Cooperative Learning TechniquesBy G

Cooperative Learning Techniques
By Gisele Glosser

Cooperative learning is more elaborate than group work activity. Cooperative learning can be incorporated into your classroom management system. If you train your students to work effectively in groups, the results can be a very productive and fun learning environment.
One of my first experiments with cooperative learning was to let my students work in groups of their own choosing. Of course, they chose to work with their friends and were not very productive. I used this to my advantage when I later assigned group partners, careful to avoid having close friends in the same group.
Each school year I wait until October before assigning groups. This gives me a chance to get to know my students and learn about their social and academic abilities. After about 6 weeks of teacher-directed lessons, students welcome the idea of group work. I set aside an entire 40-minute period for our first group work experience. I assign four partners to a group (chosen ahead of time). The partners are chosen mainly by ability so that each group will have one top-level, two middle-level and one struggling student in each group. I also try to account for personality differences. Students may choose any name for their group that is appropriate for a classroom.
The first group work assignment is usually a simple and easy one. This gives students a chance to adjust to their partners and to choose a group name. Students love to choose group names because it is cool and because it gives them decision-making power. Ideally, all groups should choose a name by the end of the class period. One member of each group places the name of the group and the names of its members on an index card for me.
I then create a handout that lists the name of each group and its members in alphabetical order. This handout is distributed to the class, along with a list of cooperative learning rules (see below).


Every member of each group is responsible for all work assigned.
If there is a disagreement, form a consensus, not a majority rule. Be constructive.
Be open to other members' ideas and encourage their participation. Make sure no one is left out.
Every day one member of each group is designated as the facilitator. The facilitator is not in charge of the group, but simply keeps the group organized on a particular day.

Each day I choose a different group facilitator. For example, if the facilitator is member 1, then the student whose last name is alphabetically first is the facilitator for each group. (Remember the handout that lists group names and members?)
So why do I go to all this trouble? Allow me to elaborate on the benefits of all this work.
The facilitator distributes and collects materials for the group. Instead of dealing with 28 students, I am dealing with 7 group facilitators. This saves me a lot of time and energy.
Manipulatives are very important but expensive for grades K through 8. Instead of asking the principal for 28 sets of fraction pieces, I ask for 7 sets (one for each group). This saves school funds.
Having one set of manipulatives per group reduces the time needed to put things away at the end of an activity.
Students sometimes explain things to each other better than a teacher can to an entire class of students. This usually results in better retention of material.
Questions are more likely to be asked and answered in a group setting. This saves a lot of time over a long question-and-answer session with the entire class, which can cause some students to become bored.
Students today seem to have a much shorter attention span than they did years ago. With cooperative learning used on regular basis, they are less likely to become restless or misbehave during a teacher-directed part of a lesson since they know they will have time in groups.
Varying from teacher-directed to group-directed activities prevents your class from falling into a rut.
Shy students are more likely to ask and answer questions in a group setting. The same is true of low-skills students.
Today's job market is looking for people with good interpersonal and problem-solving skills. Regular participation in cooperative learning activities can help develop and hone these skills.


It is a good idea to change group partners during the school year, otherwise tempers might flare. I assign new group partners each marking period. My students look forward to this since they get to choose new group names.
It took time for me to adjust to the noise level in my classroom during group work. Eventually I was able to differentiate between academic and social conversations. I also had to get used to the time it takes for students to move the furniture in the room. However, this time diminishes as students get used to group work. I remember one time when an administrator observed a class of mine. She commented on how quickly my students moved into groups and started their assignment (under 2 minutes). She concluded that they must be working in groups every day since they were so quick and well-trained.
