1.กระตุ้นการทำงานของสมอง สมองก็เป็นอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกาย ที่ต้องกา การแปล - 1.กระตุ้นการทำงานของสมอง สมองก็เป็นอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกาย ที่ต้องกา ไทย วิธีการพูด

1.กระตุ้นการทำงานของสมอง สมองก็เป็น

1.กระตุ้นการทำงานของสมอง
สมองก็เป็นอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกาย ที่ต้องการการออกกำลัง เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการทำงานให้ลื่นไหลไม่ติดขัดอยู่เสมอ และจากการวิจัยทางการแพทย์ก็พบว่า การอ่านหนังสืออยู่เสมอจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง และกระตุ้นกระบวนการคิด ทำให้ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์ และโรคความจำเสื่อม เพราะการใช้สมองคิดตามสิ่งที่อ่าน จะทำให้สมองได้ทำงานอยู่ตลอด
2.ลดความเครียด
ไม่เพียงแต่กระตุ้นการทำงานของสมอง แต่การอ่านหนังสือยังมีข้อดีที่น่าสนใจอย่างช่วยลดความเครียดได้ด้วย โดยนักจิตวิทยาได้แนะนำว่า การอ่านหนังสือนิยาย หรือหนังสือที่เราชอบในช่วงเวลาที่มีความเครียดจากงาน หรือสิ่งที่เจอในชีวิตประจำวัน จะทำให้ความเครียดที่มีอยู่หายไปได้
3.ให้ความรู้
แน่นอนอยู่แล้วว่าเมื่อเราอ่านหนังสือ เราก็จะได้ความรู้ หรือข้อคิดอะไรบางอย่างกลับมา และไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยสาระความรู้เสมอไป หนังสือนิยายรักหวานแหว หรือหนังสือการ์ตูน ก็สามารถให้อะไรกับเราได้ไม่มากก็น้อยเช่นกัน อย่างน้อยที่สุดก็ต้องให้ความบันเทิงกับเรา
4.ได้สำนวนภาษา
หากลองสังเกตดี ๆ จะรู้ว่า การอ่านหนังสือนั้นช่วยให้เราได้เรียนรู้สำนวนภาษา คำศัพท์ วิธีการพูดอย่างสละสลวย นุ่มนวล ยิ่งถ้าได้อ่านหนังสือภาษาต่างประเทศ หรือหนังสือแปล เราก็จะมีโอกาสได้เรียนรู้คำศัพท์ และสำนวนใหม่ ๆ ไม่รู้จักจบสิ้น ไม่เชื่อลองสังเกตสำนวนการพูดหรือสำนวนการเขียนของคนที่ชอบอ่านหนังสือดูก็ได้ แล้วจะได้เห็นความแตกต่าง ว่าเขาสามารถพูดจา และเขียนหนังสือได้อย่างไม่สะดุด อ่านก็ลื่นตา ฟังก็ลื่นหู เห็นได้ชัดว่ายิ่งอ่าน ก็ยิ่งได้ประโยชน์ดี ๆ ต่อตัวคุณเองอย่างไม่น่าเชื่อเลย
5.ช่วยกระตุ้นความจำ
เมื่อเราอ่านหรือรับอะไรก็ตามเข้าไปในสมอง สมองจะสั่งการเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ในส่วนหนึ่งของสมอง ที่มีไว้สำหรับการจดจำข้อมูล และเรียกใช้ได้อย่างทันทีเมื่อจำเป็น ดังนั้นเมื่อเราอ่านหนังสือมาก สมองก็จะได้ทำงาน เก็บข้อมูลและเรียบเรียงข้อมูลใหม่ เพื่อให้เราสามารถจำอะไรได้ดีขึ้น เราจึงสามารถเรียนรู้และจดจำได้อย่างดี ไม่มีลืม
