Table 3 presented below shows the F

Table 3 presented below shows the Frequency and Percentage Distribution of Knowledge of Asthma Patients
regarding Identifying Warning Signs of Asthma triggers; 60% of them were in below average levels in the pre
test, which was recorded nil in the post test. The average levels are 36.66% and 3.33% were in the above average
levels in the pre test, which were enhanced to 73.33% in the above average in the post test, after receiving
the asthma education.
Table 4 scores indicate knowledge enhancement after the asthma education, 53.33% in the below average
have become nil and 70% of them were in the above average in the post test distribution.
Table 5 indication knowledge enhancement of the subjects in the area of awareness on medications, diet and
breathing exercises, was indicative of positive shift of knowledge by 66.66% in the above average category and
only 3% in the below average group.
Figure 5 indicates the minimum percentage scores in pre test was 42.50, which has enhanced to 82.50, the
percentage scores in post test were all in the above average, with scores distributed from 82.50% to 100%.
The knowledge distribution in Table 6 in Pre test and Post test scores indicate the rise in knowledge levels
ranging from minimum of 10% to maximum 100% and the post test scores reveal the knowledge enhancement
in all the four areas of the study to above average scores.
In all the four areas calculated “t” values are higher than the table “t” value. Thus the Pre-Post test knowledge
scores difference and significance on home managementis vivid in the study (Table 7).
The findings revealed a significant difference in the pre and post test scores. After administering the asthma
education on self care management of bronchial asthma, the results have shown that the obtained “t” value for
knowledge is highly significant. The null hypothesis was rejected because there is a significant difference in the
pretest and posttest scores (Figure 6).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ตารางที่ 3 แสดงด้านล่างแสดงความถี่และเปอร์เซ็นต์การกระจายของความรู้ของโรคหอบหืดผู้ป่วยเกี่ยวกับทริกการระบุคำเตือนสัญญาณของโรคหอบหืด 60% ของพวกเขาอยู่ในต่ำกว่าระดับเฉลี่ยในก่อนการทดสอบ ซึ่งบันทึก nil ในทดสอบโพสต์ ระดับเฉลี่ยเป็น 36.66% และ 3.33% ในค่าเฉลี่ยข้างต้นระดับในการทดสอบก่อน ซึ่งถูกเสริมแต่งเป็น 73.33% ในค่าเฉลี่ยข้างต้นลง ทดสอบ หลังจากรับการศึกษาโรคหอบหืดเสริมองค์ความรู้จากการศึกษาโรคหอบหืด 53.33% ในการบ่งชี้ตารางที่ 4 คะแนนต่ำกว่าค่าเฉลี่ยได้กลายเป็นศูนย์และ 70% ของพวกเขาในค่าเฉลี่ยข้างต้นในการกระจายการทดสอบโพสต์ตาราง 5 เสริมองค์ความรู้ของสรรพคุณของวัตถุในพื้นที่ของการรับรู้เกี่ยวกับยา อาหาร และหายใจออกกำลังกาย ถูกส่อบวกกะความรู้ 66.66% ในประเภทเฉลี่ยข้างต้น และเพียง 3% ในการเฉลี่ยกลุ่มด้านล่างรูปที่ 5 