Cooperative learning should not be used haphazardly. However, when used with a plan, it can offer many educational benefits. Most of all, it is just plain fun.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เทคนิคการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมโดย Gisele Glosserเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมได้อย่างประณีตมากขึ้นกว่ากลุ่มงานกิจกรรม เรียนรู้การสหกรณ์สามารถรวมอยู่ในระบบการจัดการห้องเรียนของคุณ ถ้าคุณฝึกนักเรียนทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในกลุ่ม ผลได้สภาพแวดล้อมการเรียนรู้มีประสิทธิภาพ และสนุกสนานหนึ่งการทดลองแรกของฉันกับการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมคือการให้นักเรียนของฉันทำงานในกลุ่มของตนเลือก แน่นอน พวกเขาเลือกที่จะทำงานกับเพื่อนของพวกเขา และไม่มาก ฉันใช้นี้เพื่อประโยชน์ของฉันในภายหลังกำหนดกลุ่มพันธมิตร ระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการมีเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกันแต่ละปีโรงเรียนที่ฉันรอจนถึงเดือนตุลาคมก่อนการกำหนดกลุ่ม นี้ทำให้ผมมีโอกาสได้รับรู้นักเรียนของฉัน และเรียนรู้เกี่ยวกับความสามารถทางวิชาการ และสังคม หลังจากประมาณ 6 สัปดาห์การเรียนการสอนโดยตรงครู นักเรียนต้อนรับความคิดของกลุ่มงาน ผมได้ไว้เป็นเวลา 40 นาทีทั้งหมดสำหรับประสบการณ์การทำงานของกลุ่มแรก ฉันกำหนดหุ้นส่วน 4 กลุ่ม (เลือกล่วงหน้า) หุ้นส่วนจะถูกเลือก โดยส่วนใหญ่ความสามารถเพื่อให้แต่ละกลุ่มจะมีหนึ่งในระดับสูงสุด ระดับกลาง 2 และดิ้นรนเรียนหนึ่งในแต่ละกลุ่ม ฉันยังพยายามให้ความแตกต่างของบุคลิกภาพ นักเรียนอาจเลือกชื่อสำหรับกลุ่มของตนที่เหมาะสมสำหรับห้องเรียนกำหนดงานกลุ่มแรกมักจะเป็นหนึ่งที่ง่าย และสะดวก ซึ่งทำให้นักเรียนมีโอกาสปรับตัวให้พันธมิตร และเลือกชื่อกลุ่ม นักเรียนชอบที่จะเลือกชื่อกลุ่มเนื่อง จากมีความเย็น และเนื่อง จากมันทำให้พวกเขากำลังตัดสินใจ แห่ง กลุ่มทั้งหมดควรเลือกชื่อสิ้นสุดของรอบระยะเวลาเรียน สมาชิกแต่ละกลุ่มหนึ่งชื่อกลุ่มและชื่อของสมาชิกบนบัตรดัชนีสำหรับฉันแล้วฉันสร้างเอกสารประกอบคำบรรยายที่แสดงรายชื่อของแต่ละกลุ่มและสมาชิกตามลำดับอักษร เอกสารประกอบคำบรรยายนี้จะถูกกระจายไปเรียน พร้อมกับรายการของกฎการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วม (ดูด้านล่าง) ทุกคนในแต่ละกลุ่มรับผิดชอบงานทั้งหมดที่กำหนดให้ ถ้ามีตัวกัน การฉันทามติ กฎส่วนใหญ่ไม่ สามารถสร้างสรรค์ เปิดความคิดของสมาชิกคนอื่น ๆ และส่งเสริมการเข้าร่วม ตรวจสอบให้แน่ใจว่า ไม่มีใครเหลือออกมา ทุกคนวันหนึ่งของแต่ละกลุ่มจะถูกกำหนดเป็นการสัมภาษณ์ การสัมภาษณ์จะไม่รับผิดชอบกลุ่ม แต่เพียงช่วยให้กลุ่มที่จัดในวันหนึ่ง ๆแต่ละวันจะเลือกสัมภาษณ์กลุ่มแตกต่างกัน ตัวอย่าง