It all started in 1949 when Frank M

It all started in 1949 when Frank McNamara schedoled a business dinner in a New York restaurant. Before he left for the dinner, Frank changed suits. When the waiter presented the check, Frank realized that he had lelf his wallet in the other suit. The embarrassing situation was solved but that night frank asked himself: "Why should people be limited to spending what they are caryying in cash, instead of being able to spend what they can afford?" a year later, frank returned to the same restaurant in new york. When the check came, frank handed the waiter a small cardboard card, a diner's club card, and signed for the meal.this event is known in the credit card industry as the "first supper" soon the concept of "charging it " was picked up by merchants as an alternative form of payment to the use of cash. By 1956, the diner's club card was accepted by thousands of businesses across the united states, and it became a status symbol for those who carried it.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ทั้งหมดเริ่มต้นใน 1949 เมื่อ Frank แม็กนามารา schedoled เป็นธุรกิจอาหารในร้านอาหารนิวยอร์ก ก่อนที่เขาซ้ายที่เย็น แฟรงค์เปลี่ยนชุด เมื่อเสิร์ฟนำเช็ค แฟรงก์รู้ว่า เขามี lelf กระเป๋าสตางค์ของเขาในชุดอื่น ๆ สถานการณ์อายถูกแก้ไขแต่ว่าไนท์แฟรงค์ถามตัวเอง: "ทำไมคนควรจำกัดการใช้จ่ายมีอะไร caryying เงินสด แทนความสามารถใน การใช้สิ่ง พวกเขาสามารถจ่าย "ปีต่อมา ตรงไปตรงมากลับไปที่ร้านอาหารเดียวกันในนิวยอร์ก เมื่อเช็คมา frank มอบบัตรขนาดเล็กกระดาษแข็ง บัตร diner ที่คลับ เสิร์ฟ และเซ็นชื่ออาหารเหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมบัตรเครดิตเป็น "ซุปเปอร์แรก" เร็ว ๆ นี้แนวคิดของ "ชาร์จ" มารับพ่อค้าเป็นรูปแบบทางเลือกการชำระเงินจะใช้เงินสด ปี 1956 บัตร diner ของคลับเป็นที่ยอมรับพันธุรกิจทั่วสหรัฐอเมริกา และได้กลายเป็นสัญลักษณ์สถานะผู้ที่ดำเนินการนั้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

มันทั้งหมดเริ่มต้นในปี 1949 เมื่อแฟรงก์แมกนามารา schedoled อาหารค่ำธุรกิจในร้านอาหารนิวยอร์ก ก่อนที่เขาจะออกจากงานเลี้ยงอาหารค่ำแฟรงค์เปลี่ยนชุด เมื่อบริกรที่นำเสนอการตรวจสอบแฟรงก์รู้ว่าเขามี LELF กระเป๋าสตางค์ของเขาในชุดอื่น ๆ สถานการณ์ที่น่าอับอายถูกแก้ไข แต่ในคืนนั้นตรงไปตรงมาถามตัวเอง: "ทำไมคนควรจะถูก จำกัด การใช้จ่ายสิ่งที่พวกเขา caryying เงินสดแทนความสามารถที่จะใช้จ่ายในสิ่งที่พวกเขาสามารถจ่าย" หนึ่งปีต่อมาตรงไปตรงกลับไปที่ร้านอาหารเหมือนกันในนิวยอร์ก เมื่อตรวจสอบมาตรงไปตรงบริกรส่งบัตรกระดาษแข็งขนาดเล็กบัตรสโมสรร้านอาหารและการเซ็นสัญญากับ meal.this เหตุการณ์เป็นที่รู้จักกันในอุตสาหกรรมบัตรเครดิตในฐานะ "อาหารค่ำครั้งแรก" เร็ว ๆ นี้แนวคิดของ "ชาร์จ" ได้รับเลือก ขึ้นโดยพ่อค้าเป็นรูปแบบทางเลือกของการชำระเงินเพื่อการใช้เงินสด โดยปี 1956 บัตรสโมสรร้านอาหารที่ได้รับการยอมรับโดยนับพันของธุรกิจทั่วประเทศสหรัฐอเมริกาและมันก็กลายเป็นสัญลักษณ์สถานะสำหรับผู้ที่ถือมัน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

มันทั้งหมดเริ่มต้นในปี 1949 เมื่อแฟรงค์ แมคนามารา schedoled ธุรกิจอาหารค่ำในร้านอาหารนิวยอร์ก . ก่อนที่เขาซ้ายสำหรับอาหารเย็น แฟรงค์ได้เปลี่ยนชุด เมื่อพนักงานเสิร์ฟนำเช็ค แฟรงค์ ตระหนักว่าเขาได้ lelf กระเป๋าสตางค์ของเขาในชุดอื่น ๆ สถานการณ์ที่น่าอายก็แก้ไขได้ แต่ในคืนนั้นแฟรงค์ถามตัวเองว่า : " ทำไมคนถูก จำกัด การใช้จ่ายที่พวกเขา caryying ในเงินสดแทนที่จะสามารถใช้จ่ายสิ่งที่พวกเขาสามารถจ่ายได้ ? " ปีต่อมา แฟรงค์ กลับไปที่ร้านอาหารเดียวกันในนิวยอร์ก เมื่อการตรวจสอบมา แฟรงค์ มือบริกรบัตรกระดาษแข็งขนาดเล็ก ร้าน คลับการ์ด และลงนามสำหรับอาหารเหตุการณ์นี้เป็นที่รู้จักในอุตสาหกรรมบัตรเครดิตเป็น " เย็น " แรกๆของแนวคิด " ชาร์จ " ถูกเลือกขึ้นโดยร้านค้าเป็นรูปแบบทางเลือกของการชำระเงินเพื่อใช้เป็นเงินสด โดยปี 1956 , ห้องอาหารคลับการ์ดได้รับการยอมรับโดยนับพันของธุรกิจทั่วสหรัฐอเมริกา และได้กลายเป็นสัญลักษณ์สถานะสำหรับผู้ที่ถือมัน