Background. A growing number of stu

Background. A growing number of studies and reports indicate preventive,
routine and emergency dental procedures can be provided safely
to pregnant patients to alleviate dental problems and promote oral health
of mothers and children.
Methods. In 2006 and 2007, the authors conducted a survey of 1,604
general dentists in Oregon. The survey asked dentists about their attitudes,
beliefs and practices regarding dental care for pregnant patients.
The authors compared the responses with 2006 guidelines from a New
York State Department of Health expert panel.
Results. The response rate was 55.2 percent. Most respondents (91.7
percent) agreed that dental treatment should be part of prenatal care.
Two-thirds of respondents (67.7 percent) were interested in receiving continuing
dental education (CDE) regarding the care of pregnant patients.
Comparisons of self-reported knowledge and practice with the aforementioned
guidelines revealed several points of difference; the greatest
regarded obtaining full-mouth radiographs, providing nitrous oxide,
administering long-acting anesthetic injections and use of over-thecounter
pain medications.
Conclusions. Dentists need pregnancy-specific education to provide
up-to-date preventive and curative care to pregnant patients. The results
of the study identified specific skills and misinformation that could be
addressed through CDE.
Clinical Implications. Comprehensive dental care provided during
pregnancy is needed to ensure the oral health of all women at risk of
experiencing pregnancy-specific problems, as well as the prevention of
early childhood caries.
Key Words. Access to care; aspirin; dental care; pregnancy; prenatal
care; vulnerable populations; women’s health; continuing education
programs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

พื้นหลัง จำนวนที่เพิ่มขึ้นของการศึกษาและรายงานระบุป้องกันขั้นตอนและกระบวนงานทันตกรรมฉุกเฉินสามารถแสดงได้อย่างปลอดภัยผู้ป่วยตั้งครรภ์ถึงปัญหาสุขภาพฟัน และสุขภาพช่องปากแม่และเด็กวิธี ในปี 2006 และ 2007 ผู้เขียนทำการสำรวจของ 1,604ทันตแพทย์ทั่วไปในออริกอน แบบสำรวจถามทันตแพทย์เกี่ยวกับทัศนคติของพวกเขาความเชื่อและวิธีปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลทันตกรรมในผู้ป่วยตั้งครรภ์ผู้เขียนเปรียบเทียบการตอบสนองกับแนวทาง 2006 จากใหม่เป็นแผงผู้เชี่ยวชาญกรมสุขภาพรัฐนิวยอร์กผลลัพธ์ที่ อัตราการตอบสนองได้ร้อยละ 55.2 ผู้ตอบส่วนใหญ่ (91.7เปอร์เซ็นต์) เห็นว่า การรักษาทันตกรรมควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลก่อนคลอดสองในสามของผู้ตอบ (ร้อยละ 67.7) ที่สนใจในการรับดำเนินการต่อไปกรรมศึกษา (CDE) เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยตั้งครรภ์เปรียบเทียบความรู้รายงานด้วยตนเองและแบบฝึกหัดดังกล่าวแนวทางเปิดเผยหลายจุดของความแตกต่าง ยิ่งใหญ่รับเต็มปาก radiographs ไนตรัสออกไซด์ ให้ถือดูแลรักษาการยาว anesthetic ฉีดและใช้มากกว่า-thecounterยารักษาอาการปวดบทสรุปของการ ทันตแพทย์ต้องศึกษาเฉพาะตั้งครรภ์ให้ทันสมัยป้องกัน และ curative ดูแลผู้ป่วยตั้งครรภ์ ผลลัพธ์การศึกษาที่ระบุทักษะและ misinformation ที่สามารถทำการส่งผ่าน CDEผลทางคลินิก ดูแลทันตกรรมครอบคลุมให้บริการระหว่างตั้งครรภ์เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อสุขภาพช่องปากของผู้หญิงทุกคนที่มีความเสี่ยงของประสบปัญหาการตั้งครรภ์เฉพาะ ตลอดจนการป้องกันปฐมวัยผุคำสำคัญ ถึงดูแล แอสไพริน ดูแลฟัน ตั้งครรภ์ ก่อนคลอดดูแล ประชากรเสี่ยง ผู้หญิงสุขภาพ ศึกษาต่อเนื่องโปรแกรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