ถ้าการสัมภาษณ์ สมาชิก 1 แล้วนักเรียนที่มีนามสกุลเป็นตัวอักษรแรกเป็นสัมภาษณ์สำหรับแต่ละกลุ่ม (จำบรรยายที่แสดงรายชื่อกลุ่มและสมาชิก)ดังนั้น ทำไมไม่ไปปัญหานี้หรือไม่ อนุญาตให้ฉันอธิบายประโยชน์ของการทำงานทั้งหมดนี้ สัมภาษณ์การกระจาย และรวบรวมวัสดุสำหรับกลุ่ม แทนที่จะจัดการกับนักศึกษา 28 ฉันกำลังจัดการกับ 7 กลุ่มเบา ๆ นี้ช่วยผมมากเวลาและพลังงาน Manipulatives มีความสำคัญมาก แต่แพงสำหรับเกรด K ถึง 8 แทนที่จะขอเงินชุด 28 ชิ้นเศษ ฉันถามสำหรับชุด 7 (หนึ่งสำหรับแต่ละกลุ่ม) นี้จะบันทึกเงินโรงเรียน มีชุดของ manipulatives สำหรับแต่ละกลุ่มช่วยลดเวลาที่ต้องการใส่สิ่งที่สิ้นสุดของกิจกรรม นักเรียนบางครั้งอธิบายสิ่งต่าง ๆ ดีกว่าคลาสที่มีทั้งนักเรียนสามารถเป็นครู นี้มักจะเกิดในวัสดุดีกว่ารักษา คำถามมักถูกถาม และตอบในกลุ่ม นี้จะบันทึกเวลาผ่านนานคำถาม และรอบเวลาคำตอบกับการเรียนทั้งหมด ซึ่งสามารถทำให้นักเรียนบางคนจะกลายเป็นเบื่อ นักเรียนดูเหมือนมากสั้นสนใจช่วงกว่าปีที่ผ่านมาทำให้วันนี้ มีการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมที่ใช้ประจำ พวกเขามีแนวโน้มกลายเป็นสโมสร หรือ misbehave ระหว่างครูผู้สอนโดยตรงส่วนหนึ่งของบทเรียนเนื่องจากพวกเขารู้ว่า พวกเขาจะมีเวลาในกลุ่ม แตกต่างจากครูโดยตรงให้กลุ่มกำกับกิจกรรมป้องกันคลาของคุณตกไปอยู่ในร่อง นักเรียนขี้อายมีแนวโน้มที่จะถาม และตอบคำถามในการตั้งค่ากลุ่ม เหมือนเป็นความจริงของนักเรียนทักษะต่ำ ตลาดงานวันนี้กำลังมองหาคนที่มีทักษะมนุษยสัมพันธ์ และการ แก้ปัญหาที่ดี ปกติการมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมสามารถช่วยพัฒนา และเหลาทักษะเหล่านี้จึงควรเปลี่ยนกลุ่มพันธมิตรระหว่างปีโรงเรียน มิฉะนั้น อาจ flare tempers ฉันกำหนดคู่ค้ากลุ่มใหม่แต่ละรอบเครื่อง นักเรียนของผมมองไปข้างหน้านี้เนื่องจากพวกเขาได้รับเลือกชื่อกลุ่มใหม่ใช้เวลาการปรับระดับเสียงในห้องเรียนของฉันในระหว่างกลุ่มงาน ในที่สุดผมสามารถแยกความแตกต่างระหว่างการสนทนาทางวิชาการ และสังคม นอกจากนี้ผมจะได้ใช้เวลานักเรียนย้ายเฟอร์นิเจอร์ในห้อง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ค่อย ๆ หายไปเมื่อนักเรียนได้ใช้กลุ่มทำงาน ผมจำได้ว่า ครั้งหนึ่งเมื่อผู้ดูแลสังเกตชั้นเรียนของฉัน เธอแสดงความคิดเห็นอย่างรวดเร็วนักเรียนของผมย้ายเป็นกลุ่ม และเริ่มต้นการกำหนด (ต่ำกว่า 2 นาที) เธอสรุปว่า พวกเขาต้องทำงานในกลุ่มทุกวันเนื่องจากพวกเขาฝึกฝน และรวดเร็วดังนั้นเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมจะไม่มีใช้ผิด ๆ ถูก ๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้แผน มันสามารถให้ประโยชน์ในการศึกษา มากที่สุดทั้งหมด เป็นเพียงธรรมดาสนุก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ
โดย Gisele Glosser การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมเป็นที่ซับซ้อนมากขึ้นกว่าที่กิจกรรมการทำงานเป็นกลุ่ม การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมสามารถรวมอยู่ในระบบการจัดการของห้องเรียน ถ้าคุณฝึกอบรมนักเรียนของคุณจะทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพในกลุ่มผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นสภาพแวดล้อมการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิผลและความสนุกสนาน. หนึ่งในการทดลองครั้งแรกของฉันกับการเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมที่จะช่วยให้นักเรียนของฉันทำงานในกลุ่มของการเลือกของตัวเอง แน่นอนพวกเขาเลือกที่จะทำงานกับเพื่อน ๆ ของพวกเขาและไม่ได้ผลิตมาก ฉันใช้นี้เพื่อประโยชน์ของฉันเมื่อฉันต่อมาได้รับมอบหมายพันธมิตรกลุ่มระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการมีเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกัน. โรงเรียนในแต่ละปีผมรอจนถึงเดือนตุลาคมก่อนที่จะกำหนดกลุ่ม นี้จะช่วยให้ผมมีโอกาสที่จะได้รับรู้นักเรียนของฉันและเรียนรู้เกี่ยวกับความสามารถทางสังคมและทางวิชาการ หลังจากนั้นประมาณ 6 สัปดาห์ของการเรียนครูกำกับนักเรียนต้อนรับความคิดของการทำงานเป็นกลุ่ม ผมตั้งไว้เป็นระยะเวลา 40 นาทีทั้งหมดสำหรับประสบการณ์การทำงานเป็นกลุ่มแรกของเรา ฉันกำหนดสี่พันธมิตรกลุ่ม (ได้รับการแต่งตั้งก่อนเวลา) คู่ค้าที่ได้รับการแต่งตั้งโดยส่วนใหญ่ความสามารถเพื่อให้แต่ละกลุ่มจะมีหนึ่งระดับบนสองระดับกลางและนักเรียนดิ้นรนหนึ่งในแต่ละกลุ่ม ฉันยังพยายามที่จะบัญชีสำหรับความแตกต่างของบุคลิกภาพ นักเรียนสามารถเลือกชื่อใด ๆ สำหรับกลุ่มของพวกเขาที่มีความเหมาะสมสำหรับห้องเรียน. มอบหมายการทำงานเป็นกลุ่มแรกคือมักจะง่ายและสะดวกอย่างใดอย่างหนึ่ง นี้จะช่วยให้นักเรียนมีโอกาสที่จะปรับตัวเข้ากับพันธมิตรของพวกเขาและในการเลือกชื่อกลุ่ม นักเรียนชอบที่จะเลือกชื่อกลุ่มเพราะมันจะเย็นและเพราะจะช่วยให้พวกเขามีอำนาจในการตัดสินใจ จะเป็นการดีที่ทุกกลุ่มควรเลือกชื่อโดยสิ้นสุดระยะเวลาการเรียน หนึ่งในสมาชิกของแต่ละกลุ่มสถานที่ชื่อของกลุ่มและชื่อของสมาชิกในบัตรดัชนีสำหรับฉัน. ฉันแล้วสร้างเอกสารที่แสดงชื่อของแต่ละกลุ่มและสมาชิกตามลำดับตัวอักษร เอกสารนี้จะกระจายไปเรียนพร้อมกับรายการของกฎการเรียนแบบร่วมมือ (ดูด้านล่าง). สมาชิกของแต่ละกลุ่มทุกคนเป็นผู้รับผิดชอบในการทำงานที่ได้รับมอบหมายทั้งหมด. หากมีความขัดแย้งในรูปแบบฉันทามติไม่ได้เสียงข้างมาก สร้างสรรค์. จะเปิดให้ความคิดของสมาชิกคนอื่น ๆ 'และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของพวกเขา ให้แน่ใจว่าไม่มีใครปล่อยออกมา. ทุกวันหนึ่งในสมาชิกของแต่ละกลุ่มถูกกำหนดให้เป็นผู้อำนวยความสะดวก อำนวยความสะดวกไม่ได้อยู่ในความดูแลของกลุ่ม