3. Results and discussion3.1. Total

3. Results and discussion
3.1. Total phenolic content
Phenolic compounds are believed to be effective antioxidants
such as radical scavengers and metal chelators. The present
study identified the total phenolic compounds contained in
extracts of different anatomical parts of O. narbonense using the
Folin–Ciocalteu method. Phenolics accumulate in different plant
organs in relation to their role in the life of the plant (Sazhina
and Misin, 2011). The present study found that the total phenolic
contents of O. narbonense extracts varied significantly according
to the plant part as well as the solvent used. The highest total phenolic
content was found in the Bulb-EA extract (21.05mgGAEs/g
extract), followed by the St-EA (14.59mgGAEs/g extract), S-EA
(12.91mgGAEs/g extract), St-Met (12.49mgGAEs/g extract), Bulb-
Met (10.33mgGAEs/g extract), S-Met (9.77mgGAEs/g extract),
St-W (8.11mgGAEs/g extract), Bulb-W (4.79mgGAEs/g extract)
and S-W (4.48mgGAEs/g extract) extracts. Previous studies have
also reported differences in the phenolic levels of different anatomical
parts of several plant species (Mittal et al., 2013; Zengin and
Aktumsek, 2014). In general, the present study found the phenolic
concentrations to be highest among the ethyl acetate extracts,
followed by the methanol and the water extracts (Table 1). These
findings are in line with those of Khole et al. (2014) and Elzaawely
et al. (2005), who found ethyl acetate extracts to have the highest
phenolic contents. In comparison to other Ornithogalum species,
the total phenolic contents of O. narbonense found in the present
study are higher than those reported for Ornithogalum sintenisii
(Ebrahimzadeh et al., 2010), but lower than those reported for
Ornithogalum cuspidatum (Delazar et al., 2010).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

3. ผลลัพธ์ และสนทนา3.1. เนื้อหารวมฟีนอม่อฮ่อมเชื่อกันว่า สารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพscavengers รุนแรงและ chelators โลหะ ปัจจุบันการศึกษาระบุสารฟีนอรวมอยู่ในสารสกัดของส่วนกายวิภาคต่าง ๆ ของโอ narbonense โดยใช้การFolin-Ciocalteu วิธีการ Phenolics สะสมอยู่ในพืชแตกต่างกันอวัยวะที่เกี่ยวกับบทบาทของตนในชีวิตของพืช (Sazhinaก Misin, 2011) การศึกษาปัจจุบันพบว่ารวมฟีนอเนื้อหาของสารสกัดจาก narbonense โอแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญตามส่วนโรงงานรวมทั้งตัวทำละลายที่ใช้ สูงสุดรวมฟีนอเนื้อหาที่พบในสารสกัดเอหลอด (21.05mgGAEs / gแยก), ตาม ด้วยเอเซนต์ (14.59mgGAEs / g แยก), S-เอ(12.91mgGAEs / g แยก), ตามเซนต์ (12.49mgGAEs / g แยก), หลอด -พบ (10.33mgGAEs / g แยก), S พบ (9.77mgGAEs / g แยก),เซนต์-W (8.11mgGAEs / g แยก), W หลอด (4.79mgGAEs / g แยก)และ S-W (4.48mgGAEs / g แยก) แยก การศึกษาก่อนหน้านี้ได้นอกจากนี้ รายงานความแตกต่างในฟีนอระดับของต่างกายวิภาคชิ้นส่วนหลายชนิดพืชชนิด (Mittal et al., 2013 Zengin และAktumsek, 2014) ทั่วไป การศึกษาปัจจุบันพบการฟีนอสารสกัดความเข้มข้นจะสูงสุดในหมู่ acetate เอทิลตามเมทานอลและสารสกัดน้ำ (ตารางที่ 1) เหล่านี้จะพบกับบรรดา Khole et al. (2014) และ Elzaawelyal. ร้อยเอ็ด (2005), ที่พบ acetate เอทิลแยกไปได้ที่สูงที่สุดจากเนื้อหาฟีนอ เมื่อเปรียบเทียบกับพันธุ์อื่น ๆ Ornithogalumรวมฟีนอราย narbonense โอที่พบในปัจจุบันศึกษานั้นสูงรายงานสำหรับ Ornithogalum sintenisii(Ebrahimzadeh et al., 2010), แต่กว่าที่รายงานสำหรับOrnithogalum cuspidatum (Delazar et al., 2010)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

