It is an understatement to say that

It is an understatement to say that Burj Khalifa represents the state-of-the-art in building design. From initial concept through completion, a combination of several important technological innovations and innovation structural design methods have resulted in a superstructure that is both efficient and robust.
Foundation

The superstructure is supported by a large reinforced concrete mat, which is in turn supported by bored reinforced concrete piles. The design was based on extensive geotechnical and seismic studies. The mat is 3.7 meters thick, and was constructed in four separate pours totaling 12,500 cubic meters of concrete. The 1.5 meter diameter x 43 meter long piles represent the largest and longest piles conventionally available in the region. A high density, low permeability concrete was used in the foundations, as well as a cathodic protection system under the mat, to minimize any detrimental effects form corrosive chemicals in local ground water.
Podium

The podium provides a base anchoring the tower to the ground, allowing on grade access from three different sides to three different levels of the building. Fully glazed entry pavilions constructed with a suspended cable-net structure provide separate entries for the Corporate Suites at B1 and Concourse Levels, the Burj Khalifa residences at Ground Level and the Armani Hotel at Level 1.
Exterior Cladding

The exterior cladding is comprised of reflective glazing with aluminum and textured stainless steel spandrel panels and stainless steel vertical tubular fins. Close to 26,000 glass panels, each individually hand-cut, were used in the exterior cladding of Burj Khalifa. Over 300 cladding specialists from China were brought in for the cladding work on the tower. The cladding system is designed to withstand Dubai's extreme summer heat, and to further ensure its integrity, a World War II airplane engine was used for dynamic wind and water testing. The curtain wall of Burj Khalifa is equivalent to 17 football (soccer) fields or 25 American football fields.
Structural System

In addition to its aesthetic and functional advantages, the spiraling “Y” shaped plan was utilized to shape the structural core of Burj Khalifa. This design helps to reduce the wind forces on the tower, as well as to keep the structure simple and foster constructability. The structural system can be described as a “buttressed core”, and consists of high performance concrete wall construction. Each of the wings buttress the others via a six-sided central core, or hexagonal hub. This central core provides the torsional resistance of the structure, similar to a closed pipe or axle. Corridor walls extend from the central core to near the end of each wing, terminating in thickened hammer head walls. These corridor walls and hammerhead walls behave similar to the webs and flanges of a beam to resist the wind shears and moments. Perimeter columns and flat plate floor construction complete the system. At mechanical floors, outrigger walls are provided to link the perimeter columns to the interior wall system, allowing the perimeter columns to participate in the lateral load resistance of the structure; hence, all of the vertical concrete is utilized to support both gravity and lateral loads. The result is a tower that is extremely stiff laterally and torsionally. It is also a very efficient structure in that the gravity load resisting system has been utilized so as to maximize its use in resisting lateral loads.

As the building spirals in height, the wings set back to provide many different floor plates. The setbacks are organized with the tower’s grid, such that the building stepping is accomplished by aligning columns above with walls below to provide a smooth load path. As such, the tower does not contain any structural transfers. These setbacks also have the advantage of providing a different width to the tower for each differing floor plate. This stepping and shaping of the tower has the effect of “confusing the wind”: wind vortices never get organized over the height of the building because at each new tier the wind encounters a different building shape.

Spire

The crowning touch of Burj Khalifa is its telescopic spire comprised of more than 4,000 tons of structural steel. The spire was constructed from inside the building and jacked to its full height of over 200 metres (700 feet) using a hydraulic pump. In addition to securing Burj Khalifa's place as the world's tallest structure, the spire is integral to the overall design, creating a sense of completion for the landmark. The spire also houses communications equipment.
Mechanical Floors

Seven double-storey height mechanical floors house the equipment that bring Burj Khalifa to life. Distributed around every 30 storeys, the mechanical floors house the electrical sub-stations, water tanks and pumps, air-handling units etc, that are essential for the operation of the tower and the comfort of its occupants.
Window Washing Bays