พื้นหลัง ตัวเลขการเติบโตของการศึกษาและรายงานระบุป้องกัน
ขั้นตอนตามปกติและทันตกรรมฉุกเฉินสามารถให้บริการได้อย่างปลอดภัย
ให้แก่ผู้ป่วยตั้งครรภ์เพื่อบรรเทาปัญหาทางทันตกรรมและการส่งเสริมสุขภาพช่องปาก
ของมารดาและเด็ก.
วิธี ในปี 2006 และ 2007 ผู้เขียนได้ทำการสำรวจจาก 1,604
ทันตแพทย์ทั่วไปในโอเรกอน สำรวจถามทันตแพทย์เกี่ยวกับทัศนคติของพวกเขา
เชื่อและการปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลทันตกรรมสำหรับผู้ป่วยตั้งครรภ์.
ผู้เขียนการตอบสนองเมื่อเทียบกับปี 2006 แนวทางใหม่จาก
นิวยอร์กกระทรวงการต่างประเทศของคณะผู้เชี่ยวชาญด้านสุขภาพ.
ผล อัตราการตอบสนองเป็นร้อยละ 55.2 ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่ (91.7
เปอร์เซ็นต์) เห็นว่าการรักษาทางทันตกรรมที่ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลก่อนคลอด.
สองในสามของผู้ตอบแบบสอบถาม (ร้อยละ 67.7) มีความสนใจอย่างต่อเนื่องในการรับ
การศึกษาทันตกรรม (CDE) เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยตั้งครรภ์.
การเปรียบเทียบความรู้ด้วยตนเองและการรายงาน การปฏิบัติดังกล่าวข้างต้นด้วย
แนวทางการเปิดเผยหลายจุดของความแตกต่าง; ที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
ได้รับการยกย่องได้รับการฉายรังสีเต็มปากให้ก๊าซไนตรัสออกไซด์,
การบริหารระยะยาวทำหน้าที่ฉีดยาสลบและการใช้มากกว่า thecounter
ปวดยา.
สรุปผลการวิจัย ทันตแพทย์ต้องการการศึกษาการตั้งครรภ์ที่เฉพาะเจาะจงที่จะให้
ถึงวันที่การดูแลป้องกันและรักษาให้กับผู้ป่วยตั้งครรภ์ ผล
การศึกษาระบุทักษะที่เฉพาะเจาะจงและข้อมูลที่ผิดที่อาจจะ
ที่ผ่าน CDE.
ผลกระทบทางคลินิก การดูแลทันตกรรมครบวงจรที่มีให้ในระหว่าง
การตั้งครรภ์เป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้แน่ใจว่าการดูแลสุขภาพช่องปากของผู้หญิงทุกคนที่มีความเสี่ยงของการ
ประสบปัญหาการตั้งครรภ์โดยเฉพาะเช่นเดียวกับการป้องกัน
โรคฟันผุในวัยเด็ก.
คำสำคัญ การเข้าถึงการดูแล; แอสไพริน; การดูแลทันตกรรม; การตั้งครรภ์ ก่อนคลอด
การดูแล; ประชากรที่เปราะบาง; สุขภาพของผู้หญิง; การศึกษาต่อเนื่อง
โปรแกรม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พื้นหลัง ตัวเลขการเติบโตของการศึกษาและรายงานระบุป้องกัน
ตามปกติและขั้นตอนทันตกรรมฉุกเฉินสามารถให้บริการได้อย่างปลอดภัย
ผู้ป่วยตั้งครรภ์เพื่อบรรเทาปัญหาทางทันตกรรมและการส่งเสริมสุขภาพช่องปากแม่และเด็ก
.
วิธี ในปี 2549 และ 2550 ผู้เขียนได้ทำการสำรวจของ 1604
ทั่วไปทันตแพทย์ในโอเรกอน สำรวจถามทันตแพทย์เกี่ยวกับทัศนคติ
,ความเชื่อและการปฏิบัติเกี่ยวกับการดูแลทันตกรรมสำหรับผู้ป่วยตั้งครรภ์ .
ผู้เขียนเปรียบเทียบกับ 2006 จากการตอบสนองแนวทางใหม่
รัฐนิวยอร์กกรมสุขภาพผู้เชี่ยวชาญแผง
ผลลัพธ์ อัตราการตอบกลับร้อยละ 55.2 เปอร์เซ็นต์ กลุ่มตัวอย่างส่วนใหญ่ ( ร้อยละ 91.7
) ตกลงกันว่า รักษาฟัน ควรเป็นส่วนหนึ่งของการดูแลก่อนคลอด .
สองในสามของผู้ตอบแบบสอบถาม ( 67ร้อยละ 7 ) สนใจรับต่อ
ทันตกรรมการศึกษา ( CDE ) เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยตั้งครรภ์ self-reported
เปรียบเทียบความรู้และการปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว
พบหลายจุดของความแตกต่าง ที่สุด
ถือว่าได้รับรังสีทั้งปากให้ก๊าซไนตรัสออกไซด์ ,
ให้ยาวและใช้ฉีด ยาชากว่า thecounter
โรคปวด
สรุป ทันตแพทย์ต้องศึกษาเฉพาะการตั้งครรภ์เพื่อให้ทันสมัย การป้องกันและการดูแลรักษา
ผู้ป่วยตั้งครรภ์ ผลการศึกษาระบุ
และทักษะเฉพาะข้อมูลที่สามารถ addressed โดย CDE
.
นัยทางคลินิก การดูแลทันตกรรมครอบคลุมในระหว่างการตั้งครรภ์ให้
ต้องการให้สุขภาพช่องปากของหญิงทั้งหมดที่เสี่ยง
ปัญหาเฉพาะการตั้งครรภ์ รวมทั้งการป้องกันการเกิดโรคฟันผุในเด็กปฐมวัย
.
คำสำคัญ การเข้าถึงการดูแล แอสไพริน การดูแลทันตกรรม ; ตั้งครรภ์ การดูแลก่อนคลอด
; ประชากร ; สุขภาพสตรี โปรแกรมการศึกษา
อย่างต่อเนื่อง