Gender difference theoriesAs outlin

Gender difference theories
As outlined in the previous section, all the early leadership studies developed theories
which emanated from the Great Man theory. Thus, the theories described men and
male leaders. This had the effect of excluding women from being seen in the role of a
leader. At this time, men and women were considered to have very different
behaviours, skills, and attitudes, and these ‘‘differences’’ were thought to handicap
women in their career advancement (Morrison and Von Glinow, 1990).
In the 1970s, a literature on gender differences began to be published that set out to
explore the extent of differences in men’s and women’s behaviour. This research into
gender differences had at its base a desire to understand whether males and females
differed on a variety of traits and behaviours because of their biological determination,
the implication being that differences in behaviour between men and women are innate
or acquired from very early socialisation. At this time, the perspective seemed to be
that women were different to men and that difference appeared to be equated with
deficiency (Fagenson, 1990).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

เพศความแตกต่างทฤษฎี
ตามที่ระบุไว้ในส่วนก่อนหน้า ทฤษฎีพัฒนาทั้งหมดก่อนนำศึกษา
ซึ่ง emanated จากทฤษฎีคนดี ดังนั้น ทฤษฎีอธิบายคน และ
ผู้นำเพศชาย นี้มีผลรวมผู้หญิงจากการเห็นในบทบาทของการ
ผู้นำ ตอนนี้ ผู้ชายและผู้หญิงได้ถือได้แตกต่างกันมาก
วิญญาณ ทักษะ และ ทัศนคติ และ ''ต่าง '' ก็คิดว่า การแฮนดิแคป
ผู้หญิงในอาชีพความก้าวหน้า (มอร์ริสันและฟอน Glinow, 1990) .
ในเดอะทศวรรษ 1970 วรรณคดีในเพศที่แตกต่างเริ่มจะประกาศที่จะออก
สำรวจขอบเขตของความแตกต่างในพฤติกรรมของผู้ชายและผู้หญิง งานวิจัยนี้เป็น
เพศความแตกต่างได้ที่ฐานของความปรารถนาที่จะเข้าใจว่าชายและหญิง
แตกต่างกับลักษณะและพฤติกรรมที่หลากหลายเนื่องจากการวัดทางชีวภาพ,
เนื่องจากการความแตกต่างในพฤติกรรมระหว่างชายและหญิงโดยธรรมชาติ
หรือจาก socialisation เนิ่น ๆ ตอนนี้ มุมมองที่ดูเหมือนจะ
ผู้หญิงผู้ชายแตกต่าง และว่า ต่างปรากฏเป็น equated กับ
ขาด (Fagenson, 1990)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทฤษฎีความแตกต่างเพศ
ในฐานะที่ระบุไว้ในส่วนก่อนหน้านี้ทั้งหมดการศึกษาความเป็นผู้นำในช่วงต้นของการพัฒนาทฤษฎี
ที่เล็ดลอดออกมาจากทฤษฎีที่ยิ่งใหญ่ของมนุษย์ ผู้ชายดังนั้นทฤษฎีที่อธิบายและ
ผู้นำชาย นี่คือผลของการไม่รวมผู้หญิงจากการถูกมองเห็นได้ในบทบาทของ
ผู้นำ ในเวลานี้ทั้งชายและหญิงมีการพิจารณาที่จะมีแตกต่างกันมาก
พฤติกรรมทักษะและทัศนคติและความแตกต่างเหล่านี้'''' กำลังคิดว่าจะเสียเปรียบ
ผู้หญิงในความก้าวหน้าในอาชีพของพวกเขา (มอร์ริสันฟอน Glinow, 1990)
ในปี 1970, วรรณกรรมที่แตกต่างทางเพศเริ่มที่จะได้รับการเผยแพร่ที่กำหนดไว้ในการ
สำรวจขอบเขตของความแตกต่างในพฤติกรรมของผู้ชายและผู้หญิง การวิจัยในครั้งนี้
มีความแตกต่างทางเพศที่ฐานของความปรารถนาที่จะเข้าใจว่าเพศชายและเพศหญิง
แตกต่างบนความหลากหลายของลักษณะและพฤติกรรมของการกำหนดเพราะทางชีวภาพของพวกเขา
บอกเป็นนัย ๆ ว่ามีความแตกต่างในการทำงานระหว่างชายและหญิงมีมา แต่กำเนิด
หรือได้มาจากการขัดเกลาทางสังคมที่เริ่มต้นมาก . ในเวลานี้มุมมองดูเหมือนจะเป็น
ว่าผู้หญิงที่แตกต่างกันกับผู้ชายและความแตกต่างที่ดูเหมือนจะได้รับการบรรจุด้วย
การขาด (Fagenson, 1990)

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทฤษฎีความแตกต่างทางเพศ
ตามที่อธิบายไว้ในส่วนก่อนหน้านี้ทั้งหมดผู้นำต้นการศึกษาการพัฒนาทฤษฎี
ซึ่ง emanated จากทฤษฎีมหาบุรุษ ดังนั้น ทฤษฎีที่อธิบายผู้ชาย
ผู้นำชาย นี้ได้ผลไม่รวม ผู้หญิงที่ถูกเห็นในบทบาทของ
ผู้นำ ในเวลานี้ ชายและหญิง ถือว่ามีมากที่แตกต่างกัน
พฤติกรรม ทักษะและทัศนคติ' ' และ ' 'differences เหล่านี้ถูกคิดแต้มต่อ
ผู้หญิงในความก้าวหน้าในอาชีพ ( มอริสัน และ ฟอน glinow 1990 ) .
ในปี 1970 , วรรณคดี ความแตกต่างของเพศ เริ่มเผยแพร่ที่ออกไป
สํารวจขอบเขตของความแตกต่างในพฤติกรรมของชายและหญิง การวิจัยนี้เป็น
ความแตกต่างทางเพศในฐานของความปรารถนาที่จะเข้าใจว่าชายและหญิง
ความแตกต่างในความหลากหลายของลักษณะและพฤติกรรม เพราะการกำหนดทางชีวภาพของพวกเขา
พูดเป็นนัยๆว่า ความแตกต่างในพฤติกรรมระหว่างชายและหญิงเป็นแหล่ง
หรือได้มาจากต้นมาก socialisation . ในเวลาเดียวกันนี้ มุมมองจะแตกต่างกัน
ผู้หญิงชายและความแตกต่างที่ปรากฏเป็น equated กับ
ขาด ( fagenson , 2533 )