In previous research, Saffran and c

In previous research, Saffran and colleagues [Saffran, J. R., Aslin, R. N., & Newport, E. L. (1996). Statistical learning by 8-month-old infants. Science, 274, 1926–1928; Saffran, J. R., Newport, E. L., & Aslin, R. N. (1996). Word segmentation: The role of distributional cues. Journal of Memory and Language, 35, 606–621.] have shown that adults and infants can use the statistical properties of syllable sequences to extract words from continuous speech. They also showed that a similar learning mechanism operates with musical stimuli [Saffran, J. R., Johnson, R. E. K., Aslin, N., & Newport, E. L. (1999). Abstract Statistical learning of tone sequences by human infants and adults. Cognition, 70, 27–52.]. In this work we combined linguistic and musical information and we compared language learning based on speech sequences to language learning based on sung sequences. We hypothesized that, compared to speech sequences, a consistent mapping of linguistic and musical information would enhance learning. Results confirmed the hypothesis showing a strong learning facilitation of song compared to speech. Most importantly, the present results show that learning a new language, especially in the first learning phase wherein one needs to segment new words, may largely benefit of the motivational and structuring properties of music in song.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในการวิจัยก่อนหน้านี้ Saffran และเพื่อนร่วมงาน [Saffran, J. R., Aslin, R. N. และนิ วพอร์ต E. L. (1996) สถิติการเรียนรู้ โดยทารกอายุ 8 เดือน วิทยาศาสตร์ 274, 1926-1928 Saffran, J. R. นิวพอร์ท E. L. และ Aslin, R. N. (1996) คำแบ่ง: บทบาทของสัญลักษณ์ขึ้น สมุดรายวันของหน่วยความจำและภาษา 35, 606 – 621] ได้แสดงว่า ผู้ใหญ่และทารกสามารถใช้คุณสมบัติทางสถิติของเสียงลำดับการแยกคำจากเสียงที่ต่อเนื่อง พวกเขายังแสดงให้เห็นว่า กลไกการเรียนรู้คล้ายคลึงกันทำงานกับดนตรีสิ่งเร้า [Saffran, J. R., Johnson, R. E. k. Aslin, N. และนิ วพอร์ต E. L. (1999) นามธรรมเรียนสถิติลำดับเสียงโดยมนุษย์ทารกและผู้ใหญ่ ความรู้ความเข้าใจ 70, 27 – 52] ในงานนี้ เรารวมข้อมูลภาษา และดนตรี และเราเปรียบเทียบการเรียนรู้ภาษาตามลำดับการพูดการเรียนรู้ภาษาตามลำดับสูง เราตั้งสมมติฐานที่ เมื่อเทียบกับลำดับการพูด การแมปที่สอดคล้องกันของข้อมูลภาษา และดนตรีจะเพิ่มการเรียนรู้ ผลยืนยันสมมติฐานแสดงอำนวยการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งเมื่อเทียบกับเสียงเพลง สำคัญที่สุดคือ ผลอยู่แสดงว่า การเรียนภาษาใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะแรกการเรียนรู้นั้นหนึ่งต้องการเซ็กเมนต์ใหม่คำ อาจส่วนใหญ่ได้รับประโยชน์ที่สร้างแรงบันดาลใจและเป็นคุณสมบัติของเพลงในเพลง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ในงานวิจัยก่อนหน้านี้ Saffran และเพื่อนร่วมงาน [Saffran จูเนียร์, Aslin, RN, และนิวพอร์ต EL (1996) การเรียนรู้ทางสถิติโดยทารก 8 เดือนเก่า วิทยาศาสตร์ 274, 1926-1928; Saffran จูเนียร์, นิวพอร์ต, EL และ Aslin, RN (1996) การแบ่งส่วนคำ: บทบาทของตัวชี้นำกระจาย วารสารหน่วยความจำและภาษา, 35, 606-621.] ได้แสดงให้เห็นว่าผู้ใหญ่และทารกสามารถใช้คุณสมบัติทางสถิติของลำดับพยางค์ที่จะดึงคำจากคำพูดต่อเนื่อง พวกเขายังแสดงให้เห็นว่ากลไกการเรียนรู้ที่คล้ายกันทำงานกับสิ่งเร้าดนตรี [Saffran จูเนียร์, จอห์นสัน REK, Aslin เอ็นและนิวพอร์ต EL (1999) การเรียนรู้ที่เป็นนามธรรมทางสถิติของลำดับเสียงโดยทารกมนุษย์และผู้ใหญ่ ความรู้ความเข้าใจ, 70, 27-52.] ในงานนี้เรารวมข้อมูลภาษาและดนตรีเราเมื่อเทียบกับการเรียนรู้ภาษาขึ้นอยู่กับลำดับการพูดเพื่อการเรียนรู้ภาษาขึ้นอยู่กับลำดับการร้อง เราตั้งสมมติฐานว่าเมื่อเทียบกับลำดับการพูดการทำแผนที่ข้อมูลที่สอดคล้องกันของภาษาและดนตรีจะส่งเสริมการเรียนรู้ ผลยืนยันสมมติฐานแสดงการอำนวยความสะดวกในการเรียนรู้ที่แข็งแกร่งของเพลงเมื่อเทียบกับการพูด สิ่งสำคัญที่สุดคือผลในปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าการเรียนรู้ภาษาใหม่โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระยะแรกการเรียนรู้นั้นหนึ่งต้องส่วนคำใหม่อาจได้รับประโยชน์ส่วนใหญ่ของคุณสมบัติและโครงสร้างสร้างแรงบันดาลใจของเพลงในเพลง