6.บริหารกระบวนการคิดวิเคราะห์
ทุกครั้งที่ได้อ่านหนังสือที่มีเงื่อนงำ หรือมีปมที่ต้องคิดตาม สมองของเราก็จะพยายามขบคิดปมปัญหานั้น ๆ และหาทางออกด้วยตัวเอง เช่นกันกับเวลาที่ได้ดูหนังแนวสืบสวนสอบสวน เราก็จะพยายามคลำหาคำตอบอยู่ในใจไปพร้อม ๆ กับเนื้อเรื่อง ซึ่งก็จะทำให้กระบวนการคิดวิเคราะห์ของเราได้ทำงาน บริหารตัวเองอยู่ตลอด เรียกได้ว่ายิ่งได้อ่านก็เหมือนยิ่งได้ลับสมองให้เฉียบแหลม
7.ฝึกสมาธิ
หากอยากได้สมาธิ หรือต้องการหลีกหนีความวุ่นวายรอบกาย ก็ลองหยิบหนังสือที่น่าสนใจมาอ่านดูสิ แล้วคุณก็จะได้ฝึกสมาธิได้อย่างที่ตั้งใจ เพราะเวลาที่เราเพ่งความสนใจไปยังหนังสือ ก็จะได้เพ่งสมาธิและสมองไปด้วย ทำให้เรามีสมาธิทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
8.พัฒนาทักษะการเขียน
เชื่อได้ว่าคนที่อ่านหนังสือทุกคน แม้จะอ่านบ่อยหรือไม่ค่อยบ่อยก็ตาม จะต้องมีนักเขียนในดวงใจ ที่เราอ่านแล้วชอบวิธีการเขียน และสำนวนของเขาเหลือเกิน ซึ่งสิ่งนี้และที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทักษะทางด้านการเขียนให้เรา และยิ่งถ้าได้อ่านบ่อย ๆ ก็จะได้ทั้งคำศัพท์และสำนวนภาษาที่เขาใช้เขียนหนังสือกัน ไม่แน่ว่าสักวันคุณก็อาจจะได้เป็นนักเขียนฝีมือดีคนหนึ่งเลยก็ได้
9.ให้ความสงบ
ผลวิจัยทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่า นอกจากการอ่านหนังสือจะช่วยให้เรามีสมาธิขึ้นแล้ว การอ่านหนังสือยังช่วยให้ร่างกายเราเกิดความรู้สึกสงบขึ้นด้วย โดยหากอ่านหนังสือแนวปรัชญาหรือหนังสือที่ให้แนวคิด จะช่วยลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้ จะช่วยปรับอารมณ์ที่แปรปรวนให้กลับมาเป็นปกติ และบางทีก็สามารถช่วยชี้ทางสว่างให้ปัญหาที่มืดแปดด้านได้ด้วย

10.ให้ความบันเทิง
ไม่ว่าจะอ่านหนังสือประเภทไหนก็แล้วแต่ จะมีสาระความรู้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่สำคัญ เพราะหนังสือสามารถให้อะไรกับคนอ่านได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด ไอเดียดีๆ ทักษะภาษา หรือแม้แต่หนังสือภาพการ์ตูนที่ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรเลย ก็ยังสามารถให้ความบันเทิงเริงใจแก่ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย
0/5000
จาก: -
เป็น: -
ผลลัพธ์ (ไทย) 1: [สำเนา]
คัดลอก!
