Literature reviewA lot of research

Literature review
A lot of research has been conducted on occupational stress, job satisfaction and job performance among nurses in the US, Europe and South Africa. However, very little has been done in the other parts of Africa as a result of the limited research skills and ability to publish by nurses in Africa (Adejumo & Lekalakala-Mokgele 2009).
Occupational stress Research has demonstrated that the sources of occupational stress, its levels and its effects vary greatly depending on local forces such as the nature of work, work setting and cultural orientation. Thus, significant differences in occupational stress among nurses in different countries may exist owing to different work settings and levels of social support (Evans 2002). Organizational support and perceived social support are associated with decreased occupational stress (Ab- uAlRub 2004, Jenkins & Elliott 2004). In addition to social support, the support perceived by the individual from the organization is an important factor associated with occupational stress. The organization may be instrumental in reducing job demands by improving the availability of resources such as equipment, adequate staffing, and promoting policies that facilitate work performance. Understanding the perception of social and organizational support among nurses will aide stakeholders to develop programmes that enhance job satisfaction.
Occupational stress and job satisfaction Previous researchers have reported an inverse or negative relationship between perceived stress and job satisfaction; that is, as stress increases, job satisfaction decreases (Flanagan & Flanagan 2002, Sveinsdottir et al. 2006, Zangaro & Soeken 2007). Job stress and job satisfaction have also been reported to be influenced by personal characteristics. For example, significant inverse correlations were reported between job satisfaction and age, and years of nursing experience with
job stress (Ernst et al. 2004). Other personal characteristics such as mental and physical health, marital status, education level, rural/urban setting and perceived HIV stigma were reported to have significant influence on job satisfaction.
Occupational stress and job performance A high level of occupational stress has been found to reduce quality of nursing care. A shortage of nursing staff owing to turnover as a result of occupational stress was associated with increased patient mortality rates in an intensive care unit (Sveinsdottir et al. 2006). How- ever, in a previous study on job stress, recognition, job performance and intention to stay at work among Jor- danian hospital nurses, it was reported that recognition of nurses performance had a direct and buffering effect on job stress and the level of intention to stay at work (AbuAlRub & Al-Zaru 2008). This is consistent with other literature which has reported that recognition leads to job satisfaction and low turnover (Cartledge 2001). Morale is another factor which affects nurses performance. Nurses morale can be boosted by creating an environment characterized by supportive supervision, positive feedback and good communication. Job satisfaction and nurses perceptions that they are valued may lead to improved work place efficiency and output (Stapleton et al. 2007). In summary, occupational stress and its related effects on job satisfaction and job performance have been found to differ among professions and work settings. However, although previous studies regarding these variables and their relationships have been conducted worldwide, the majority have been with American and European nurses in their work settings. Therefore, given the significance of occupational stress and its relation- ships with job satisfaction and job performance for nurses and patients as illustrated by the conceptual model, the present study was done to assess the situation in Ugandan hospitals.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การทบทวนวรรณกรรม
มีการดำเนินการค้นคว้ามากมายอาชีวความเครียด ความพึงพอใจในงาน และปฏิบัติงานระหว่างพยาบาลในสหรัฐอเมริกา ยุโรป และแอฟริกาใต้ อย่างไรก็ตาม น้อยมากแล้วในส่วนอื่น ๆ ของแอฟริกาจากการจำกัดวิจัยทักษะและความสามารถในการเผยแพร่ โดยพยาบาลในแอฟริกา (Adejumo & 2009 Lekalakala-Mokgele) .
