำ "เสียงฟู่เหมือนกาฝาก" - ความทรงจำที่รวมส่วนความทรงจำที่แท้จริง และเท็จสัมพันธ์กับอินพุตแตกต่างกันมาก - จะพัฒนาในที่สุด คริกและ Mitchison คาดการณ์ว่า ถ้าเกิด คนอาจพัฒนาความคิดแปลกประหลาด (จากความทรงจำผสมค่า), เห็นภาพหลอน (จากความทรงจำเกี่ยวข้องกับปัจจัยการผลิตที่ไม่ถูกต้อง) หรือ obsessions (จากการเชื่อมต่อเดียวกันที่ถูกทำซ้ำ ๆ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีการเรียนรู้กลับบอกว่าในขณะที่เราเรียนรู้และเติบโต, การเชื่อมต่อจะทำในเทกซ์ของเราในทางที่ semirandom ขณะที่จำนวนของการเพิ่มขึ้นของการเชื่อมต่อเครือข่ายที่จะกลายเป็นน้อยลงและมีประสิทธิภาพน้อยกว่า ถ้ามีกลไกในการควบคุมจำนวนของการเชื่อมต่อไม่ "กาฝาก" ความทรงจำ - ความทรงจำที่รวมส่วนของความทรงจำที่แท้จริงและมีความเกี่ยวข้องกับปัจจัยเท็จที่แตกต่างกัน - จะพัฒนาในที่สุด ลำคลองและ Mitchison คาดการณ์ว่าถ้ามีเกิดขึ้นคนอาจจะพัฒนาความคิดที่แปลกประหลาด (จากความทรงจำผสมขึ้น), ภาพหลอน (จากความทรงจำที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยการผลิตที่ไม่ถูกต้อง) หรือหลงไหล (จากการเชื่อมต่อเดียวกันที่มีการทำซ้ำแล้วซ้ำ)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

The reverse learning theory says that as we learn and grow, connections are made in our neocortex in a semirandom way. As the number of connections increases, the network becomes less and less efficient. If there were no mechanism to control the number of connections," ปรสิต " ความทรงจำ - ความทรงจำที่รวมชิ้นส่วนของความทรงจำที่แท้จริงและเท็จที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยการผลิต - แตกต่างกันมากจะพัฒนาในที่สุด คริก และ mitchison คาดการณ์ว่าหากมีเกิดขึ้น ผู้คนอาจจะพัฒนาความคิดที่แปลกประหลาด ( จากการผสมขึ้นความทรงจำ )ภาพหลอน ( จากความทรงจำที่ถูกเชื่อมโยงกับข้อมูลผิด ) หรือเป็นหนักกว่าเดิม ( จากเดิม การเชื่อมต่อถูกทำมากกว่า )