1.กระตุ้นการทำงานของสมอง
สมองก็เป็นอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกายที่ต้องการการออกกำลังเพื่อรักษาประสิทธิภาพในการทำงานให้ลื่นไหลไม่ติดขัดอยู่เสมอและจากการวิจัยทางการแพทย์ก็พบว่าการอ่านหนังสืออยู่เสมอจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง ทำให้ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์และโรคความจำเสื่อมเพราะการใช้สมองคิดตามสิ่งที่อ่านจะทำให้สมองได้ทำงานอยู่ตลอด
2.ลดความเครียด
ไม่เพียงแต่กระตุ้นการทำงานของสมองแต่การอ่านหนังสือยังมีข้อดีที่น่าสนใจอย่างช่วยลดความเครียดได้ด้วยโดยนักจิตวิทยาได้แนะนำว่าการอ่านหนังสือนิยายหรือหนังสือที่เราชอบในช่วงเวลาที่มีความเครียดจากงาน จะทำให้ความเครียดที่มีอยู่หายไปได้
3.ให้ความรู้
แน่นอนอยู่แล้วว่าเมื่อเราอ่านหนังสือเราก็จะได้ความรู้หรือข้อคิดอะไรบางอย่างกลับมาและไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยสาระความรู้เสมอไปหนังสือนิยายรักหวานแหวหรือหนังสือการ์ตูน อย่างน้อยที่สุดก็ต้องให้ความบันเทิงกับเรา
4.ได้สำนวนภาษา
หากลองสังเกตดีๆ จะรู้ว่าการอ่านหนังสือนั้นช่วยให้เราได้เรียนรู้สำนวนภาษาคำศัพท์วิธีการพูดอย่างสละสลวยนุ่มนวลยิ่งถ้าได้อ่านหนังสือภาษาต่างประเทศหรือหนังสือแปลเราก็จะมีโอกาสได้เรียนรู้คำศัพท์ ๆ ไม่รู้จักจบสิ้นไม่เชื่อลองสังเกตสำนวนการพูดหรือสำนวนการเขียนของคนที่ชอบอ่านหนังสือดูก็ได้แล้วจะได้เห็นความแตกต่างว่าเขาสามารถพูดจาและเขียนหนังสือได้อย่างไม่สะดุดอ่านก็ลื่นตาฟังก็ลื่นหู ก็ยิ่งได้ประโยชน์ดีๆ ต่อตัวคุณเองอย่างไม่น่าเชื่อเลย
5.ช่วยกระตุ้นความจำ
เมื่อเราอ่านหรือรับอะไรก็ตามเข้าไปในสมองสมองจะสั่งการเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ในส่วนหนึ่งของสมองที่มีไว้สำหรับการจดจำข้อมูลและเรียกใช้ได้อย่างทันทีเมื่อจำเป็นดังนั้นเมื่อเราอ่านหนังสือมาก เก็บข้อมูลและเรียบเรียงข้อมูลใหม่เพื่อให้เราสามารถจำอะไรได้ดีขึ้นเราจึงสามารถเรียนรู้และจดจำได้อย่างดีไม่มีลืม
6.บริหารกระบวนการคิดวิเคราะห์
ทุกครั้งที่ได้อ่านหนังสือที่มีเงื่อนงำหรือมีปมที่ต้องคิดตามสมองของเราก็จะพยายามขบคิดปมปัญหานั้นๆ และหาทางออกด้วยตัวเองเช่นกันกับเวลาที่ได้ดูหนังแนวสืบสวนสอบสวน ๆ กับเนื้อเรื่องซึ่งก็จะทำให้กระบวนการคิดวิเคราะห์ของเราได้ทำงานบริหารตัวเองอยู่ตลอดเรียกได้ว่ายิ่งได้อ่านก็เหมือนยิ่งได้ลับสมองให้เฉียบแหลม
7.ฝึกสมาธิ
หากอยากได้สมาธิหรือต้องการหลีกหนีความวุ่นวายรอบกายก็ลองหยิบหนังสือที่น่าสนใจมาอ่านดูสิแล้วคุณก็จะได้ฝึกสมาธิได้อย่างที่ตั้งใจเพราะเวลาที่เราเพ่งความสนใจไปยังหนังสือก็จะได้เพ่งสมาธิและสมองไปด้วย ๆ ได้ดีขึ้น
8.พัฒนาทักษะการเขียน
เชื่อได้ว่าคนที่อ่านหนังสือทุกคนแม้จะอ่านบ่อยหรือไม่ค่อยบ่อยก็ตามจะต้องมีนักเขียนในดวงใจที่เราอ่านแล้วชอบวิธีการเขียนและสำนวนของเขาเหลือเกิน และยิ่งถ้าได้อ่านบ่อยๆ ก็จะได้ทั้งคำศัพท์และสำนวนภาษาที่เขาใช้เขียนหนังสือกันไม่แน่ว่าสักวันคุณก็อาจจะได้เป็นนักเขียนฝีมือดีคนหนึ่งเลยก็ได้
9.ให้ความสงบ
ผลวิจัยทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่านอกจากการอ่านหนังสือจะช่วยให้เรามีสมาธิขึ้นแล้วการอ่านหนังสือยังช่วยให้ร่างกายเราเกิดความรู้สึกสงบขึ้นด้วยโดยหากอ่านหนังสือแนวปรัชญาหรือหนังสือที่ให้แนวคิด จะช่วยปรับอารมณ์ที่แปรปรวนให้กลับมาเป็นปกติและบางทีก็สามารถช่วยชี้ทางสว่างให้ปัญหาที่มืดแปดด้านได้ด้วย

10.ให้ความบันเทิง
ไม่ว่าจะอ่านหนังสือประเภทไหนก็แล้วแต่จะมีสาระความรู้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่สำคัญเพราะหนังสือสามารถให้อะไรกับคนอ่านได้เสมอไม่ว่าจะเป็นแนวคิดไอเดียดี ๆ ทักษะภาษา ก็ยังสามารถให้ความบันเทิงเริงใจแก่ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 2:[สำเนา]
คัดลอก!
