An important and essential part of

An important and essential part of the design of retaining walls consists of determining
the earth pressure on the back of the wall. The earliest theory of earth pressure
traces back to Charles-Augustin de Coulomb, who published his work in 1773.
Coulomb’s theory presented a method by which a designer could determine the pressure
that dry, granular, cohesionless material would exert upon the back of a wall constructed
to restrain the material. His work was based on the theory that failure is characterized
by a wedge-shaped mass of the supported sand material that slides down along a sloping
plane such as is shown in Fig. 8.6

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ส่วนสำคัญ และจำเป็นของการออกแบบกำแพงกันดินกำหนดประกอบด้วยความดันดินด้านหลังกำแพง ทฤษฎีแรกสุดของโลกความดันร่องรอยไปชาร์ล-โอกุ de Coulomb ผู้เผยแพร่งานของเขาในเมืองพะเยานำเสนอวิธีการซึ่งนักออกแบบสามารถกำหนดความดันทฤษฎีของ Coulombวัสดุที่แห้ง granular, cohesionless จะแรงตามด้านหลังของกำแพงที่สร้างขึ้นตัดวัสดุ งานของเขาเป็นไปตามทฤษฎีที่ว่า ความล้มเหลวในลักษณะโดยมวลวัสดุทรายสนับสนุนที่สไลด์ลงตามความลาดเอียงเป็นรูปลิ่มเครื่องบินเช่นจะแสดงใน Fig. 8.6

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

เป็นส่วนสำคัญและมีความจำเป็นของการออกแบบของกำแพงประกอบด้วยการกำหนดแรงดันดินที่อยู่ด้านหลังของผนัง ทฤษฎีที่เก่าแก่ที่สุดของแรงดันดินร่องรอยกลับไปชาร์ลส์ Augustin de Coulomb ที่ตีพิมพ์ผลงานของเขาใน 1,773 ทฤษฎีประจุไฟฟ้าของที่นำเสนอวิธีการที่นักออกแบบสามารถกำหนดความดันที่แห้งเม็ดวัสดุยึดเหนี่ยวจะออกแรงบนหลังของผนังสร้างขึ้นเพื่อยับยั้งวัสดุ ผลงานของเขาอยู่บนพื้นฐานของทฤษฎีที่ว่าความล้มเหลวเป็นลักษณะโดยมวลลิ่มของวัสดุทรายได้รับการสนับสนุนที่สไลด์ลงมาตามลาดเครื่องบินเช่นแสดงในรูป 8.6

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่สำคัญและที่สำคัญส่วนหนึ่งของการออกแบบกำแพงกันดินประกอบด้วยกำหนด
โลกความดันที่ด้านหลังของกำแพง ทฤษฎีเก่าของ
แรงดันดินติดตามกลับไปชาร์ลส์ออกุสตินเดอคูลอมบ์ที่ตีพิมพ์งานของเขาใน 2316 .
ทฤษฎีของการเสนอวิธีการที่นักออกแบบสามารถตรวจสอบความดัน
ที่แห้ง , เม็ดcohesionless วัสดุจะออกแรงบนด้านหลังของผนังก่อ
ยับยั้งวัสดุ งานของเขาคือตามทฤษฎีที่ล้มเหลวเป็นลักษณะ
โดยแยกมวลชนที่สนับสนุนทรายวัสดุที่สไลด์ลงมาตามแนวลาดเอียง
เครื่องบินเช่นที่แสดงในรูปที่ 8.6