ความเครียดอาชีวที่วิจัยได้แสดงว่า แหล่งที่มา ของความเครียดอาชีว ระดับของผลแตกต่างมากกองกำลังท้องถิ่นเช่นลักษณะของงาน ทำงานทางวัฒนธรรม และการ ดังนั้น significant ความแตกต่างในความเครียดอาชีพพยาบาลในต่างประเทศอาจมีอยู่เนื่องจากการตั้งค่าการทำงานแตกต่างกันและระดับของการสนับสนุนทางสังคม (อีวานส์ 2002) สนับสนุนองค์กรและรับรู้การสนับสนุนทางสังคมเกี่ยวข้องกับอาชีวเครียดลดลง (Ab uAlRub 2004 เจงกินส์& 2004 ต) นอกจากการสนับสนุนทางสังคม การสนับสนุนโดยบุคคลจากองค์กรเป็นปัจจัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเครียดที่อาชีว องค์กรอาจเป็นเครื่องมือในการลดความต้องการของงานโดยการปรับปรุงความพร้อมของทรัพยากรเช่นอุปกรณ์ staffing เพียงพอ และนโยบายส่งเสริมที่ช่วยในการปฏิบัติงาน ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการรับรู้ของสังคม และองค์กรสนับสนุนพยาบาลจะเสีย aide พัฒนาโปรแกรมที่เพิ่มความพึงพอใจในงาน
มีรายงานวิจัยก่อนหน้าการความพึงพอใจความเครียดและงานอาชีวผกผันการลบความสัมพันธ์ระหว่างการรับรู้ความเครียดและความพึงพอใจงาน คือ เป็นการเพิ่มความเครียด งานความพึงพอใจลดลง (ฟลานาแกน& 2002 ฟลานาแกน Zangaro, Sveinsdottir et al. 2006 & Soeken 2007) งานเครียดและงานความพึงพอใจยังรายงานให้ influenced ตามลักษณะส่วนบุคคล ตัวอย่าง มีรายงาน significant ผกผันความสัมพันธ์ระหว่างความพึงพอใจในงานและอายุ และคณะพยาบาลศาสตร์ปีด้วย
งานเครียด (เอิร์นสท์ et al. 2004) มีรายงานลักษณะส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่นสุขภาพจิต และทางกายภาพ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา ตั้งค่าชนบท/เมือง และภาพดอกไม้เอชไอวีรับรู้ มี significant influence ในงานความพึงพอใจ
พบอาชีวความเครียดและงาน A สูงระดับประสิทธิภาพของอาชีวความเครียดการลดคุณภาพของพยาบาล การขาดแคลนพยาบาลพนักงาน เพราะการหมุนเวียนจากความเครียดอาชีวสัมพันธ์กับอัตราตายผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในหน่วยดูแลเร่งรัด (Sveinsdottir et al. 2006) ได้ วิธี - เคย ก่อนหน้านี้ในการศึกษางานเครียด รับรู้ ปฏิบัติงานและความตั้งใจที่ทำงาน danian หลังโรงพยาบาลพยาบาล มันเป็นรายงานว่า การรับรู้ของพยาบาลประสิทธิภาพมีนั่งและผลความเครียดงานและระดับของความตั้งใจที่ทำงานการกำหนดบัฟเฟอร์ (ลอบูอัลร็อบ&อัล-Zaru 2008) สอดคล้องกับวรรณคดีอื่น ๆ ที่มีรายงานว่า การรับรู้ที่นำไปสู่ความพึงพอใจในงานและการหมุนเวียนต่ำ (Cartledge 2001) อยู่ ขวัญเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่มีผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของพยาบาล ขวัญพยาบาลสามารถจะเพิ่มขึ้น โดยการสร้างสภาพแวดล้อมโดยการดูแลสนับสนุน การตอบ และการสื่อสารที่ดี งานความพึงพอใจและพยาบาลรับรู้ว่า พวกเขาเป็นบริษัทอาจนำไปสู่การปรับปรุงสถานที่ทำงาน efficiency และผลผลิต (Stapleton et al. 2007) ในสรุป อาชีพที่มีความเครียดและผลกระทบที่เกี่ยวข้องกับความพึงพอใจในงานและปฏิบัติงานพบแตกต่างสาขาอาชีพ และการตั้งค่าการทำงาน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าดำเนินการศึกษาเกี่ยวกับตัวแปรเหล่านี้และความสัมพันธ์ก่อนหน้านี้ทั่วโลก ส่วนใหญ่ได้รับกับพยาบาลอเมริกัน และยุโรปในการตั้งค่าการทำงาน ดังนั้น ให้ significance ความเครียดอาชีวและของเรือความสัมพันธ์กับความพึงพอใจในงานและปฏิบัติงานการพยาบาลผู้ป่วย ตามรูปแบบแนวคิด การศึกษาปัจจุบันที่ทำให้ประเมินสถานการณ์ในโรงพยาบาล Ugandan

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การทบทวนวรรณกรรม
มากของการวิจัยได้ดำเนินการต่อความเครียด ความพึงพอใจในงานและการปฏิบัติงานของพยาบาลในสหรัฐฯ ยุโรป และแอฟริกาใต้ แต่น้อยมากได้รับการทำในส่วนอื่น ๆของแอฟริกาเป็นผลของทักษะ จำกัด การวิจัยและความสามารถในการเผยแพร่โดยพยาบาลในแอฟริกา ( adejumo & lekalakala
