A Belgian surrealist painter, Rene

A Belgian surrealist painter, Rene Magritte’s witty and thought-provoking paintings sought to have viewers question their perceptions of reality, and become hypersensitive to the world around them. Magritte’s mother was a suicidal woman, which led her husband, Magritte’s father, to lock her up in her room. One day, she escaped, and was found down a nearby river dead, having drowned herself. According to legend, 13 year old Magritte was there when they retrieved the body from the river. As she was pulled from the water, her dress covered her face. This later became a theme in many of Magritte’s paintings in the 1920’s, portraying people with cloth covering their faces.

He began drawing lessons at age ten, and in 1916, went to study a the Royal Academy of Fine Arts in Brussels, where he found the instruction uninspiring and unsuited to his tastes. He did not begin his actual painting career until after serving in the Belgian infantry for a short time, and working at a wallpaper company as a draftsman and producing advertising posters. He was able to paint full time due to a short-lived contract with Galerie le Centaure, allowing him to present in his first exhibition, which was poorly received.

Magritte made his living producing advertising posters in a business he ran with his brother, as well as creating forgeries of Picasso, Braque and Chirico paintings. His experience with forgeries also allowed him to create false bank notes during the German occupation of Belgium in World War II, helping him to survive the lean economic times.

Through creating common images and placing them in extreme contexts, Magritte sough to have his viewers question the ability of art to truly represent an object. In his paintings, he often played with the perception of an image and the fact that the painting of the image could never actually be the object. His artistic interpretations influenced many modern artists, including Andy Warhol, Jan Verdoodt and Jasper Johns. His art, which was especially popular during the 1960’s, has also influenced numerous songs, movies, and books.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จิตรกร surrealist เบลเยียม เรเน Magritte ไหวพริบ และปรปักษ์ภาพขอให้ผู้ชมถามความเข้าใจของความเป็นจริง และเป็น hypersensitive โลกรอบ ๆ แม่ของ Magritte เป็นผู้หญิงอยากฆ่าตัวตาย สามี บิดาของ Magritte การล็อกของเธอในห้องของเธอที่ ได้ วันหนึ่ง เธอหนี และพบแม่น้ำใกล้เคียงตาย มีจมตัวเอง ตำนาน 13 ปี Magritte เก่านั่นเมื่อพวกเขาเรียกตัวจากแม่น้ำ ขณะที่เธอถูกดึงจากน้ำ เครื่องแต่งกายของเธอครอบคลุมใบหน้าของเธอ นี้ภายหลังกลายเป็นรูปแบบในภาพวาดของ Magritte ใน 1920 ขัดคนกับผ้าที่ครอบคลุมใบหน้าของพวกเขา เขาเริ่มเรียนวาดรูปที่อายุสิบ และใน 1916 ไปเรียนราชสถาบันศิลปะในบรัสเซลส์ ซึ่งเขาพบคำสั่ง uninspiring และในการรสนิยมของเขา เขาไม่ได้เริ่มต้นอาชีพวาดภาพจริงของเขาจนกว่าหลังจากบริการในกองทหารราบเบลเยียมเป็นเวลาสั้น ๆ และการทำงานที่บริษัทวอลล์เปเปอร์เป็นเราผลิตโปสเตอร์โฆษณา เขาก็สามารถที่จะระบายสีเต็มเวลาเนื่องจากสัญญาช่วงสั้น ๆ กับเบคอนเลอ Centaure อนุญาตให้เขานำเสนอในนิทรรศการครั้งแรกของเขา