3. ผลการอภิปรายและ
3.1 เนื้อหาฟีนอลรวมสารประกอบฟีนอลิเชื่อว่าจะเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพเช่นการดักจับอนุมูลโลหะและchelators ปัจจุบันการศึกษาระบุสารประกอบฟีนอรวมที่มีอยู่ในสารสกัดจากชิ้นส่วนที่แตกต่างกันทางกายวิภาคของโอnarbonense ใช้วิธีFolin-Ciocalteu ฟีนอลสะสมในพืชที่แตกต่างอวัยวะที่เกี่ยวข้องกับบทบาทของพวกเขาในชีวิตของพืช (Sazhina และ Misin 2011) การศึกษาครั้งนี้พบว่าฟีนอลรวมเนื้อหาของสารสกัดจาก narbonense แตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญทุมตามเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของพืชเช่นเดียวกับตัวทำละลายที่ใช้ ฟีนอลรวมสูงสุดเนื้อหาที่พบในสารสกัดจากหลอดไฟ-EA (21.05mgGAEs / g สารสกัด) ตามด้วยเซนต์-EA (14.59mgGAEs / g สารสกัด), S-EA (12.91mgGAEs / g สารสกัด) เซนต์-Met ( 12.49mgGAEs / g สารสกัด) Bulb- Met (10.33mgGAEs / g สารสกัด), S-Met (9.77mgGAEs / g สารสกัด), St-W (8.11mgGAEs / g สารสกัด) หลอดไฟ-W (4.79mgGAEs / g สารสกัด) และ SW (4.48mgGAEs / g สารสกัด) สารสกัดจาก การศึกษาก่อนหน้านี้ได้แตกต่างรายงานยังอยู่ในระดับฟีนอลของกายวิภาคที่แตกต่างกันในส่วนของสายพันธุ์พืชหลายคน(Mittal, et al, 2013;. Zengin และAktumsek 2014) โดยทั่วไปการศึกษาครั้งนี้พบว่าฟีนอลความเข้มข้นที่จะเป็นสูงที่สุดในบรรดาสารสกัดเอทิลอะซีเต, ตามด้วยเมทานอลและสารสกัดจากน้ำ (ตารางที่ 1) เหล่านี้ผลการวิจัยที่สอดคล้องกับผู้ Khole et al, (2014) และ Elzaawely et al, (2005) ที่พบว่าสารสกัดจากน้ำนมจะมีสูงสุดเนื้อหาฟีนอล เมื่อเปรียบเทียบกับสายพันธุ์อื่น ๆ Ornithogalum, เนื้อหาฟีนอลรวมของ narbonense ทุมพบในปัจจุบันการศึกษาสูงกว่ารายงานOrnithogalum sintenisii (Ebrahimzadeh et al., 2010) แต่ต่ำกว่าที่รายงานOrnithogalum cuspidatum (Delazar et al, 2010)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

3 . ผลและการอภิปราย
3.1 . รวมปริมาณสารประกอบฟีนอลิค

เชื่อว่าเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพ เช่น อนุมูลอิสระเกิดและโลหะจับ . การศึกษา
ระบุรวมสารประกอบฟีนอลที่มีอยู่ในชิ้นส่วนที่แตกต่างกันของสารสกัด
O
folin – ciocalteu narbonense โดยใช้วิธี
ผลสะสมในพืชที่แตกต่างกันอวัยวะที่สัมพันธ์กับบทบาทในชีวิตของพืชและ sazhina
misin , 2011 ) ผลการทดลองพบว่า สารสกัดจากเนื้อหาทั้งหมด narbonense
O
หลากหลายอย่างตามไปยังส่วนพืชเช่นเดียวกับตัวทำละลายที่ใช้ รวมสูงสุดฟีน
เนื้อหาที่พบในหลอดไฟ เอ สารสกัด 21.05mggaes / g
Extract ) , ตามด้วยเซนต์เอ ( 14.59mggaes/g สกัด ) , s-ea
( 1291mggaes / กรัมสกัด ) , เซนต์เจอ ( 12.49mggaes/g สกัด ) , หลอดไฟ -
เจอ ( 10.33mggaes/g สกัด ) , s-met ( 9.77mggaes/g สกัด ) ,
st-w ( 8.11mggaes/g สกัด ) , bulb-w ( 4.79mggaes/g Extract ) และ s-w
( 4.48mggaes/g Extract ) สารสกัด การศึกษาก่อนหน้านี้ได้
ยังรายงานว่า ความแตกต่างในระดับของชิ้นส่วนที่แตกต่างกันของฟีนอล
พืชชนิดต่าง ๆ ( Mittal et al . , 2013 ; zengin และ
aktumsek 2014 )ทั่วไป การศึกษาครั้งนี้พบว่าปริมาณฟีนอลิก
เป็นสูงสุดของเอทิลอะซิเตตสกัด ,
ตามด้วยเมธานอลและสารสกัดน้ำ ( ตารางที่ 1 ) การค้นพบเหล่านี้
สอดคล้องกับผู้ khole et al . ( 2014 ) และ elzaawely
et al . ( 2005 ) ที่พบว่าสารสกัดเอทิลอะซีเตท มีสูงสุด
ฟีโนลิก เนื้อหา ในการเปรียบเทียบกับออนิโธกาลัม
ชนิดอื่น ๆโดยเนื้อหาทั้งหมดของฟีนอล . narbonense พบในการศึกษา
สูงกว่ารายงานออนิโธกาลัม sintenisii
( ebrahimzadeh et al . , 2010 ) แต่ต่ำกว่ารายงาน
ออนิโธกาลัม cuspidatum ( delazar et al . , 2010 )