1.กระตุ้นการทำงานของสมอง
สมองก็เป็นอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกาย ที่ต้องการการออกกำลัง เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการทำงานให้ลื่นไหลไม่ติดขัดอยู่เสมอ และจากการวิจัยทางการแพทย์ก็พบว่า การอ่านหนังสืออยู่เสมอจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมอง และกระตุ้นกระบวนการคิด ทำให้ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์ และโรคความจำเสื่อม เพราะการใช้สมองคิดตามสิ่งที่อ่าน จะทำให้สมองได้ทำงานอยู่ตลอด
2.ลดความเครียด
ไม่เพียงแต่กระตุ้นการทำงานของสมอง แต่การอ่านหนังสือยังมีข้อดีที่น่าสนใจอย่างช่วยลดความเครียดได้ด้วย โดยนักจิตวิทยาได้แนะนำว่า การอ่านหนังสือนิยาย หรือหนังสือที่เราชอบในช่วงเวลาที่มีความเครียดจากงาน หรือสิ่งที่เจอในชีวิตประจำวัน จะทำให้ความเครียดที่มีอยู่หายไปได้
3.ให้ความรู้
แน่นอนอยู่แล้วว่าเมื่อเราอ่านหนังสือ เราก็จะได้ความรู้ หรือข้อคิดอะไรบางอย่างกลับมา และไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยสาระความรู้เสมอไป หนังสือนิยายรักหวานแหว หรือหนังสือการ์ตูน ก็สามารถให้อะไรกับเราได้ไม่มากก็น้อยเช่นกัน อย่างน้อยที่สุดก็ต้องให้ความบันเทิงกับเรา
4.ได้สำนวนภาษา
หากลองสังเกตดี ๆ จะรู้ว่า การอ่านหนังสือนั้นช่วยให้เราได้เรียนรู้สำนวนภาษา คำศัพท์ วิธีการพูดอย่างสละสลวย นุ่มนวล ยิ่งถ้าได้อ่านหนังสือภาษาต่างประเทศ หรือหนังสือแปล เราก็จะมีโอกาสได้เรียนรู้คำศัพท์ และสำนวนใหม่ ๆ ไม่รู้จักจบสิ้น ไม่เชื่อลองสังเกตสำนวนการพูดหรือสำนวนการเขียนของคนที่ชอบอ่านหนังสือดูก็ได้ แล้วจะได้เห็นความแตกต่าง ว่าเขาสามารถพูดจา และเขียนหนังสือได้อย่างไม่สะดุด อ่านก็ลื่นตา ฟังก็ลื่นหู เห็นได้ชัดว่ายิ่งอ่าน ก็ยิ่งได้ประโยชน์ดี ๆ ต่อตัวคุณเองอย่างไม่น่าเชื่อเลย
5.ช่วยกระตุ้นความจำ
เมื่อเราอ่านหรือรับอะไรก็ตามเข้าไปในสมอง สมองจะสั่งการเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ในส่วนหนึ่งของสมอง ที่มีไว้สำหรับการจดจำข้อมูล และเรียกใช้ได้อย่างทันทีเมื่อจำเป็น ดังนั้นเมื่อเราอ่านหนังสือมาก สมองก็จะได้ทำงาน เก็บข้อมูลและเรียบเรียงข้อมูลใหม่ เพื่อให้เราสามารถจำอะไรได้ดีขึ้น เราจึงสามารถเรียนรู้และจดจำได้อย่างดี ไม่มีลืม
