การที่เราเล่นโซเชียลมีเดียน้อยลงนั่

การที่เราเล่นโซเชียลมีเดียน้อยลงนั่นไม่ได้ทำให้ฟ้าถล่ม โลกพังทลายลง เพียงแต่ว่าคุณจะมีชีวิตที่แตกต่างและเป็นไปในทางที่ดีขึ้น

1. คุณจะรู้สึกมีความสุขขึ้นกับการใช้ชีวิต
โซเชียลมีเดีย ทำให้คุณเห็นชีวิตความเป็นไปของแต่ละคน การงานเพื่อนฝูง สถานที่เที่ยว อาหารการกิน ปาร์ตี้ และชีวิตที่แต่ละคนต้องการโพสต์ออกสื่อว่าตัวเองมีชีวิตที่สนุกสนาน คุณอาจไม่ได้คิดอะไร แต่บางทีคุณอาจรู้สึกเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่น ซึ่งจริง ๆ แล้วความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกัน และคนเราก็อยู่ในสภาพแวดล้อมและปัจจัยที่แตกต่างกัน การห่างจากโซเชียลมีเดียทำให้ชีวิตคุณมีความสุขขึ้นในแบบที่คุณเป็นจริง ๆ

2. คุณจะเป็นคนมีประสิทธิภาพมากขึ้น
การที่คุณเลื่อนดูหน้าเฟสบุ๊ค อินสตาแกรม และโซเชียลมีเดียอื่น ๆ ทำให้คุณเพลิดเพลินและเสียเวลากับมันโดยไม่รู้ตัว การอยู่แต่หน้าจอทำให้คุณงานไม่เดิน และทำให้คุณสูญเสียความเป็นตัวเองมากขึ้น ไกลความฝันมากขึ้น โดยเฉพาะในเวลาทำงานคุณจะไม่ต้องพะวงว่ามีใครทักแชทหรือ Message หาคุณ ถ้าใครคนนั้นต้องการติดต่อคุณจริง ๆ พวกเขาควรโทรมาหาคุณ คุณควรวางแผนที่จะเล่นโซเชียลมีเดียทุกสองชั่วโมง และไม่ควรเกิน 15 นาทีต่อครั้ง

3. คุณจะรู้สึกซาบซึ้งในชีวิต
การที่คุณเลิกโซเชียลมีเดีย จะทำให้คุณเห็นความจริงของโลกมากขึ้น คุณจะรู้สึกพอใจกับชีวิตของคุณ ไม่มีการอิจฉาชีวิตของคนอื่นที่โพสต์ลงในโลกออนไลน์ คุณจะรู้สึกว่าชีวิตคุณก็เจ๋งได้ และคุณก็มีความสุขกับการใช้ชีวิต กินอาหารข้างทางที่คุณชอบ ไปเดินช็อปปิ้งตลาดนัดแถวบ้าน โดยไม่ต้องแคร์สื่อหรือสังคม หรือรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า เมื่อเห็นเพื่อนเช็คอินร้านอาหารหรู และเดินพารากอน คุณจะมองเห็นสังคมไทยในชีวิตจริงมากกว่าในโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็น เด็กขายพวงมาลัย คนแก่ถูกทิ้ง ขอทาน และอื่น ๆ

4. คุณจะเป็นคนที่มีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างดีขึ้น
โซเชียลมีเดียเหมือนจะทำให้คุณกับครอบครัว และเพื่อน ๆ ติดต่อกันมากขึ้น แต่คุณเคยสังเกตตัวเองไหมว่า กี่ครั้งที่คุณหลุดเข้าไปอยู่ในจอแห่งโลกออนไลน์แล้วทำให้คุณเลิกสนใจคนรอบข้าง บ่อยแค่ไหนที่คุณก้มกดหน้าจอมือถือ แท็บเล็ตไปมาแต่ไม่ได้เงยหน้ามองคนที่อยู่ข้างๆคุณ การที่คุณหลุดจากวงจรของโลกออนไลน์ได้ทำให้คุณใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้นและมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น จากการพูดหรือการสัมผัสกัน

