Differentiating Fixed and Variable

Differentiating Fixed and Variable Marketing Expenses

Marketing budgets are a significant expenditure for most companies, and for good reason - without marketing, our product would never get to our potential customers! Getting the most from your marketing budget requires a sound management - and that means measurement - strategy.

A key element of a well-managed budget is a differentiation between our fixed and variable marketing expenditures. While each type of expenditure will be part of our budget, each has pros, cons, and special considerations that need to be factored into the budget.

Fixed marketing expenses include items such as sales and marketing staff salaries, national campaigns, and promotional materials.

Variable marketing expenses are those items which ebb and flow along with sales, such as coupon redemption, rebates, sales and marketing commissions and bonuses.

For example, an insurance company is launching a direct-to-consumer arm of their business. This undertaking will include a number of fixed expenses, such as salaries of sales representatives, and call centre technology and software, as well as variable expenses, such as printing costs for welcome packages, and commissions paid to sales representatives.

Neither expense type can be considered preferable to the other. Each has pros and cons (ref. table below) associated with it, and each require proactive management of the challenges and issues they might pose.

FixedVariableTable.png

In the case of fixed expenses, consider amortizing them over a period of time, especially with larger investments (i.e. those with a long-term benefit). In the case of the insurance company, they might consider amortizing the cost of the call centre technology over the expected life of the technology - say, five years. This puts the cost in perspective - although it must be paid up front, its benefit is leveraged over a prolonged period of time - rather than having it appear disproportionately large relative to the immediate benefit.

With variable expenses, consider calculating these costs in best, realistic and worst case scenarios - in some cases, your variable expenses might even decrease as a percentage of the variable they are tied to. In our insurance company example, the cost of printing and delivering a welcome package might be $2.50 per package if the volume is less than 1,000 per month, but decreases to $2 per package when the volume exceeds 1,000, and again to $1.50 when the volume exceeds 5,000, due to discounts given by the printer and postal service. Thus, at increased sales volumes, the cost of welcome packages decreased significantly - driving larger forecasted profits.