6.บริหารกระบวนการคิดวิเคราะห์
ทุกครั้งที่ได้อ่านหนังสือที่มีเงื่อนงำ หรือมีปมที่ต้องคิดตาม สมองของเราก็จะพยายามขบคิดปมปัญหานั้น ๆ และหาทางออกด้วยตัวเอง เช่นกันกับเวลาที่ได้ดูหนังแนวสืบสวนสอบสวน เราก็จะพยายามคลำหาคำตอบอยู่ในใจไปพร้อม ๆ กับเนื้อเรื่อง ซึ่งก็จะทำให้กระบวนการคิดวิเคราะห์ของเราได้ทำงาน บริหารตัวเองอยู่ตลอด เรียกได้ว่ายิ่งได้อ่านก็เหมือนยิ่งได้ลับสมองให้เฉียบแหลม
7.ฝึกสมาธิ
หากอยากได้สมาธิ หรือต้องการหลีกหนีความวุ่นวายรอบกาย ก็ลองหยิบหนังสือที่น่าสนใจมาอ่านดูสิ แล้วคุณก็จะได้ฝึกสมาธิได้อย่างที่ตั้งใจ เพราะเวลาที่เราเพ่งความสนใจไปยังหนังสือ ก็จะได้เพ่งสมาธิและสมองไปด้วย ทำให้เรามีสมาธิทำสิ่งต่าง ๆ ได้ดีขึ้น
8.พัฒนาทักษะการเขียน
เชื่อได้ว่าคนที่อ่านหนังสือทุกคน แม้จะอ่านบ่อยหรือไม่ค่อยบ่อยก็ตาม จะต้องมีนักเขียนในดวงใจ ที่เราอ่านแล้วชอบวิธีการเขียน และสำนวนของเขาเหลือเกิน ซึ่งสิ่งนี้และที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาทักษะทางด้านการเขียนให้เรา และยิ่งถ้าได้อ่านบ่อย ๆ ก็จะได้ทั้งคำศัพท์และสำนวนภาษาที่เขาใช้เขียนหนังสือกัน ไม่แน่ว่าสักวันคุณก็อาจจะได้เป็นนักเขียนฝีมือดีคนหนึ่งเลยก็ได้
9.ให้ความสงบ
ผลวิจัยทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่า นอกจากการอ่านหนังสือจะช่วยให้เรามีสมาธิขึ้นแล้ว การอ่านหนังสือยังช่วยให้ร่างกายเราเกิดความรู้สึกสงบขึ้นด้วย โดยหากอ่านหนังสือแนวปรัชญาหรือหนังสือที่ให้แนวคิด จะช่วยลดความดันโลหิตให้อยู่ในระดับปกติได้ จะช่วยปรับอารมณ์ที่แปรปรวนให้กลับมาเป็นปกติ และบางทีก็สามารถช่วยชี้ทางสว่างให้ปัญหาที่มืดแปดด้านได้ด้วย

10.ให้ความบันเทิง
ไม่ว่าจะอ่านหนังสือประเภทไหนก็แล้วแต่ จะมีสาระความรู้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่สำคัญ เพราะหนังสือสามารถให้อะไรกับคนอ่านได้เสมอ ไม่ว่าจะเป็นแนวคิด ไอเดียดีๆ ทักษะภาษา หรือแม้แต่หนังสือภาพการ์ตูนที่ไม่ได้มีสาระสำคัญอะไรเลย ก็ยังสามารถให้ความบันเทิงเริงใจแก่ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย
การแปล กรุณารอสักครู่..
ผลลัพธ์ (ไทย) 3:[สำเนา]
คัดลอก!