ซึ่งได้รับงาน Magritte ชีพผลิตโปสเตอร์โฆษณาในธุรกิจได้วิ่งกับพี่ชายของเขา ตลอดจนสร้าง forgeries ของ Picasso, Braque และ Chirico ภาพวาดได้ ประสบการณ์กับ forgeries ยังได้เขาสร้างผิดธนาคารบันทึกระหว่างการยึดครองเยอรมันเบลเยียมในสงครามโลก ช่วยเขาเพื่อความอยู่รอดทางเศรษฐกิจเวลาแบบ lean สร้างภาพทั่วไป และวางในบริบทมาก Magritte sough เพื่อให้ผู้ชมถามความสามารถในศิลปะในการแสดงวัตถุอย่างแท้จริง ในภาพวาดของเขา เขามักจะเล่นกับการรับรู้ของภาพและความจริงที่ว่า ภาพวาดของภาพก็อาจเป็นวัตถุ เขาตีความศิลปะอิทธิพลหลายศิลปิน วอร์ฮอล Andy, Jan Verdoodt และแจสเปอร์จอนส์ ยังได้รับอิทธิพลศิลปะของเขา ซึ่งได้รับความนิยมมากในช่วง 1960 เพลงมากมาย ภาพยนตร์ และหนังสือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จิตรกร surrealist เบลเยียม Rene Magritte ของไหวพริบและกระตุ้นความคิดภาพวาดจึงต้องถามผู้ชมรับรู้ของพวกเขาในความเป็นจริงและกลายเป็นเสียวกับโลกรอบตัวพวกเขา แม่ Magritte เป็นผู้หญิงคนหนึ่งที่ฆ่าตัวตายซึ่งนำสามีของเธอพ่อ Magritte ของการล็อคของเธอขึ้นในห้องของเธอ วันหนึ่งเธอหนีออกมาและได้พบลงแม่น้ำหมันใกล้เคียงมีการจมน้ำของตัวเอง ตามตำนาน 13 ปีเก่า Magritte อยู่ที่นั่นเมื่อพวกเขาดึงร่างกายจากแม่น้ำ ขณะที่เธอถูกดึงจากน้ำ, ชุดของเธอปกคลุมใบหน้าของเธอ รูปแบบนี้ต่อมากลายเป็นในหลาย ๆ ภาพวาด Magritte ในปี 1920 จิตรคนที่มีผ้าครอบคลุมใบหน้าของพวกเขา. เขาเริ่มวาดภาพบทเรียนที่อายุสิบและในปี 1916 ไปศึกษาราชบัณฑิตยสถานแห่งวิจิตรศิลป์ในกรุงบรัสเซลส์ซึ่งเขาพบว่า การเรียนการสอนน่าเบื่อและพอกับรสนิยมของเขา เขาไม่ได้เริ่มต้นอาชีพการวาดภาพที่เกิดขึ้นจริงของเขาจนกระทั่งหลังจากที่ให้บริการในราบเบลเยียมเป็นเวลาสั้น ๆ และการทำงานที่ บริษัท วอลล์เปเปอร์เป็นหมากและผลิตโปสเตอร์โฆษณา เขาก็สามารถที่จะวาดเต็มเวลาเนื่องจากการทำสัญญาระยะสั้นอาศัยอยู่กับ Galerie le Centaure ปล่อยให้เขาที่จะนำเสนอในการจัดนิทรรศการครั้งแรกของเขาที่ได้รับไม่ดี. Magritte ทำให้ชีวิตของเขาผลิตโปสเตอร์โฆษณาในธุรกิจที่เขาวิ่งไปกับพี่ชายของเขาเป็น รวมทั้งการสร้างปลอมของปิกัสโซบร๊าคและภาพวาด Chirico ประสบการณ์ของเขากับของปลอมนอกจากนี้ยังอนุญาตให้เขาสร้างธนบัตรปลอมในระหว่างการยึดครองของเยอรมันเบลเยียมในสงครามโลกครั้งที่สองช่วยให้เขาเพื่อความอยู่รอดทางเศรษฐกิจครั้งลีน. ผ่านการสร้างภาพร่วมกันและวางไว้ในบริบทมาก Magritte Sough จะมีคำถามที่ผู้ชมของเขา ความสามารถของศิลปะอย่างแท้จริงเป็นตัวแทนของวัตถุ ในภาพวาดของเขาเขามักจะเล่นกับการรับรู้ของภาพและความจริงที่ว่าภาพวาดของภาพอาจจะไม่เป็นจริงวัตถุ การตีความศิลปะของเขามีอิทธิพลต่อศิลปินที่ทันสมัยจำนวนมากรวมทั้งแอนดี้วอร์ฮอแจ Verdoodt และแจสเปอร์จอห์นส์ ศิลปะของเขาซึ่งเป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี 1960 ยังมีอิทธิพลต่อหลายเพลง, ภาพยนตร์และหนังสือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จิตรกรชาวเบลเยียมของ เรเน่ มากริท Surrealist , ไหวพริบและกระตุ้นความคิดภาพวาดพยายามที่จะมีผู้ชมถามการ รับรู้ความเป็นจริงและกลายเป็นซี่กับโลกรอบตัวพวกเขา รูปภาพนี้เป็นแม่เป็นผู้หญิงฆ่าตัวตาย ทำให้สามี พ่อ มากริท เพื่อขังเธอไว้ในห้องของเธอ วันหนึ่ง เธอหลบหนีและถูกพบเสียชีวิตลงแม่น้ำใกล้ๆ มีจมน้ำเองตามตำนาน 13 ขวบรูปภาพนี้มีเมื่อพวกเขาดึงร่างกายจากแม่น้ำ ขณะที่เธอถูกดึงขึ้นมาจากน้ำ เธอแต่งตัวปกปิดใบหน้าของเธอ นี้ภายหลังกลายเป็นกระทู้หลายภาพวาดรูปภาพนี้ในปี 1920 , เห็นคนตัดผ้าคลุมใบหน้าของพวกเขา