บ่งชี้มีคะแนนเปอร์เซ็นต์ต่ำสุดในการทดสอบก่อน 42.50 ซึ่งได้เพิ่มการ 82.50 การคะแนนเปอร์เซ็นต์ในทดสอบโพสต์ได้ทั้งหมดในค่าเฉลี่ยข้างต้น มีคะแนน 82.50% กระจายไป 100%การกระจายความรู้ในตารางที่ 6 ในการทดสอบก่อนและคะแนนการทดสอบโพสต์ระบุเพิ่มขึ้นในระดับความรู้ตั้งแต่ขั้นต่ำ 10% สูงสุด 100% และโพสต์ทดสอบเปิดเผยคะแนนเสริมองค์ความรู้ในทั้งสี่ด้านของการศึกษาที่สูงกว่าคะแนนเฉลี่ยในพื้นที่สี่ คำนวณ t"ค่าจะสูงกว่าค่า t" ตาราง ดังนั้น การโพสต์ก่อนทดสอบความรู้คะแนนความแตกต่างและความสำคัญในบ้าน managementis ที่สดใสในการศึกษา (ตาราง 7)ผลการวิจัยแตกต่างกันอย่างมีนัยสำคัญก่อนการเปิดเผย และลงคะแนนสอบ หลังจากจัดการกับโรคหอบหืดการศึกษาในการจัดการดูแลตนเองโรคหืด ผลได้ผลว่าคุ้มได้รับ "t"ความรู้มีความสำคัญสูง ปฏิเสธสมมติฐานว่างเนื่องจากมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในการคะแนนแล็ปว่าและ posttest (รูป 6)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ตารางที่ 3 นำเสนอด้านล่างแสดงความถี่และร้อยละการแพร่กระจายของความรู้ของผู้ป่วยโรคหอบหืด
เกี่ยวกับการระบุอาการของโรคหอบหืดริเริ่มการเตือนภัย; 60% ของพวกเขาอยู่ในระดับต่ำกว่าค่าเฉลี่ยในช่วงก่อน
การทดสอบที่ได้รับการบันทึกเป็นศูนย์ในการทดสอบการโพสต์ ระดับเฉลี่ย 36.66% และ 3.33% อยู่ในสูงกว่าค่าเฉลี่ย
ระดับในการทดสอบก่อนซึ่งได้รับการปรับปรุงเพื่อ 73.33% ในช่วงสูงกว่าค่าเฉลี่ยในการทดสอบการโพสต์หลังจากที่ได้รับ
การศึกษาโรคหอบหืด
ตารางที่ 4 แสดงให้เห็นการเพิ่มประสิทธิภาพของคะแนนความรู้ตามการศึกษาโรคหอบหืด, 53.33% ในช่วงต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
ได้กลายเป็นศูนย์และ 70% ของพวกเขาอยู่ในสูงกว่าค่าเฉลี่ยในการจัดจำหน่ายการทดสอบการโพสต์
ตารางการเพิ่มประสิทธิภาพความรู้ 5 ข้อบ่งชี้ของอาสาสมัครในพื้นที่ของการรับรู้เกี่ยวกับยา, การรับประทานอาหารและการ
หายใจการออกกำลังกายเป็นตัวบ่งชี้ของการเปลี่ยนแปลงในเชิงบวกของความรู้จาก 66.66% ในหมวดหมู่และสูงกว่าค่าเฉลี่ย
เพียง 3% ในกลุ่มที่ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย
รูปที่ 5 แสดงถึงร้อยละคะแนนต่ำสุดในการทดสอบก่อนเป็น 42.50 ซึ่งมีการปรับปรุงเพื่อ 82.50 ที่
คะแนนร้อยละในการทดสอบการโพสต์ทุกคนมีค่าเฉลี่ยดังกล่าวข้างต้นมีคะแนนกระจายออกมาจาก 82.50% เป็น 100%
การกระจายความรู้ในตารางที่ 6 ในการทดสอบก่อนและหลังการคะแนนการทดสอบแสดงให้เห็นการเพิ่มขึ้นของระดับความรู้
ตั้งแต่ขั้นต่ำ 10% สูงสุด 100% และคะแนนการทดสอบการโพสต์แสดงให้เห็นการเพิ่มประสิทธิภาพความรู้
ในทุกพื้นที่สี่ของการศึกษาข้างต้นคะแนนเฉลี่ย .
ในทุกพื้นที่ที่สี่คำนวณ "T" ค่าสูงกว่าตาราง "T" ค่า ดังนั้น Pre-โพสต์ความรู้ทดสอบ
คะแนนความแตกต่างและความสำคัญใน managementis บ้านที่สดใสในการศึกษา (ตารางที่ 7)
ผลการวิจัยพบความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญในก่อนและหลังคะแนนการทดสอบ หลังจากที่การบริหารจัดการโรคหอบหืด
การศึกษาเกี่ยวกับการจัดการดูแลตนเองของโรคหอบหืดหลอดลมผลลัพธ์ที่ได้แสดงให้เห็นว่าได้รับ "T" ค่าสำหรับ
ความรู้ที่มีความสำคัญอย่างมาก สมมติฐานถูกปฏิเสธเนื่องจากมีความแตกต่างอย่างมีนัยสำคัญใน
ก่อนเรียนและหลังเรียนคะแนน (รูปที่ 6)