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันคือการพูดที่จะบอกว่า Burj Khalifa หมายถึงรัฐของศิลปะในการออกแบบอาคาร จากแนวคิดเริ่มต้นผ่านการเสร็จสิ้นการรวมกันของนวัตกรรมทางเทคโนโลยีที่สำคัญและหลายนวัตกรรมวิธีการออกแบบโครงสร้างที่มีผลในโครงสร้างที่มีทั้งประสิทธิภาพและแข็งแกร่ง.
มูลนิธิเสริมสร้างการสนับสนุนโดยมีขนาดใหญ่เสื่อคอนกรีตเสริมเหล็กซึ่งเป็นในทางกลับกันการสนับสนุนจากการเบื่อเสริม เสาเข็มคอนกรีต การออกแบบที่อยู่บนพื้นฐานของการศึกษาปฐพีและแผ่นดินไหวที่กว้างขวาง เสื่อคือ 3.7 เมตรหนาและถูกสร้างขึ้นในสี่เทแยกต่างหากรวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12,500 ลูกบาศก์เมตรของคอนกรีต 1.5 เมตรเส้นผ่าศูนย์กลาง 43 เมตร x ยาวแทนกองที่ใหญ่ที่สุดและยาวที่สุดกองอัตภาพที่มีอยู่ในภูมิภาค ความหนาแน่นสูงคอนกรีตซึมผ่านต่ำที่ใช้ในการฐานรากเช่นเดียวกับระบบป้องกัน cathodic ภายใต้เสื่อเพื่อลดผลกระทบที่เป็นอันตรายใด ๆ ในรูปแบบสารเคมีที่มีฤทธิ์กัดกร่อนในแหล่งน้ำผิวดินในท้องถิ่น. แท่นแท่นให้ฐานยึดหอคอยพื้นดิน ช่วยให้การเข้าถึงคะแนนจากสามด้านที่แตกต่างกันถึงสามระดับที่แตกต่างกันของอาคาร ศาลารายการเคลือบอย่างเต็มที่สร้างด้วยโครงสร้างสายสุทธิระงับให้รายการที่แยกต่างหากสำหรับโรงแรม Corporate Suites ที่ B1 และ Concourse ระดับชั้นที่ The Residences Burj Khalifa ที่ระดับพื้นดินและ Armani Hotel ในระดับ 1. ภายนอก Cladding หุ้มภายนอกประกอบด้วยกระจกสะท้อนแสง อลูมิเนียมและแผงสแตนเลสฝาพื้นผิวและสแตนเลสท่อครีบแนวตั้ง ใกล้กับ 26,000 แผงกระจกแต่ละมือตัดถูกนำมาใช้ในการหุ้มด้านนอกของ Burj Khalifa กว่า 300 ผู้เชี่ยวชาญหุ้มจากประเทศจีนถูกนำมาสำหรับการทำงานที่หุ้มบนหอคอย ระบบหุ้มถูกออกแบบมาให้ทนต่อความร้อนในช่วงฤดูร้อนของดูไบมากและเพื่อตรวจสอบความสมบูรณ์ของเครื่องยนต์เครื่องบินสงครามโลกครั้งที่สองใช้สำหรับลมแบบไดนามิกและการทดสอบน้ำ ผนังม่าน Burj Khalifa เทียบเท่ากับ 17 ฟุตบอล (ฟุตบอล) สาขาหรือ 25 สนามฟุตบอลอเมริกัน. ระบบโครงสร้างนอกจากข้อได้เปรียบด้านความงามและการทำงานของมันลอย "Y" แผนรูปถูกนำมาใช้ในการสร้างรูปร่างแกนโครงสร้างของ Burj Khalifa การออกแบบนี้จะช่วยลดแรงลมบนหอคอยตลอดจนเพื่อให้โครงสร้างที่เรียบง่ายและฟอสเตอร์ constructability ระบบโครงสร้างที่สามารถอธิบายได้ว่าเป็น "แกนยัน" และประกอบด้วยประสิทธิภาพสูงการก่อสร้างผนังคอนกรีต แต่ละปีกค้ำจุนคนอื่น ๆ ผ่านทางแกนกลางหกเหลี่ยมหกเหลี่ยมหรือฮับ นี้แกนกลางให้ต้านทานแรงบิดของโครงสร้างที่คล้ายกับท่อปิดหรือเพลา ผนังทางเดินเพิ่มขึ้นจากแกนกลางที่จะใกล้ถึงจุดสิ้นสุดของแต่ละปีกเปี๊หนาผนังหัวค้อน เหล่านี้ผนังทางเดินและผนังหัวค้อนมีพฤติกรรมคล้ายกับใยและครีบของลำแสงที่จะต่อต้านกรรไกรลมและช่วงเวลา คอลัมน์ปริมณฑลและแผ่นแบนก่อสร้างชั้นเสร็จสมบูรณ์ระบบ ที่ชั้นกลผนัง Outrigger มีไว้เพื่อเชื่อมโยงคอลัมน์ปริมณฑลกับระบบผนังภายในช่วยให้คอลัมน์ปริมณฑลเข้าร่วมในการต้านทานโหลดด้านข้างของโครงสร้าง; ดังนั้นทั้งหมดของคอนกรีตแนวตั้งจะใช้ในการสนับสนุนทั้งแรงโน้มถ่วงและแรงด้านข้าง ผลที่ได้คือหอคอยที่มีความแข็งมากขวางและ torsionally นอกจากนี้ยังเป็นโครงสร้างที่มีประสิทธิภาพมากในการที่ระบบต่อต้านโหลดแรงโน้มถ่วงได้ถูกนำมาใช้เพื่อเพิ่มการใช้งานในการต่อต้านโหลดด้านข้าง. ในฐานะที่เป็นอาคารเกลียวสูงปีกตั้งค่ากลับไปให้หลายแผ่นชั้นที่แตกต่างกัน พ่ายแพ้มีการจัดตารางกับหอคอยดังกล่าวว่าก้าวอาคารสามารถทำได้โดยจัดคอลัมน์ดังกล่าวข้างต้นที่มีผนังด้านล่างเพื่อให้เส้นทางโหลดได้อย่างราบรื่น เช่นหอไม่ได้มีการถ่ายโอนโครงสร้างใด ๆ ความพ่ายแพ้เหล่านี้ยังมีความได้เปรียบในการให้ความกว้างที่แตกต่างกันไปยังหอคอยสำหรับแต่ละแผ่นพื้นแตกต่างกัน ก้าวนี้และรูปร่างของหอคอยมีผลของการ "สับสนลม" นี้. vortices ลมไม่เคยได้รับการจัดมากกว่าความสูงของอาคารเพราะในแต่ละชั้นใหม่ลมพบรูปทรงอาคารที่แตกต่างกันSpire สัมผัสยอดของ Burj Khalifa เป็นของตน ยืดไสลด์หน่อประกอบด้วยมากกว่า 4,000 ตันเหล็กโครงสร้าง หน่อถูกสร้างขึ้นมาจากภายในตัวอาคารและ jacked เต็มความสูงกว่า 200 เมตร (700 ฟุต) โดยใช้ปั๊มไฮโดรลิ นอกจากนี้การรักษาความปลอดภัยสถานที่ Burj Khalifa เป็นโครงสร้างที่สูงที่สุดของโลก, หน่อเป็นส่วนประกอบสำคัญในการออกแบบโดยรวมของการสร้างความรู้สึกของความสำเร็จสำหรับสถานที่สำคัญ หน่อที่บ้านยังอุปกรณ์สื่อสาร. ชั้นวิศวกรรมเซเว่นความสูงสองชั้นชั้นกลบ้านอุปกรณ์ที่นำ Burj Khalifa ในการดำรงชีวิต กระจายรอบทุก 30 ชั้นชั้นกลบ้านไฟฟ้าย่อยสถานีถังเก็บน้ำและปั๊มหน่วยอากาศจัดการ ฯลฯ ที่มีความจำเป็นสำหรับการดำเนินงานของหอและความสะดวกสบายของผู้โดยสารของ. ที่ช่องหน้าต่างซักผ้า