แต่เพียงช่วยให้กลุ่มจัดในวันหนึ่ง. ในแต่ละวันฉันเลือกที่อำนวยความสะดวกกลุ่มที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่นถ้าผู้อำนวยความสะดวกที่เป็นสมาชิก 1 แล้วนักเรียนที่มีชื่อสุดท้ายคือตัวอักษรแรกคือการอำนวยความสะดวกสำหรับแต่ละกลุ่ม (อย่าลืมเอกสารที่แสดงชื่อและสมาชิกในกลุ่ม?) ดังนั้นทำไมฉันจะไปที่ปัญหาทั้งหมดนี้? ให้ผมทำอย่างละเอียดเกี่ยวกับประโยชน์ของการทำงานทั้งหมดนี้. อำนวยความสะดวกจัดจำหน่ายและรวบรวมวัสดุสำหรับกลุ่ม แทนที่จะจัดการกับ 28 นักเรียนฉันกำลังจัดการกับ 7 กลุ่มอำนวยความสะดวก นี้ช่วยฉันมากเวลาและพลังงาน. Manipulatives มีความสำคัญมาก แต่ราคาแพงสำหรับเกรด K ผ่าน 8. แทนที่จะถามหลักสำหรับ 28 ชุดชิ้นส่วนผมขอ 7 ชุด (สำหรับแต่ละกลุ่ม) นี้ช่วยประหยัดเงินโรงเรียน. มีหนึ่งชุดของ manipulatives ต่อกลุ่มช่วยลดเวลาที่จำเป็นเพื่อนำสิ่งที่อยู่ห่างออกไปในตอนท้ายของกิจกรรม. บางครั้งนักเรียนอธิบายสิ่งที่คนอื่น ๆ ได้ดีกว่าครูสามารถที่จะทั้งชั้นของนักเรียน นี้มักจะส่งผลในการเก็บรักษาที่ดีขึ้นของวัสดุ. คำถามที่มีแนวโน้มที่จะได้รับการถามและตอบในการตั้งกลุ่ม นี้ช่วยประหยัดเวลามากในช่วงเซสชั่นยาวคำถามและคำตอบที่มีทั้งชั้นซึ่งอาจทำให้เกิดนักเรียนบางคนที่จะกลายเป็นเบื่อ. นักเรียนในวันนี้ดูเหมือนจะมีช่วงความสนใจสั้นมากกว่าที่พวกเขาปีที่ผ่านมา ด้วยการเรียนแบบร่วมมือที่ใช้เป็นประจำพวกเขามีโอกาสน้อยที่จะกลายเป็นกระสับกระส่ายหรือประพฤติมิชอบในระหว่างการเป็นส่วนหนึ่งที่ครูกำกับของบทเรียนตั้งแต่พวกเขารู้ว่าพวกเขาจะมีเวลาอยู่ในกลุ่ม. แตกต่างจากครูกำกับกิจกรรมกลุ่มกำกับการป้องกันไม่ให้ระดับของคุณจาก ตกไปอยู่ในร่อง. นักเรียนขี้อายมีแนวโน้มที่จะถามและตอบคำถามในการตั้งกลุ่ม เดียวกันเป็นจริงของนักเรียนทักษะต่ำ. ตลาดงานในวันนี้คือการมองหาผู้ที่มีความสัมพันธ์ระหว่างบุคคลและการแก้ปัญหาที่ดีทักษะ การมีส่วนร่วมในกิจกรรมปกติการเรียนแบบร่วมมือสามารถช่วยพัฒนาและฝึกฝนทักษะเหล่านี้. มันเป็นความคิดที่ดีที่จะเปลี่ยนกลุ่มพันธมิตรในช่วงปีที่โรงเรียนมิฉะนั้นอารมณ์อาจจะลุกเป็นไฟ ฉันกำหนดพันธมิตรกลุ่มใหม่ในแต่ละรอบระยะเวลาการทำเครื่องหมาย นักเรียนของฉันมองไปข้างหน้านี้เนื่องจากพวกเขาได้รับการเลือกชื่อกลุ่มใหม่. มันเอาเวลาที่ผมจะปรับระดับเสียงในห้องเรียนของฉันในระหว่างการทำงานเป็นกลุ่ม ในที่สุดผมก็สามารถที่จะแยกความแตกต่างระหว่างการสนทนาทางวิชาการและทางสังคม ฉันยังมีที่จะได้ใช้เวลาที่ใช้สำหรับนักเรียนที่จะย้ายเฟอร์นิเจอร์ในห้องพัก แต่เวลานี้จีบเป็นนักเรียนได้ใช้การทำงานเป็นกลุ่ม ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่งเมื่อผู้ดูแลสังเกตระดับของฉัน เธอเห็นเกี่ยวกับวิธีการอย่างรวดเร็วนักเรียนของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในกลุ่มที่ได้รับมอบหมายและเริ่มต้นของพวกเขา (อายุต่ำกว่า 2 นาที) เธอสรุปว่าพวกเขาจะต้องทำงานในกลุ่มทุกวันตั้งแต่พวกเขาอย่างรวดเร็วและมีการฝึกอบรม. การเรียนรู้แบบมีส่วนร่วมไม่ควรใช้ส่งเดช แต่เมื่อนำมาใช้กับแผนก็สามารถเสนอผลประโยชน์การศึกษาจำนวนมาก ส่วนใหญ่ของทั้งหมดก็เป็นเพียงสนุกธรรมดา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