By creating your marketing budget with the distinction between fixed and variable costs in mind, you can maximize the return on your investment, while mitigating the risks involved in these different expense types.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ความแตกต่างค่าใช้จ่ายการตลาดที่คงที่ และผันแปร รายจ่ายที่สำคัญสำหรับบริษัทส่วนใหญ่มีงบประมาณการตลาด และสำหรับเหตุผลที่ดี - โดยไม่มีการตลาด ผลิตภัณฑ์ของเราจะไม่ได้ให้ลูกค้าที่มีศักยภาพของเรา ได้รับจากงบประมาณทางการตลาดมากที่สุดต้องจัดการเสียง - และนั่นหมายความว่า วัด - กลยุทธ์องค์ประกอบสำคัญของงบประมาณการจัดการที่ดีจะสร้างความแตกต่างระหว่างจ่ายตลาดของเราคงที่ และผันแปร ในขณะที่รายจ่ายของแต่ละชนิดจะเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณของเรา แต่ละมีข้อดี ข้อด้อย และข้อควรพิจารณาพิเศษที่ต้องการแยกตัวประกอบเป็นงบประมาณค่าใช้จ่ายการตลาดถาวรรวมสินค้าเช่นเงินเดือนพนักงานขาย และการตลาด ส่งเสริมการขายชาติ และวัสดุส่งเสริมการขายตัวแปรค่าใช้จ่ายการตลาดมีสินค้าที่ลดลงและกระแสพร้อมขาย เช่นไถ่ถอนดอกเบี้ย เงินคืน ค่าคอมมิชชั่นขาย และการตลาด และโบนัสตัวอย่าง เป็นบริษัทประกันภัยได้เปิดแขนตรงผู้บริโภคของธุรกิจของพวกเขา กิจการนี้จะรวบรวมค่าใช้จ่ายคงที่ เช่นเงินเดือนของพนักงานขาย และโทรศูนย์เทคโนโลยี และซอฟต์แวร์ ตลอดจนค่าใช้ จ่ายผันแปร เช่นต้นทุนแพคเกจต้อนรับ และค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายให้พนักงานขายชนิดค่าใช้จ่ายไม่สามารถถือว่ากว่าอีก มี pros และ cons (ตารางอ้างอิงด้านล่าง) ที่เกี่ยวข้อง และแต่ละต้องจัดการเชิงรุกของอุปสรรคและปัญหาที่อาจก่อให้เกิดFixedVariableTable.pngในกรณีที่ค่าใช้จ่ายถาวร พิจารณาตัดจำหน่ายได้ระยะเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการลงทุนขนาดใหญ่ (เช่นผู้ที่ มีผลประโยชน์ระยะยาว) ในกรณีที่บริษัทประกันภัย พวกเขาอาจพิจารณาตัดจำหน่ายต้นทุนของเทคโนโลยีศูนย์โทรอายุที่คาดไว้ของเทคโนโลยี - พูด 5 ปี นี้ทำให้ต้นทุนในมุมมอง - แม้ว่าต้องจ่ายค่าหน้า ประโยชน์ของการมี leveraged นานระยะเวลา - มากกว่าได้ปรากฏใหญ่สลายสัมพันธ์ประโยชน์ทันทีมีค่าใช้จ่ายผันแปร พิจารณาคำนวณต้นทุนเหล่านี้ในสถานการณ์ - ในบางกรณี ค่าใช้จ่ายของตัวแปรอาจจะลดเป็นเปอร์เซ็นต์ของตัวแปรที่เกี่ยวพันกับกรณี สมจริง และสุดเลวร้ายที่สุด ในตัวอย่างของบริษัทประกันภัย ต้นทุนการพิมพ์ และการส่งมอบแพคเกจต้อนรับอาจจะ $2.50 ต่อแพคเกจถ้าระดับเสียงต่ำกว่า 1000 ต่อเดือน แต่ลดลง $2 ต่อแพ็คเกจเมื่อปริมาณเกิน 1000 และอีก $1.50 เมื่อปริมาณเกิน 5000 เนื่องจากส่วนลดที่เครื่องพิมพ์และบริการไปรษณีย์ ดังนั้น ที่ปริมาณขายเพิ่มขึ้น ต้นทุนแพคเกจต้อนรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ - ขับรถใหญ่คาดการณ์กำไรโดยการสร้างงบประมาณการตลาดมีความแตกต่างระหว่างต้นทุนคงที่ และผันแปรในใจ คุณสามารถขยายกลับมากับการลงทุน ในขณะที่บรรเทาความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับชนิดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เหล่านี้