5. คุณจะเห็นความสวยงามของโลกใบนี้มากขึ้น
การที่คุณใช้เวลามองโลกแห่งความเป็นจริงมากกว่ามองจอ คุณจะเห็นท้องฟ้า นก พระอาทิตย์ตกหรือสิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รอบตัวคุณ และคุณจะเห็นมุมมองที่กว้างขึ้น ความเชื่อมโยงของธรรมชาติ มากกว่าหน้าจอเล็ก ๆ ที่มีการปรุงแต่งภาพมาไว้ให้คุณมอง ความสวยงามแบบธรรมชาติถึงแม้จะไม่มีสีสันสวยเท่ากับการมองผ่านจอในโลกออนไลน์ แต่มันก็เป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่คุณสัมผัสได้ ณ ตอนนั้น

6. คุณจะมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้น
เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณสนใจแต่โซเชียลมีเดีย สมองของคุณจะถูกบล็อกให้รับแต่เนื้อหาและภาพในนั้น ทำให้คุณถูกตัดขาดจากโลกภายนอกและกลายเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์น้อยลง แต่ถ้าคุณเลิกเล่นโซเชียลมีเดีย คุณจะเป็นคนที่มีความคิดนอกกรอบมากขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น บางทีคุณอาจเรียนรู้วิธีการหาเงินจากสิ่งรอบตัวมีมุมมองใหม่ ๆ ก็ได้

7. คุณจะฉลาดและเก่งขึ้น
ถ้าคุณได้ล็อกเอาท์จากโซเชียลมีเดีย คุณจะได้ล็อกอินกับการใช้ชีวิตมากขึ้นคุณจะมีเวลาเหลือและทำในสิ่งที่มีประโยชน์กับชีวิต เช่น การอ่านหนังสือ การทำสมาธิ เข้าคอร์สเรียนภาษา การออกกำลังกาย คุณจะได้ลงมือทำอย่างจริงจัง แทนที่จะขึ้นสเตตัสในโซเชียลมีเดียว่ามีเวลาไม่พอ ทั้งที่จริงๆแล้วคุณเอาเวลาเล่นอินเตอร์เน็ตไปทำก็ได้ และการที่คุณเอาเวลาไปทำสิ่งเหล่านั้น ก็ทำให้ชีวิตคุณได้พัฒนาในทุกๆด้าน