เทคนิคการเรียนแบบร่วมมือ โดย glosser ครั้ง


และการเรียนแบบร่วมมือ มีความละเอียดมากกว่างานกลุ่ม การเรียนแบบร่วมมือสามารถรวมอยู่ในระบบการจัดการในชั้นเรียนของคุณ ถ้าคุณฝึกนักเรียนของคุณให้ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ในกลุ่ม ผลลัพธ์ สามารถที่มีประสิทธิภาพมากและสนุก
การเรียนรู้สิ่งแวดล้อมหนึ่งในการทดลองครั้งแรกของฉันกับการเรียนแบบร่วมมือ เพื่อให้นักเรียนทำงานกลุ่มที่เลือกของพวกเขาเอง แน่นอน พวกเขาเลือกที่จะทำงานกับเพื่อนของพวกเขาและไม่มีประสิทธิภาพมาก . ผมใช้นี้เพื่อประโยชน์ของฉันเมื่อฉันภายหลังมอบหมายให้กลุ่มพันธมิตร ระมัดระวังเพื่อหลีกเลี่ยงการมีเพื่อนสนิทในกลุ่มเดียวกัน แต่ละโรงเรียนปี
ฉันรอจนกว่าตุลาคมก่อนที่จะให้กลุ่มนี้จะช่วยให้ผมได้มีโอกาสได้รู้จักนักเรียนของฉันและเรียนรู้เกี่ยวกับความสามารถด้านวิชาการและสังคมของพวกเขา หลังจาก 6 สัปดาห์ของครูกับนักเรียน บทเรียน สู่แนวคิดของกลุ่ม ผมตั้งไว้ทั้งหมด 40 นาทีระยะเวลาสำหรับประสบการณ์ของเราทำงานกลุ่มแรก ผมสั่ง 4 คู่ในกลุ่ม ( เลือกล่วงหน้า )พันธมิตรจะถูกเลือกโดยส่วนใหญ่ความสามารถ ดังนั้น แต่ละกลุ่มจะมีหนึ่งบนสุดสองระดับกลางและการดิ้นรนของนักเรียนในแต่ละกลุ่ม ฉันยังพยายามที่จะบัญชีสำหรับความแตกต่างของบุคลิกภาพ นักศึกษาอาจเลือกชื่อใด ๆสำหรับกลุ่มที่เหมาะสมสำหรับห้องเรียน กลุ่มงานงาน
ครั้งแรกมักจะเป็นง่ายและใช้งานง่ายหนึ่งนี้จะช่วยให้นักเรียนมีโอกาสที่จะปรับให้แก่คู่ค้าของพวกเขาและเลือกชื่อกลุ่ม นักเรียนชอบที่จะเลือกชื่อกลุ่ม เพราะมันเย็น เพราะมันช่วยให้พวกเขาอำนาจการตัดสินใจ ใจกลาง ทุกกลุ่มควรเลือกชื่อโดยการจบช่วงชั้น หนึ่งในสมาชิกของแต่ละกลุ่มที่ชื่อกลุ่ม และชื่อของสมาชิกในบัตรดัชนีสำหรับฉัน .
ฉันแล้วสร้างเอกสารที่แสดงชื่อของแต่ละกลุ่ม และสมาชิก ตามลำดับตัวอักษร เอกสารนี้มีการกระจายไปที่ห้องเรียนพร้อมกับรายการของกฎการเรียนแบบร่วมมือ ( ดูด้านล่าง )


ทุกสมาชิกของแต่ละกลุ่มรับผิดชอบงานที่ได้รับมอบหมาย .
ถ้ามีความขัดแย้งแบบเอกฉันท์ ไม่ใช่เสียงข้างมากปกครอง
เป็นสร้างสรรค์จะเปิดให้ความคิดของสมาชิกคนอื่น ๆและการมีส่วนร่วมของพวกเขา แน่ใจนะว่าไม่มีใครทิ้ง
ทุกวันหนึ่งสมาชิกของแต่ละกลุ่มเขต เป็นผู้ประสานงาน ผู้ให้บริการจะไม่รับผิดชอบในกลุ่ม แต่ก็ทำให้กลุ่มองค์กรในแต่ละวัน

ทุกวันผมเลือกผู้ประสานงานกลุ่มที่แตกต่างกัน ตัวอย่างเช่น ถ้าผู้ให้บริการมีสมาชิก 1 ,แล้วนักเรียนที่นามสกุลเป็นอักษรแรกคือ ผู้ประสานงานกลุ่ม ( จำชื่อรายการเอกสารที่กลุ่มและสมาชิก ?