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ความแตกต่างของค่าใช้จ่ายการตลาดคงที่และตัวแปรงบประมาณการตลาดที่มีค่าใช้จ่ายอย่างมีนัยสำคัญสำหรับ บริษัท มากที่สุดและสำหรับเหตุผลที่ดี - โดยไม่มีการตลาดผลิตภัณฑ์ของเราจะไม่ได้รับให้กับลูกค้าที่มีศักยภาพของเรา! ได้รับประโยชน์สูงสุดจากงบประมาณการตลาดของคุณต้องมีการบริหารจัดการที่ดี - และนั่นหมายความว่าการวัด -. กลยุทธ์องค์ประกอบสำคัญของงบประมาณบริหารจัดการที่ดีคือความแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายคงที่และตัวแปรการตลาดของเรา ในขณะที่แต่ละประเภทของค่าใช้จ่ายจะเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณของเราแต่ละคนมีข้อดีข้อเสียและการพิจารณาเป็นพิเศษที่จะต้องพิจารณาในงบประมาณ. ค่าใช้จ่ายในการตลาดคงที่รวมรายการเช่นการขายและเงินเดือนพนักงานการตลาดแคมเปญแห่งชาติและสื่อส่งเสริมการขายค่าใช้จ่ายการตลาดตัวแปรเป็นรายการที่ผู้ที่ลดลงและการไหลไปตามที่มียอดขายเช่นการแลกคูปองส่วนลดการขายและการตลาดและค่าคอมมิชชั่นโบนัส. ยกตัวอย่างเช่น บริษัท ประกันภัยจะเปิดตัวแขนโดยตรงกับผู้บริโภคของธุรกิจของตน การดำเนินการนี้จะรวมถึงจำนวนค่าใช้จ่ายคงที่เช่นเงินเดือนของพนักงานขายและโทรศูนย์เทคโนโลยีและซอฟแวร์เช่นเดียวกับค่าใช้จ่ายผันแปรเช่นค่าใช้จ่ายในการพิมพ์สำหรับแพคเกจต้อนรับและค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายให้กับพนักงานขาย. ประเภทค่าใช้จ่ายที่ไม่สามารถ ถือว่าดีกว่าที่อื่น ๆ แต่ละคนมีข้อดีและข้อเสีย (Ref. ตารางด้านล่าง) ที่เกี่ยวข้องกับมันและแต่ละคนจำเป็นต้องมีการบริหารจัดการเชิงรุกของความท้าทายและปัญหาที่พวกเขาอาจจะก่อให้เกิด. FixedVariableTable.png ในกรณีที่มีค่าใช้จ่ายคงพิจารณาทยอยพวกเขาในช่วงเวลาโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับ การลงทุนขนาดใหญ่ (เช่นผู้ที่มีประโยชน์ในระยะยาว) ในกรณีของ บริษัท ประกันภัยที่พวกเขาอาจพิจารณาทยอยต้นทุนของเทคโนโลยีศูนย์บริการตลอดอายุการคาดหวังของเทคโนโลยี - พูดห้าปี ซึ่งจะทำให้ค่าใช้จ่ายในมุมมอง - แม้ว่ามันจะต้องจ่ายขึ้นด้านหน้าประโยชน์ของมันจะถูกยกระดับเป็นระยะเวลานานของเวลา -. มากกว่าที่มีปรากฏญาติสัดส่วนขนาดใหญ่ที่จะได้รับประโยชน์ทันทีด้วยค่าใช้จ่ายในตัวแปรพิจารณาการคำนวณค่าใช้จ่ายเหล่านี้ในที่ดีที่สุด จริงและสถานการณ์กรณีเลวร้ายที่สุด - ในบางกรณีค่าใช้จ่ายตัวแปรของคุณก็อาจจะลดลงเป็นร้อยละของตัวแปรที่พวกเขาจะเชื่อมโยงกับ ในตัวอย่าง บริษัท ประกันภัยของเราค่าใช้จ่ายในการพิมพ์และการส่งมอบแพคเกจต้อนรับอาจเป็น $ 2.50 ต่อแพคเกจถ้าปริมาณน้อยกว่า 1,000 บาทต่อเดือน แต่ลดลงถึง $ 2 ต่อแพคเกจเมื่อปริมาณเกิน 1,000 และอีกครั้งเพื่อ $ 1.50 เมื่อปริมาณเกินกว่า 5000 เนื่องจากได้รับส่วนลดจากเครื่องพิมพ์และบริการไปรษณีย์ ดังนั้นปริมาณการขายที่เพิ่มขึ้นค่าใช้จ่ายของแพคเกจต้อนรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ. - ขับรถขนาดใหญ่ที่คาดการณ์ผลกำไรโดยการสร้างงบประมาณการตลาดของคุณด้วยความแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายคงที่และตัวแปรในใจที่คุณสามารถเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนของคุณในขณะที่การลดความเสี่ยงที่เกี่ยวข้อง ในประเภทเหล่านี้ค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ทั้งคงที่และตัวแปรด้านรายได้

การตลาด งบประมาณทางด้านค่าใช้จ่าย บริษัท ส่วนใหญ่และสำหรับเหตุผลที่ดี - ไม่ มีฝ่ายการตลาด ผลิตภัณฑ์ของเราจะไม่รับลูกค้าของเรา ! การเดินทางมากที่สุดจากงบประมาณการตลาดของคุณต้องมีการจัดการเสียง -- และนั่นหมายความว่าวัด

- กลยุทธ์องค์ประกอบหลักของการจัดการดีงบประมาณคือ ความแตกต่างระหว่างค่าใช้จ่ายการตลาดของเราคงที่และตัวแปร ในขณะที่แต่ละประเภทของค่าใช้จ่ายจะเป็นส่วนหนึ่งของงบประมาณของเรา แต่ละคนมีข้อดีข้อเสียและข้อพิจารณาพิเศษที่ต้องประกอบเป็นงบประมาณ

