All horticultural production in Bot

All horticultural production in Botswana is irrigated, as average rainfall is less than average reference evapotranspiration in all parts of the country for all of the year, and most of the irrigation in the country is used for horticultural crops. In the main, the water used for irrigation comes from groundwater, and much of this can be classified as moderately saline. A survey was carried out of 60 cabbage farmers in five regions of the country to identify the level of salinity of irrigation water and the irrigation practices used. It was concluded that there was no relationship between the irrigation rate (average irrigation depth divided by average irrigation interval) and the salinity of the water used or the salinity of the soil, such that some farmers were over-irrigating and others under-irrigating. This means that water is being wasted and yields are likely to be reduced. In addition, there is a risk of long-term build-up of salinity and soil degradation.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผลิตเมนทั้งหมดในบอตสวานาเป็นชลประทาน ตามปริมาณน้ำฝนเฉลี่ย evapotranspiration น้อยกว่าค่าเฉลี่ยในทุกส่วนของประเทศทุกปี และชลประทานในประเทศส่วนใหญ่ใช้สำหรับพืชผลผลิตทางการ ในหลัก น้ำที่ใช้สำหรับการชลประทานมาจากน้ำบาดาล และมากนี้สามารถจัดประเภทเป็น saline ปานกลาง ทำการสำรวจจาก 60 กะหล่ำปลีเกษตรกรใน 5 ภูมิภาคของประเทศเพื่อระบุระดับความเค็มของน้ำชลประทานและปฏิบัติการชลประทานที่ใช้ ได้สรุปได้ว่า มีไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างอัตราการชลประทาน (หารเฉลี่ยชลประทานช่วงความลึกเฉลี่ยชลประทาน) และเค็มของน้ำที่ใช้หรือเค็มดิน เช่นที่เกษตรกรบางส่วนได้เกิน irrigating และอื่น ๆ irrigating ภายใต้การ หมายความ ว่า จะมีการสูญเสียน้ำ และผลผลิตมีแนวโน้มที่จะลด นอกจากนี้ มีความเสี่ยงของการเกิดระยะยาวของความเค็มและดินที่สลายตัว

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การผลิตพืชสวนทั้งหมดในบอตสวานาเป็นในเขตชลประทานขณะที่ปริมาณน้ำฝนโดยเฉลี่ยอยู่ที่น้อยกว่าการคายระเหยอ้างอิงโดยเฉลี่ยในทุกส่วนของประเทศสำหรับทุกปีและส่วนใหญ่ของการชลประทานในประเทศที่ใช้สำหรับพืชสวน ในหลักน้ำที่ใช้เพื่อการชลประทานมาจากน้ำใต้ดินและมากนี้สามารถจัดเป็นน้ำเกลือในระดับปานกลาง การสำรวจได้ดำเนินการ ก็สรุปได้ว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างอัตราชลประทาน ซึ่งหมายความว่าน้ำจะถูกทำลายและอัตราผลตอบแทนมีแนวโน้มที่จะลดลง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงในระยะยาวสร้างขึ้นจากความเค็มและความเสื่อมโทรมของดิน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การผลิตพืชสวนในบอตสวานาเป็นหลัก เช่น ปริมาณน้ำฝนเฉลี่ยน้อยกว่าการคายระเหยอ้างอิงเฉลี่ยในทุกส่วนของประเทศทุกปี และส่วนใหญ่ของน้ำในประเทศใช้สำหรับทำสวน ในหลัก น้ำใช้เพื่อการชลประทานมาจากน้ำใต้ดิน และมากนี้สามารถจัดเป็นดินเค็มปานกลางสำรวจได้ดำเนินการ 60 กะหล่ำปลีเกษตรกรใน 5 ภูมิภาคของประเทศ เพื่อศึกษาระดับความเค็มของน้ำและการชลประทานการใช้ พบว่าไม่มีความสัมพันธ์ระหว่างอัตรา ( ชลประทานการชลประทานเฉลี่ยความลึกแบ่งตามช่วงเวลาชลประทานเฉลี่ย ) และความเค็มของน้ำที่ใช้หรือความเค็มของดินเช่นว่า เกษตรกรบางส่วนอยู่ภายใต้ irrigating irrigating และอื่น ๆ . ซึ่งหมายความว่าน้ำจะถูกทำลายและผลผลิตมีแนวโน้มที่จะลดลง นอกจากนี้ยังมีความเสี่ยงของการสะสมระยะยาวของความเค็มและดินเสื่อมโทรม