เขาเริ่มวาดภาพบทเรียน ตอนอายุ 10 ขวบ และใน 1916 ไปศึกษาที่ Royal Academy of Fine Arts ในกรุงบรัสเซลส์ซึ่งเขาพบว่าการเรียนการสอนและ uninspiring unsuited กับรสนิยมของเขา เขาไม่ได้เริ่มต้นอาชีพวาดภาพที่แท้จริงของเขาจนกว่าหลังจากการให้บริการในทหารราบเบลเยี่ยมในเวลาสั้นๆ และทำงานที่บริษัทหลังเป็นช่างเขียนแบบ และผลิตป้ายโฆษณา เขาก็สามารถที่จะวาดเต็มเวลา เนื่องจากสัญญากับแกเลอรี เลอ centaure ช่วงสั้น ๆ ให้เขานำเสนอในนิทรรศการครั้งแรกของเขาซึ่งได้รับ ไม่ดี

รูปภาพนี้ทำให้ชีวิตของเขาผลิตโฆษณาโปสเตอร์ในธุรกิจที่เขาอยู่กับพี่ชายของเขา เช่นเดียวกับการสร้างของปลอมของปิกัสโซและบราค Chirico , ภาพวาด . ประสบการณ์ของเขากับคนนอกยังอนุญาตให้เขาสร้างธนบัตรปลอมในเยอรมันยึดครองของเบลเยียมในสงครามโลกครั้งที่สอง การช่วยให้เขาอยู่รอดยันเศรษฐกิจครั้ง

ผ่านการสร้างภาพทั่วไปและวางไว้ในบริบทที่รุนแรง มากริทซู่ซ่ามีผู้ชมของเขาถามความสามารถของศิลปะอย่างแท้จริงเป็นตัวแทนของวัตถุ ในภาพวาดของเขา เขามักจะเล่นกับการรับรู้ภาพและความจริงที่ว่าภาพวาดของภาพอาจจะไม่เคยเป็นวัตถุ การตีความศิลปะของเขามีอิทธิพลต่อศิลปินสมัยใหม่มากมาย รวมถึง แอนดี้ วอร์ฮอลแจนและ verdoodt แจสเปอร์จอห์น ศิลปะของเขาซึ่งเป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงปี 1960 ได้ยังได้รับอิทธิพลเพลงมากมาย ภาพยนตร์ และหนังสือ