1 . กระตุ้นการทำงานของสมอง
สมองก็เป็นอวัยวะอย่างหนึ่งในร่างกายที่ต้องการการออกกำลังเพื่อรักษาประสิทธิภาพในการทำงานให้ลื่นไหลไม่ติดขัดอยู่เสมอและจากการวิจัยทางการแพทย์ก็พบว่าการอ่านหนังสืออยู่เสมอจะช่วยกระตุ้นการทำงานของสมองทำให้ห่างไกลจากโรคอัลไซเมอร์และโรคความจำเสื่อมเพราะการใช้สมองคิดตามสิ่งที่อ่านจะทำให้สมองได้ทำงานอยู่ตลอด
ลดความเครียด
2ไม่เพียงแต่กระตุ้นการทำงานของสมองแต่การอ่านหนังสือยังมีข้อดีที่น่าสนใจอย่างช่วยลดความเครียดได้ด้วยโดยนักจิตวิทยาได้แนะนำว่าการอ่านหนังสือนิยายหรือหนังสือที่เราชอบในช่วงเวลาที่มีความเครียดจากงานจะทำให้ความเครียดที่มีอยู่หายไปได้
ให้ความรู้
3แน่นอนอยู่แล้วว่าเมื่อเราอ่านหนังสือเราก็จะได้ความรู้หรือข้อคิดอะไรบางอย่างกลับมาและไม่จำเป็นต้องเป็นหนังสือที่อัดแน่นไปด้วยสาระความรู้เสมอไปหนังสือนิยายรักหวานแหวหรือหนังสือการ์ตูนอย่างน้อยที่สุดก็ต้องให้ความบันเทิงกับเรา
ได้สำนวนภาษา
4หากลองสังเกตดีจะจะรู้ว่าการอ่านหนังสือนั้นช่วยให้เราได้เรียนรู้สำนวนภาษาคำศัพท์วิธีการพูดอย่างสละสลวยนุ่มนวลยิ่งถ้าได้อ่านหนังสือภาษาต่างประเทศหรือหนังสือแปลเราก็จะมีโอกาสได้เรียนรู้คำศัพท์จะไม่รู้จักจบสิ้นไม่เชื่อลองสังเกตสำนวนการพูดหรือสำนวนการเขียนของคนที่ชอบอ่านหนังสือดูก็ได้แล้วจะได้เห็นความแตกต่างว่าเขาสามารถพูดจาและเขียนหนังสือได้อย่างไม่สะดุดอ่านก็ลื่นตาฟังก็ลื่นหูก็ยิ่งได้ประโยชน์ดีจะต่อตัวคุณเองอย่างไม่น่าเชื่อเลย
ช่วยกระตุ้นความจำ
5เมื่อเราอ่านหรือรับอะไรก็ตามเข้าไปในสมองสมองจะสั่งการเก็บข้อมูลเหล่านั้นไว้ในส่วนหนึ่งของสมองที่มีไว้สำหรับการจดจำข้อมูลและเรียกใช้ได้อย่างทันทีเมื่อจำเป็นดังนั้นเมื่อเราอ่านหนังสือมากเก็บข้อมูลและเรียบเรียงข้อมูลใหม่เพื่อให้เราสามารถจำอะไรได้ดีขึ้นเราจึงสามารถเรียนรู้และจดจำได้อย่างดีไม่มีลืม
บริหารกระบวนการคิดวิเคราะห์
6ทุกครั้งที่ได้อ่านหนังสือที่มีเงื่อนงำหรือมีปมที่ต้องคิดตามสมองของเราก็จะพยายามขบคิดปมปัญหานั้นจะและหาทางออกด้วยตัวเองเช่นกันกับเวลาที่ได้ดูหนังแนวสืบสวนสอบสวนจะกับเนื้อเรื่องซึ่งก็จะทำให้กระบวนการคิดวิเคราะห์ของเราได้ทำงานบริหารตัวเองอยู่ตลอดเรียกได้ว่ายิ่งได้อ่านก็เหมือนยิ่งได้ลับสมองให้เฉียบแหลม
ฝึกสมาธิ
7หากอยากได้สมาธิหรือต้องการหลีกหนีความวุ่นวายรอบกายก็ลองหยิบหนังสือที่น่าสนใจมาอ่านดูสิแล้วคุณก็จะได้ฝึกสมาธิได้อย่างที่ตั้งใจเพราะเวลาที่เราเพ่งความสนใจไปยังหนังสือก็จะได้เพ่งสมาธิและสมองไปด้วยจะได้ดีขึ้น