8. คุณจะเป็นคนมีอนาคตมากขึ้น
อนาคตที่สดใสเริ่มจากปัจจุบัน การที่คุณมีนิสัยและ Lifestyle ที่ดีมันจะส่งผลต่อชีวิตคุณให้ดีขึ้นเรื่อย ๆ ในอนาคต คุณอาจยังไม่เห็นสิ่งที่คุณทำตอนนี้แค่ถ้าเวลาผ่านไป คุณจะไม่เสียใจเลยกับการที่คุณเลิกติดโซเชียลมีเดีย การที่คุณลงมือทำตามความฝัน อย่างจริงจัง จะทำให้ชีวิตคุณใกล้ถึงเป้าหมายและประสบความสำเร็จเร็วขึ้น มากกว่าวิ่งตามหรือดูชีวิตคนอื่นในโซเชียล เน็ตเวิร์ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การที่เราเล่นโซเชียลมีเดียน้อยลงนั่นไม่ได้ทำให้ฟ้าถล่มโลกพังทลายลงเพียงแต่ว่าคุณจะมีชีวิตที่แตกต่างและเป็นไปในทางที่ดีขึ้น1. คุณจะรู้สึกมีความสุขขึ้นกับการใช้ชีวิตโซเชียลมีเดียทำให้คุณเห็นชีวิตความเป็นไปของแต่ละคนการงานเพื่อนฝูงสถานที่เที่ยวอาหารการกินปาร์ตี้และชีวิตที่แต่ละคนต้องการโพสต์ออกสื่อว่าตัวเองมีชีวิตที่สนุกสนานคุณอาจไม่ได้คิดอะไรแต่บางทีคุณอาจรู้สึกเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่นซึ่งจริงๆ แล้วความสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกันและคนเราก็อยู่ในสภาพแวดล้อมและปัจจัยที่แตกต่างกันการห่างจากโซเชียลมีเดียทำให้ชีวิตคุณมีความสุขขึ้นในแบบที่คุณเป็นจริงๆ2. คุณจะเป็นคนมีประสิทธิภาพมากขึ้นการที่คุณเลื่อนดูหน้าเฟสบุ๊คอินสตาแกรมและโซเชียลมีเดียอื่นๆ ทำให้คุณเพลิดเพลินและเสียเวลากับมันโดยไม่รู้ตัวการอยู่แต่หน้าจอทำให้คุณงานไม่เดินและทำให้คุณสูญเสียความเป็นตัวเองมากขึ้นไกลความฝันมากขึ้นโดยเฉพาะในเวลาทำงานคุณจะไม่ต้องพะวงว่ามีใครทักแชทหรือข้อหาคุณถ้าใครคนนั้นต้องการติดต่อคุณจริงๆ พวกเขาควรโทรมาหาคุณคุณควรวางแผนที่จะเล่นโซเชียลมีเดียทุกสองชั่วโมงและไม่ควรเกิน 15 นาทีต่อครั้ง3. คุณจะรู้สึกซาบซึ้งในชีวิตการที่คุณเลิกโซเชียลมีเดียจะทำให้คุณเห็นความจริงของโลกมากขึ้นคุณจะรู้สึกพอใจกับชีวิตของคุณไม่มีการอิจฉาชีวิตของคนอื่นที่โพสต์ลงในโลกออนไลน์คุณจะรู้สึกว่าชีวิตคุณก็เจ๋งได้และคุณก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตกินอาหารข้างทางที่คุณชอบไปเดินช็อปปิ้งตลาดนัดแถวบ้านโดยไม่ต้องแคร์สื่อหรือสังคมหรือรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าเมื่อเห็นเพื่อนเช็คอินร้านอาหารหรูและเดินพารากอนคุณจะมองเห็นสังคมไทยในชีวิตจริงมากกว่าในโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นเด็กขายพวงมาลัยคนแก่ถูกทิ้งขอทานและอื่นๆ4. คุณจะเป็นคนที่มีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างดีขึ้นโซเชียลมีเดียเหมือนจะทำให้คุณกับครอบครัว และเพื่อน ๆ ติดต่อกันมากขึ้น แต่คุณเคยสังเกตตัวเองไหมว่า กี่ครั้งที่คุณหลุดเข้าไปอยู่ในจอแห่งโลกออนไลน์แล้วทำให้คุณเลิกสนใจคนรอบข้าง บ่อยแค่ไหนที่คุณก้มกดหน้าจอมือถือ แท็บเล็ตไปมาแต่ไม่ได้เงยหน้ามองคนที่อยู่ข้างๆคุณ การที่คุณหลุดจากวงจรของโลกออนไลน์ได้ทำให้คุณใส่ใจคนรอบข้างมากขึ้นและมีความสัมพันธ์ที่ดีขึ้น จากการพูดหรือการสัมผัสกัน5. คุณจะเห็นความสวยงามของโลกใบนี้มากขึ้นการที่คุณใช้เวลามองโลกแห่งความเป็นจริงมากกว่ามองจอคุณจะเห็นท้องฟ้าอังกฤษพระอาทิตย์ตกหรือสิ่งแวดล้อมต่างๆ รอบตัวคุณและคุณจะเห็นมุมมองที่กว้างขึ้นความเชื่อมโยงของธรรมชาติมากกว่าหน้าจอเล็กๆ ที่มีการปรุงแต่งภาพมาไว้ให้คุณมองความสวยงามแบบธรรมชาติถึงแม้จะไม่มีสีสันสวยเท่ากับการมองผ่านจอในโลกออนไลน์แต่มันก็เป็นธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่คุณสัมผัสได้ณตอนนั้น6. คุณจะมีความคิดสร้างสรรค์มากขึ้นเมื่อไหร่ก็ตามที่คุณสนใจแต่โซเชียลมีเดียสมองของคุณจะถูกบล็อกให้รับแต่เนื้อหาและภาพในนั้นทำให้คุณถูกตัดขาดจากโลกภายนอกและกลายเป็นคนที่มีความคิดสร้างสรรค์น้อยลงแต่ถ้าคุณเลิกเล่นโซเชียลมีเดียคุณจะเป็นคนที่มีความคิดนอกกรอบมากขึ้นและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นบางทีคุณอาจเรียนรู้วิธีการหาเงินจากสิ่งรอบตัวมีมุมมองใหม่ๆ ก็ได้7. คุณจะฉลาดและเก่งขึ้นถ้าคุณได้ล็อกเอาท์จากโซเชียลมีเดีย คุณจะได้ล็อกอินกับการใช้ชีวิตมากขึ้นคุณจะมีเวลาเหลือและทำในสิ่งที่มีประโยชน์กับชีวิต เช่น การอ่านหนังสือ การทำสมาธิ เข้าคอร์สเรียนภาษา การออกกำลังกาย คุณจะได้ลงมือทำอย่างจริงจัง แทนที่จะขึ้นสเตตัสในโซเชียลมีเดียว่ามีเวลาไม่พอ ทั้งที่จริงๆแล้วคุณเอาเวลาเล่นอินเตอร์เน็ตไปทำก็ได้ และการที่คุณเอาเวลาไปทำสิ่งเหล่านั้น ก็ทำให้ชีวิตคุณได้พัฒนาในทุกๆด้าน8. คุณจะเป็นคนมีอนาคตมากขึ้นอนาคตที่สดใสเริ่มจากปัจจุบันการที่คุณมีนิสัยและไลฟ์สไตล์ที่ดีมันจะส่งผลต่อชีวิตคุณให้ดีขึ้นเรื่อยๆ ในอนาคตคุณอาจยังไม่เห็นสิ่งที่คุณทำตอนนี้แค่ถ้าเวลาผ่านไปคุณจะไม่เสียใจเลยกับการที่คุณเลิกติดโซเชียลมีเดียการที่คุณลงมือทำตามความฝันอย่างจริงจังจะทำให้ชีวิตคุณใกล้ถึงเป้าหมายและประสบความสำเร็จเร็วขึ้นมากกว่าวิ่งตามหรือดูชีวิตคนอื่นในโซเชียลเน็ตเวิร์ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โลกพังทลายลง การงานเพื่อนฝูงสถานที่เที่ยวอาหารการ กินปาร์ตี้ คุณอาจไม่ได้คิดอะไร ซึ่งจริง ๆ แล้วความสุขของแต่ละ คนไม่เหมือนกัน ๆ2 อินสตาแกรมและโซเชีย ลมีเดียอื่น ๆ ไกลความฝันมากขึ้น ข้อความหาคุณถ้าใครคนนั้นต้องการติดต่อ คุณจริง ๆ พวกเขาควรโทรมาหาคุณ และไม่ควรเกิน 15 นาทีต่อครั้ง3 คุณจะรู้สึกพอใจกับชีวิตของคุณ คุณจะรู้สึกว่าชีวิตคุณก็เจ๋ง ได้และคุณก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตกินอาหารข้างทางที่คุณชอบไปเดินช็อปปิ้งตลาดนัดแถวบ้านโดยไม่ต้องแคร์สื่อหรือสังคมหรือรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่า และเดินพารากอน เด็กขายพวงมาลัยคนแก่ถูกทิ้งขอทาน และอื่น ๆ 4 และเพื่อน ๆ ติดต่อกันมากขึ้น แต่ คุณเคยสังเกตตัวเองไหมว่า บ่อยแค่ไหนที่คุณก้มกดหน้า จอมือถือ จากการพูดหรือการสัมผัสกัน5 คุณจะเห็นท้องฟ้านกพระอาทิตย์ตกหรือ สิ่งแวดล้อมต่าง ๆ รอบตัวคุณและคุณจะเห็นมุมมองที่กว้างขึ้นความเชื่อมโยงของธรรมชาติมากกว่าหน้าจอเล็ก ๆ ที่มีการปรุงแต่งภาพมาไว้ให้คุณมอง ณ ตอนนั้น6 แต่ถ้าคุณเลิกเล่นโซเชียล มีเดีย ๆ ก็ได้7 เช่นการอ่านหนังสือการทำสมาธิเข้า คอร์สเรียนภาษาการออกกำลังกายคุณจะได้ลงมือทำอย่างจริงจัง การที่คุณมีนิสัยและไลฟ์สไตล์ ๆ ในอนาคต การที่คุณลงมือทำตามความฝัน อย่างจริงจัง เน็ตเวิร์ก

