Third, by exploring how a character

Third, by exploring how a characteristic of MCS, comprehensive
PMS, relates to learning, the study responds to
calls to investigate how specific attributes of MCS affect
learning (Otley, 1999; Shields, 1997). This is important
as prior research provides a mixed picture, with one line
of argument suggesting that MCS can impede the learning
process (Argyris, 1977, 1990; Gray, 1990; Hedberg
and Jonsson, 1978; Kloot, 1997; Staw and Boettger, 1990),
whereas other arguments indicate that MCS can promote
creativity and innovation and thus facilitate learning
(Chenhall, 2005; Henri, 2006; Kaplan and Norton, 1996b;
Neely and Al-Najjar, 2006). This study provides a possible
explanation for these conflicting arguments by considering considering
specifically the particular characteristics of MCS that
are expected to help or hinder the learning process.
The remainder of the paper is structured in four sections:
the next section provides the theoretical framework
for the study. The research method, including sample selection
and variable measurement, is then presented. This
is followed by an analysis of the data using partial least
squares regression analysis. The final section discusses the
results and implications, outlines the limitations, and suggests
avenues for future research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โดยการสำรวจลักษณะของ MCS ครอบคลุมวิธีที่สามPMS เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้ การศึกษาตอบสนองต่อเรียกการตรวจสอบคุณลักษณะเฉพาะของมีผลต่อการอนุรักษ์เรียนรู้ (Otley, 1999 โล่ 1997) นี้เป็นสิ่งสำคัญเป็นงานวิจัยก่อนหน้านี้แสดงภาพผสม มีหนึ่งบรรทัดอาร์กิวเมนต์ที่บอกว่า MCS สามารถเป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้กระบวนการ (Argyris, 1977, 1990 สีเทา 1990 Hedbergและ Jonsson, 1978 Kloot, 1997 Staw และ Boettger, 1990),ในขณะที่อาร์กิวเมนต์อื่น ๆ บ่งชี้ว่า สามารถการส่งเสริมการอนุรักษ์ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม และการเรียนรู้ที่อำนวยความสะดวกดัง(Chenhall, 2005 Henri, 2006 Kaplan และ Norton, 1996bNeely และ Al-Najjar, 2006) การศึกษานี้ให้เป็นไปได้คำอธิบายสำหรับอาร์กิวเมนต์เหล่านี้ขัดแย้งกันโดยพิจารณาพิจารณาโดยเฉพาะลักษณะเฉพาะของ MCS ที่จะต้องช่วย หรือเป็นอุปสรรคต่อกระบวนการเรียนรู้ส่วนเหลือของกระดาษที่มีโครงสร้างในส่วนที่สี่:ส่วนถัดไปมีกรอบทฤษฎีสำหรับการศึกษา วิธีวิจัย รวมถึงการเลือกตัวอย่างแล้วมีการนำเสนอตัวแปรการวัด นี้ตาม ด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้บางส่วนอย่างน้อยการวิเคราะห์การถดถอยสี่เหลี่ยม ส่วนสุดท้ายกล่าวถึงการผลลัพธ์และผลกระทบ สรุปข้อจำกัด และแนะนำลู่ทางสำหรับงานวิจัยในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ประการที่สามโดยการสำรวจวิธีการที่ลักษณะของ MCS ครอบคลุม
PMS, ที่เกี่ยวข้องกับการเรียนรู้การศึกษาตอบสนองต่อการ
เรียกร้องให้มีการตรวจสอบวิธีการเฉพาะคุณลักษณะของ MCS ส่งผลกระทบต่อ
การเรียนรู้ (Otley 1999; โล่ 1997) นี้เป็นสิ่งสำคัญ
เป็นงานวิจัยก่อนให้ภาพที่ผสมกับเส้นหนึ่ง
ของการโต้แย้งบอกว่า MCS สามารถขัดขวางการเรียนรู้
กระบวนการ (Argyris 1977, 1990; สีเทา, 1990; Hedberg
และจอนส์ 1978; Kloot, 1997; Staw และ Boettger 1990 )
ในขณะที่การขัดแย้งอื่น ๆ ระบุว่า MCS สามารถส่งเสริม
ความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรมและจึงอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้
(Chenhall 2005; อองรี 2006 Kaplan และ Norton, 1996b;
นีลีและอัล Najjar, 2006) การศึกษาครั้งนี้ยังมีความเป็นไปได้
คำอธิบายสำหรับข้อโต้แย้งที่ขัดแย้งกันเหล่านี้โดยการพิจารณาพิจารณา
เฉพาะลักษณะเฉพาะของ MCS ที่
คาดว่าจะช่วยหรือขัดขวางกระบวนการเรียนรู้.
ส่วนที่เหลือของกระดาษที่มีโครงสร้างในสี่ส่วน:
ส่วนถัดไปให้กรอบทฤษฎี
สำหรับ ศึกษา. วิธีการวิจัยรวมถึงการเลือกตัวอย่าง
และการวัดตัวแปรที่จะนำเสนอแล้ว นี้
จะตามด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้อย่างน้อยบางส่วน
วิเคราะห์ถดถอย ส่วนสุดท้ายกล่าวถึง
ผลลัพธ์และผลกระทบเค้าร่างข้อ จำกัด และแสดงให้เห็น
ลู่ทางสำหรับการวิจัยในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สาม โดยการสำรวจวิธีการที่ครอบคลุมลักษณะของ MCSPMS , เกี่ยวข้องกับการตอบสนองต่อการเรียนรู้โทรไปตรวจสอบวิธีที่เฉพาะเจาะจงคุณลักษณะของ MCS มีผลต่อการเรียนรู้ ( otley , 1999 ; เกราะ , 1997 ) นี้เป็นสำคัญการวิจัยก่อนให้ภาพผสมกับหนึ่งบรรทัดของการโต้แย้งว่า MCS สามารถขัดขวางการเรียนรู้กระบวนการ ( กีริส , 1977 , 1990 ; สีเทา , 1990 ; hedbergและ จอนสัน , 1978 ; kloot , 1997 ; staw กับโบตเกอร์ , 2533 )ส่วนข้อโต้แย้งอื่น ๆบ่งชี้ว่า พิธีกร สามารถส่งเสริมความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม และดังนั้นจึง ช่วยการเรียนรู้( chenhall , 2005 ; อองรี , 2006 ; Kaplan และ Norton , 1996b ;นีลี่และอัล najjar , 2006 ) การศึกษานี้ มีที่สุดคำอธิบายสำหรับอาร์กิวเมนต์เหล่านี้ขัดแย้งกัน โดยพิจารณา พิจารณาโดยเฉพาะลักษณะของสัญญาว่าคาดว่าจะช่วยหรือขัดขวางการเรียนรู้ส่วนที่เหลือของกระดาษที่เป็นโครงสร้างในสี่ส่วนส่วนถัดไปมีกรอบเชิงทฤษฎีสำหรับการศึกษา วิธีการวิจัย รวมทั้งการเลือกตัวอย่างและการวัดตัวแปร แล้วนำเสนอ นี้ตามด้วยการวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้อย่างน้อยบางส่วนสี่เหลี่ยม การวิเคราะห์การถดถอย ส่วนที่กล่าวถึงผลลัพธ์และผลกระทบ สรุป และเสนอแนะข้อจํากัดลู่ทางสำหรับการวิจัยในอนาคต