mokgele 2009 )การวิจัยได้แสดงให้เห็นถึงความเครียดที่แหล่งที่มาของความเครียด ของระดับ และผลของมันแตกต่างกันอย่างมากขึ้นอยู่กับกองกำลังท้องถิ่น เช่น ลักษณะของงาน การตั้งค่า และการวัฒนธรรม ดังนั้น signi จึงไม่สามารถเปรียบเทียบความเครียดของพยาบาลในประเทศที่แตกต่างกันอาจเกิดขึ้นเนื่องจากการตั้งค่าการทำงานที่แตกต่างกันและระดับของการสนับสนุนทางสังคม ( อีแวนส์ 2002 )การสนับสนุนจากองค์การ และการรับรู้การสนับสนุนทางสังคมที่เกี่ยวข้องกับความเครียดลดลง ( จาก ualrub 2004 เจนกินส์& Elliott 2004 ) นอกจากนี้ การสนับสนุนทางสังคม การรับรู้ของบุคคล การสนับสนุนจากองค์กรสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเครียดจากการประกอบอาชีพองค์กรอาจเป็นเครื่องมือในการลดความต้องการของงาน โดยการปรับปรุงทรัพยากรเช่นอุปกรณ์เพียงพอ staf จึง NG และส่งเสริมนโยบายที่เอื้อต่อการปฏิบัติงาน ความเข้าใจการรับรู้การสนับสนุนทางสังคมและองค์การของพยาบาลจะช่วยเหลือผู้มีส่วนได้เสียเพื่อพัฒนาโครงการที่จะส่งเสริมความพึงพอใจ
ความเครียดและความพึงพอใจในงานที่นักวิจัยก่อนหน้ามีรายงานความสัมพันธ์ผกผันหรือลบระหว่างการรับรู้ความเครียดและความพึงพอใจในงาน นั่นคือเป็นการเพิ่มความเครียด ลดลงความพึงพอใจ ( ฟลานาแกน &ฟลานาแกน 2002 sveinsdottir et al . 2006 zangaro & soeken 2007 ) ความเครียดในงานและความพึงพอใจในงาน นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าในfl uenced โดยลักษณะส่วนบุคคลตัวอย่างเช่น signi จึงไม่ได้มีรายงานความสัมพันธ์ผกผันระหว่างความพึงพอใจในงานกับอายุ และปีของประสบการณ์กับพยาบาล
ความเครียด ( Ernst et al . 2004 ) คุณลักษณะส่วนบุคคลอื่น ๆ เช่น สุขภาพ จิต และทางกายภาพ สถานภาพสมรส ระดับการศึกษา การรับรู้ตราบาปและชนบท / เขตเมือง เอชไอวี มีรายงานว่ามี signi จึงไม่สามารถอยู่ในfl uence
ในงานความเครียดในการปฏิบัติงานระดับสูงของความเครียดได้รับการพบเพื่อลดคุณภาพของการพยาบาล ปัญหาการขาดแคลนพยาบาล เนื่องจากผลประกอบการที่เป็นผลของความเครียดมีความสัมพันธ์กับอัตราการตายของผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในอัตราหน่วยดูแลเข้ม ( sveinsdottir et al . 2006 ) แล้วเคย ในการศึกษาก่อนหน้านี้ในงาน ความเครียด การรับรู้การปฏิบัติงาน และมีความตั้งใจที่จะอยู่ในการทำงานของ JoJo - danian โรงพยาบาลหอผู้ป่วย มีรายงานว่า การรับรู้ของพยาบาล  ประสิทธิภาพได้โดยตรง และบัฟเฟอร์ต่อความเครียดและระดับความตั้งใจที่จะทำงาน ( abualrub ซารุ&ล 2551 ) ซึ่งสอดคล้องกับวรรณกรรมอื่น ๆ ซึ่งมีรายงานว่า การจะนำไปสู่ความพึงพอใจในงานต่ำและการหมุนเวียน ( คาร์ทเลดจ์ 2001 )ขวัญก็เป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่มีผลต่อสมรรถนะพยาบาล  . พยาบาล  ขวัญสามารถเพิ่มขึ้นโดยการสร้างสภาพแวดล้อมลักษณะการนิเทศสนับสนุนข้อเสนอแนะในเชิงบวกและการสื่อสารที่ดี ความพึงพอใจในงานและพยาบาลรับรู้ว่าพวกเขามีมูลค่า  อาจนำไปสู่การปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานที่ EF จึงออก ( Stapleton et al . 2007 ) กล่าวโดยสรุปความเครียดและมีผลกระทบต่อความพึงพอใจในงานและการปฏิบัติงานได้รับพบว่าแตกต่างระหว่างงานและอาชีพการตั้งค่า อย่างไรก็ตาม แม้ว่าการศึกษาก่อนหน้านี้เกี่ยวกับตัวแปรเหล่านี้และความสัมพันธ์ของพวกเขาได้ดำเนินการทั่วโลก ส่วนใหญ่ได้ถูกกับอเมริกาและยุโรป พยาบาล ในการตั้งค่างาน ดังนั้นได้รับ signi ถ่ายทอดโรคมะเร็งของความเครียดและความสัมพันธ์ของเรือ กับความพึงพอใจในงานและผลการปฏิบัติงานของพยาบาลและผู้ป่วย เป็นภาพประกอบ โดยแบบจำลองในการศึกษานี้ทำเพื่อประเมินสถานการณ์ในโรงพยาบาล
ยุ .