ทำไมฉันต้องเจอปัญหาอย่างนี้ ? ให้ฉันสาธยายประโยชน์ของทั้งหมดนี่
ผู้ประสานงานกระจายและรวบรวมวัสดุสำหรับกลุ่ม แทนที่จะจัดการกับ 28 คน ฉันจัดการกับ 7 ครูประจำกลุ่มนี้ช่วยให้ฉันมากของเวลาและพลังงาน
ต่อจากนั้นสำคัญแต่ราคาแพงสำหรับเกรด K ถึง 8 แทนที่จะถามครูใหญ่ 28 ชุด ชิ้น ส่วน ผม ขอ ชุด 7 ( หนึ่งสำหรับแต่ละกลุ่ม ) นี้จะบันทึกเงินโรงเรียน
มีหนึ่งชุด ต่อจากนั้นมละลดเวลาที่จำเป็นในการใส่สิ่งที่อยู่ในตอนท้ายของกิจกรรม
นักเรียนบางครั้งอธิบายสิ่งที่แต่ละอื่น ๆที่ดีกว่า ครูสามารถเป็นห้องเรียนของนักเรียน นี้มักจะส่งผลในการเก็บที่ดีของวัสดุ
คำถามจะถามและตอบในกลุ่มการตั้งค่า นี้ช่วยประหยัดเวลามากกว่า คำถามและคำตอบที่มีระยะเวลายาวทั้งชั้น ซึ่งสามารถทำให้นักเรียนเบื่อ
นักเรียนวันนี้ดูเหมือนจะมีช่วงความสนใจสั้นมากกว่าที่พวกเขาทำเมื่อปีที่แล้ว ด้วยการเรียนแบบร่วมมือที่ใช้เป็นประจำ พวกเขามีโอกาสน้อยที่จะกลายเป็นกระสับกระส่าย หรือประพฤติมิชอบในส่วนของอาจารย์ที่สอน เพราะพวกเขารู้ว่า พวกเขาจะมีเวลาในกลุ่มที่แตกต่างจากกลุ่มครู
กำกับกำกับกิจกรรมป้องกันห้องของคุณจากการล้มลงในร่อง .
นักเรียนขี้อายมีแนวโน้มที่จะถามและตอบคำถามในกลุ่มการตั้งค่า เดียวกันเป็นจริงของนักเรียนทักษะต่ำ
ตลาดงานวันนี้กำลังมองหาผู้ที่มีมนุษยสัมพันธ์ดี และทักษะการแก้ปัญหา การมีส่วนร่วมในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้แบบปกติ สามารถช่วยพัฒนาและฝึกทักษะเหล่านี้


มันเป็นความคิดที่ดีที่จะเปลี่ยนกลุ่มพันธมิตรในโรงเรียนปีมิฉะนั้น อารมณ์อาจเปลวไฟ ผมกำหนดคู่ค้ากลุ่มใหม่แต่ละเครื่องหมายดังกล่าว นักเรียนของฉันหวังว่านี้เนื่องจากพวกเขาได้รับเลือกชื่อกลุ่มใหม่
มันเอาเวลาที่จะปรับระดับเสียงรบกวนในห้องเรียน เวลาทำงานกลุ่ม ในที่สุดผมก็สามารถที่จะแยกความแตกต่างระหว่างวิชาการและสังคมการสนทนาผมยังต้องใช้เวลาสำหรับนักเรียนที่จะย้ายเฟอร์นิเจอร์ในห้องพัก อย่างไรก็ตาม เวลานี้เมื่อเป็นนักเรียนได้ทำงานกลุ่ม ผมจำได้ว่าครั้งหนึ่งเมื่อผู้ดูแลระบบพบชั้นเรียนของฉัน เธอให้ความเห็นว่านักเรียนของฉันย้ายเข้ามาอยู่ในกลุ่มได้อย่างรวดเร็วและเริ่มงานของพวกเขา ( ภายใต้ 2 นาที )เธอสรุปได้ว่า พวกเขาจะต้องทำงานในกลุ่มทุกๆวันตั้งแต่พวกเขารวดเร็วและประทับใจ
การเรียนรู้สหกรณ์ไม่ควรใช้มั่วซั่ว . อย่างไรก็ตาม เมื่อใช้กับแผนที่ มันสามารถให้ประโยชน์ทางการศึกษามาก มากที่สุดของทั้งหมดมันเป็นเพียงแค่สนุกธรรมดา