พัฒนาทักษะการเขียน
8เชื่อได้ว่าคนที่อ่านหนังสือทุกคนแม้จะอ่านบ่อยหรือไม่ค่อยบ่อยก็ตามจะต้องมีนักเขียนในดวงใจที่เราอ่านแล้วชอบวิธีการเขียนและสำนวนของเขาเหลือเกินและยิ่งถ้าได้อ่านบ่อยจะก็จะได้ทั้งคำศัพท์และสำนวนภาษาที่เขาใช้เขียนหนังสือกันไม่แน่ว่าสักวันคุณก็อาจจะได้เป็นนักเขียนฝีมือดีคนหนึ่งเลยก็ได้
ให้ความสงบ
9ผลวิจัยทางการแพทย์ได้พิสูจน์แล้วว่านอกจากการอ่านหนังสือจะช่วยให้เรามีสมาธิขึ้นแล้วการอ่านหนังสือยังช่วยให้ร่างกายเราเกิดความรู้สึกสงบขึ้นด้วยโดยหากอ่านหนังสือแนวปรัชญาหรือหนังสือที่ให้แนวคิดจะช่วยปรับอารมณ์ที่แปรปรวนให้กลับมาเป็นปกติและบางทีก็สามารถช่วยชี้ทางสว่างให้ปัญหาที่มืดแปดด้านได้ด้วย
ให้ความบันเทิง

10ไม่ว่าจะอ่านหนังสือประเภทไหนก็แล้วแต่จะมีสาระความรู้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่สำคัญเพราะหนังสือสามารถให้อะไรกับคนอ่านได้เสมอไม่ว่าจะเป็นแนวคิดไอเดียดีๆทักษะภาษาก็ยังสามารถให้ความบันเทิงเริงใจแก่ผู้อ่านได้ไม่มากก็น้อย
การแปล กรุณารอสักครู่..
 
ภาษาอื่น ๆ
การสนับสนุนเครื่องมือแปลภาษา: กรีก, กันนาดา, กาลิเชียน, คลิงออน, คอร์สิกา, คาซัค, คาตาลัน, คินยารวันดา, คีร์กิซ, คุชราต, จอร์เจีย, จีน, จีนดั้งเดิม, ชวา, ชิเชวา, ซามัว, ซีบัวโน, ซุนดา, ซูลู, ญี่ปุ่น, ดัตช์, ตรวจหาภาษา, ตุรกี, ทมิฬ, ทาจิก, ทาทาร์, นอร์เวย์, บอสเนีย, บัลแกเรีย, บาสก์, ปัญจาป, ฝรั่งเศส, พาชตู, ฟริเชียน, ฟินแลนด์, ฟิลิปปินส์, ภาษาอินโดนีเซี, มองโกเลีย, มัลทีส, มาซีโดเนีย, มาราฐี, มาลากาซี, มาลายาลัม, มาเลย์, ม้ง, ยิดดิช, ยูเครน, รัสเซีย, ละติน, ลักเซมเบิร์ก, ลัตเวีย, ลาว, ลิทัวเนีย, สวาฮิลี, สวีเดน, สิงหล, สินธี, สเปน, สโลวัก, สโลวีเนีย, อังกฤษ, อัมฮาริก, อาร์เซอร์ไบจัน, อาร์เมเนีย, อาหรับ, อิกโบ, อิตาลี, อุยกูร์, อุสเบกิสถาน, อูรดู, ฮังการี, ฮัวซา, ฮาวาย, ฮินดี, ฮีบรู, เกลิกสกอต, เกาหลี, เขมร, เคิร์ด, เช็ก, เซอร์เบียน, เซโซโท, เดนมาร์ก, เตลูกู, เติร์กเมน, เนปาล, เบงกอล, เบลารุส, เปอร์เซีย, เมารี, เมียนมา (พม่า), เยอรมัน, เวลส์, เวียดนาม, เอสเปอแรนโต, เอสโทเนีย, เฮติครีโอล, แอฟริกา, แอลเบเนีย, โคซา, โครเอเชีย, โชนา, โซมาลี, โปรตุเกส, โปแลนด์, โยรูบา, โรมาเนีย, โอเดีย (โอริยา), ไทย, ไอซ์แลนด์, ไอร์แลนด์, การแปลภาษา.

Copyright ©2024 I Love Translation. All reserved.

E-mail: