where Rbefore, Rafter and Rnew are

where Rbefore, Rafter and Rnew are the resistances (m1) before and
after cleaning of the membrane and of the new membrane,
respectively.
The results (data not shown) indicate that the cleaning efficiency reached 24% at an N2 flow rate of 20 L/h, which was inferior
to the efficiency obtained at a flow rate of 40 L/h (36%). Increasing
the gas flow rate caused a more intense shock effect on the gel
layer formed at membrane surface, which resulted in a higher
cleaning efficiency. However, the increase in the cleaning efficiency
decreased (36–46%) when the flow rate was increased from 40 to
80 L/h. This behavior was primarily caused by the adherence of
the residual foulant in the membrane pores, which was difficult
to flush. In addition, the cleaning efficiency increased rapidly within the first 20 min and gradually stabilized at a certain value in the
following 40 min. Hence, considering the energy conservation, the
optimum N2 flushing mode was determined to be a 40 L/h N2 flow
rate with a 20-min cleaning phase.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Rbefore เบด และ Rnew ทาน (m 1) ก่อน และหลังจากทำความสะอาดเยื่อ และ เยื่อใหม่ตามลำดับผลลัพธ์ (ข้อมูลไม่แสดง) ระบุว่า ประสิทธิภาพการทำความสะอาดถึง 24% ที่อัตราการไหล N2 20 L/h ซึ่งมีน้อยเพื่อประสิทธิภาพที่ได้รับในอัตราไหล 40 L/h (36%) เพิ่มขึ้นอัตราการไหลของก๊าซเกิดผลช็อกรุนแรงมากขึ้นเจเกิดขึ้นที่พื้นผิวเมมเบรน ซึ่งส่งผลให้ความสูงของชั้นทำความสะอาดอย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม การเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพการทำความสะอาดลด (36-46%) เมื่ออัตราการไหลเพิ่มขึ้นจาก 40 ไป80 L/h ลักษณะเช่นนี้ได้ถูกสาเหตุหลักต่าง ๆ ของfoulant ตกค้างในรูขุมขน เมมเบรนซึ่งเป็นเรื่องที่ยากล้าง นอกจากนี้ ประสิทธิภาพการทำความสะอาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 20 นาทีแรก และค่อย ๆ เสถียรที่ค่าในการต่อ 40 นาทีดังนั้น อนุรักษ์พลังงาน การพิจารณาการกำหนดโหมดการลบ N2 เหมาะสมจะ เป็น 40 L/h ไหล N2อัตราการระยะซัก 20 นาที

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ที่ Rbefore แพและ Rnew มีความต้านทาน (m? 1) ก่อนและหลังการทำความสะอาดของเยื่อหุ้มเซลล์และเยื่อหุ้มเซลล์ใหม่ตามลำดับ. ผล (ไม่ได้แสดงข้อมูล) แสดงให้เห็นว่าประสิทธิภาพการทำความสะอาดถึง 24% ที่อัตราการไหล N2 ของ 20 ลิตร / ชั่วโมงซึ่งเป็นที่ด้อยกว่าให้มีประสิทธิภาพที่ได้รับในอัตราการไหล40 ลิตร / ชั่วโมง (36%) การเพิ่มขึ้นของอัตราการไหลของก๊าซที่เกิดจากผลกระทบที่รุนแรงมากขึ้นช็อตในเจลชั้นที่เกิดขึ้นที่พื้นผิวเมมเบรนซึ่งมีผลในที่สูงขึ้นประสิทธิภาพการทำความสะอาด อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพการทำความสะอาดที่ลดลง (36-46%) เมื่ออัตราการไหลเพิ่มขึ้นที่จะ 40 จาก 80 ลิตร / ชั่วโมง ลักษณะการทำงานนี้มีสาเหตุหลักมาจากการยึดมั่นของfoulant ตกค้างในรูขุมขนเมมเบรนซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะล้าง นอกจากนี้ประสิทธิภาพการทำความสะอาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วภายใน 20 นาทีแรกและค่อยๆมีความเสถียรที่ค่าบางอย่างในต่อไปนี้40 นาที ดังนั้นการพิจารณาการอนุรักษ์พลังงานที่เหมาะสมโหมดล้าง N2 มุ่งมั่นจะเป็น 40 ลิตร / ชั่วโมงการไหล N2 อัตราที่มีขั้นตอนการทำความสะอาด 20 นาที

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่ rbefore ตะเข้ rnew , และมีความต้านทาน ( M  1 ) ก่อนและหลังการทำความสะอาด
ของเยื่อและเยื่อใหม่

ผลตามลำดับ ( ข้อมูลไม่แสดง ) พบว่า ประสิทธิภาพการทําความสะอาดถึง 24 % ที่อัตราการไหล 2 ลิตร / ชั่วโมง ซึ่งด้อยกว่า
ไปประสิทธิภาพที่ได้รับอัตรา 40 L / H ( 36% ) เพิ่ม
ที่อัตราการไหลของแก๊สทำให้เกิดแรงกว่าช็อตต่อเจล
ชั้นที่เกิดที่ผิวเมมเบรน ซึ่งส่งผลให้เกิดสูงกว่า
ประสิทธิภาพการทําความสะอาด อย่างไรก็ตาม การเพิ่มประสิทธิภาพการทําความสะอาด
( 36 ) ลดลง 46% เมื่ออัตราการไหลเพิ่มขึ้นจาก 40 ถึง 80 L / H .
พฤติกรรมนี้ส่วนใหญ่เกิดจากการ
foulant ตกค้างในเยื่อบุรูขุมขนซึ่งยาก
กดชักโครกนอกจากนี้ ประสิทธิภาพการทําความสะอาดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ภายใน 20 นาที และค่อย ๆ เสถียรที่ค่าบางอย่างใน
ต่อไปนี้ 40 นาที ดังนั้น เมื่อพิจารณาจากการอนุรักษ์พลังงาน ที่ ฟลัชชิ่งโหมด N2
ถูกกำหนดให้เป็น 40 L / H 2 ไหล
เท่ากันกับ 20 นาทีซักระยะ