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การที่เราเล่นโซเชียลมีเดียน้อยลงนั่นไม่ได้ทำให้ฟ้าถล่มโลกพังทลายลงเพียงแต่ว่าคุณจะมีชีวิตที่แตกต่างและเป็นไปในทางที่ดีขึ้น1 . คุณจะรู้สึกมีความสุขขึ้นกับการใช้ชีวิตโซเชียลมีเดียทำให้คุณเห็นชีวิตความเป็นไปของแต่ละคนการงานเพื่อนฝูงสถานที่เที่ยวอาหารการกินปาร์ตี้และชีวิตที่แต่ละคนต้องการโพสต์ออกสื่อว่าตัวเองมีชีวิตที่สนุกสนานคุณอาจไม่ได้คิดอะไรแต่บางทีคุณอาจรู้สึกเปรียบเทียบชีวิตตัวเองกับคนอื่นซึ่งจริงจะแล้วควา มสุขของแต่ละคนไม่เหมือนกันและคนเราก็อยู่ในสภาพแวดล้อมและปัจจัยที่แตกต่างกันการห่างจากโซเชียลมีเดียทำให้ชีวิตคุณมีความสุขขึ้นในแบบที่คุณเป็นจริงไม่มี2 . คุณจะเป็นคนมีประสิทธิภาพมากขึ้นการที่คุณเลื่อนดูหน้าเฟสบุ๊คอินสตาแกรมและโซเชียลมีเดียอื่นจะทำให้คุณเพลิดเพลินและเสียเวลากับมันโดยไม่รู้ตัวการอยู่แต่หน้าจอทำให้คุณงานไม่เดินและทำให้คุณสูญเสียความเป็นตัวเองมากขึ้นไกลความฝันมากขึ้นโดยเฉพาะในเวลาทำงานคุณจะไม่ต้องพะวงว่ามีใครทักแชทหร ือข้อความหาคุณถ้าใครคนนั้นต้องการติดต่อคุณจริงจะพวกเขาควรโทรมาหาคุณคุณควรวางแผนที่จะเล่นโซเชียลมีเดียทุกสองชั่วโมงและไม่ควรเกิน 15 นาทีต่อครั้ง3 . คุณจะรู้สึกซาบซึ้งในชีวิตการที่คุณเลิกโซเชียลมีเดียจะทำให้คุณเห็นความจริงของโลกมากขึ้นคุณจะรู้สึกพอใจกับชีวิตของคุณไม่มีการอิจฉาชีวิตของคนอื่นที่โพสต์ลงในโลกออนไลน์คุณจะรู้สึกว่าชีวิตคุณก็เจ๋งได้และคุณก็มีความสุขกับการใช้ชีวิตกินอาหารข้างทางที่คุณชอบไปเดินช็อปปิ้งตลาดนัดแ ถวบ้านโดยไม่ต้องแคร์สื่อหรือสังคมหรือรู้สึกว่าตัวเองด้อยค่าเมื่อเห็นเพื่อนเช็คอินร้านอาหารหรูและเดินพารากอนคุณจะมองเห็นสังคมไทยในชีวิตจริงมากกว่าในโลกออนไลน์ไม่ว่าจะเป็นเด็กขายพวงมาลัยคนแก่ถูกทิ้งขอทานและอื่นไม่มี4 . คุณจะเป็นคนที่มีความสัมพันธ์กับคนรอบข้างดีขึ้นโซเชียลมีเดียเหมือนจะทำให้คุณกับครอบครัวและเพื่อนจะติดต่อกันมากขึ้นแต่คุณเคยสังเกตตัวเองไหมว่ากี่ครั้งที่คุณหลุดเข้าไปอยู่ในจอแห่งโลกออนไลน์แล้วทำให้คุณ