แก้ไขการตลาดค่าใช้จ่ายรวมรายการเช่นการขายและการตลาด เงินเดือนพนักงาน , แคมเปญแห่งชาติ

และวัสดุส่งเสริมการขายค่าใช้จ่ายการตลาดตัวแปรเป็นสินค้าที่ลดลงและการไหลพร้อมกับขาย เช่น รับคูปองส่วนลด การขายและการตลาด , ค่าคอมมิชชั่นและโบนัส

ตัวอย่างเช่น บริษัทประกันจะเรียกใช้โดยตรงแขนของผู้บริโภคของธุรกิจของพวกเขา กิจการนี้จะรวมถึงจำนวนของค่าใช้จ่ายคงที่ เช่น เงินเดือนของพนักงานขาย และโทรศูนย์เทคโนโลยีและซอฟต์แวร์รวมทั้งค่าใช้จ่ายผันแปร เช่น ต้นทุนการพิมพ์แพคเกจยินดีต้อนรับ และค่าคอมมิชชั่นที่จ่ายให้ตัวแทนฝ่ายขาย

และค่าใช้จ่ายประเภทถือได้ว่าเป็นที่นิยมอื่น ๆ แต่ละคนมีข้อดีและข้อเสีย ( อ้างอิงจากตารางด้านล่าง ) ที่เกี่ยวข้องกับมันและแต่ละคนต้องบริหารเชิงรุกของความท้าทายและปัญหาที่พวกเขาอาจก่อให้เกิด .

fixedvariabletable . png

ในกรณีที่ค่าใช้จ่ายถาวรพิจารณา amortizing พวกเขาในระยะเวลาหนึ่ง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับการลงทุนขนาดใหญ่ ( เช่นผู้ที่มีประโยชน์ในระยะยาว ) ในกรณีของ บริษัท ประกันภัยจะพิจารณา amortizing ต้นทุนของศูนย์เทคโนโลยีที่เหนือคาด ชีวิตของ เทคโนโลยี ว่า 5 ปี นี้ทำให้ค่าใช้จ่ายในมุมมอง - แม้ว่ามันจะต้องจ่ายขึ้นด้านหน้าประโยชน์ของมันคือใช้ผ่านระยะเวลานาน แทนที่จะมีปรากฏสัดส่วนใหญ่เมื่อเทียบกับผลประโยชน์ทันที

กับค่าใช้จ่ายผันแปร พิจารณาการคำนวณเหล่านี้ค่าใช้จ่ายที่ดีที่สุด มีเหตุผล และสถานการณ์ที่เลวร้ายที่สุด ในบางกรณีค่าใช้จ่ายผันแปรของคุณอาจจะลดลงเป็นร้อยละของตัวแปรที่พวกเขาจะเชื่อมโยงกับ ตัวอย่าง เช่น บริษัท ประกันภัยของเราค่าใช้จ่ายในการพิมพ์และการส่งมอบแพคเกจต้อนรับอาจจะ $ 2.50 ต่อแพคเกจ ถ้าปริมาณน้อยกว่า 1 , 000 บาทต่อเดือน แต่ลดลงถึง $ 2 ต่อแพคเกจเมื่อปริมาณที่เกินกว่า 1 , 000 และอีก $ 1.50 เมื่อปริมาณที่เกินกว่า 5 , 000 บาท เนื่องจากส่วนลดที่ได้รับจากเครื่องพิมพ์และบริการไปรษณีย์ ดังนั้นที่เพิ่มยอดขายค่าใช้จ่ายของแพคเกจต้อนรับลดลงอย่างมีนัยสำคัญ ขับรถใหญ่คาดการณ์กำไร

โดยการสร้างงบประมาณการตลาดของคุณที่มีความแตกต่างระหว่างต้นทุนคงที่และต้นทุนผันแปรในจิตใจ คุณสามารถเพิ่มผลตอบแทนในการลงทุน ในขณะที่ ความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องในประเภทค่าใช้จ่ายที่แตกต่างกันเหล่านี้บรรเทา .