The purpose of the study was to inv

The purpose of the study was to investigate placebo and buprenorphine effects on event-related potentials (ERPs) in
experimental pain and the potential benefit of population pharmacodynamic modelling in data analysis. Nineteen healthy volunteers
received transdermal placebo and buprenorphine in a cross-over study. Drug plasma concentrations and ERPs after electrical
stimulation at the median nerve with intensity adjusted to pain detection threshold were recorded until 144 hrs after administration.
Placebo and concentration-effect models were fitted to data using non-linear mixed-effects modelling implemented in NONMEM
(V7.2.0.). Pharmacodynamic models were developed to adequately describe both placebo and buprenorphine ERP data.
Models predicted significant placebo effects, but did not predict significant effects related to buprenorphine concentration. Models
revealed that ERPs varied both between subjects and between study occasions. ERPs were found to be reproducible within
subjects and occasions as population variance was found to be eight times higher than the unexplained variances. Between-subject
variance accounted for more than 75% of the population variance. In conclusion, pharmacodynamic modelling was successfully
implemented to allow for placebo and variability correction in ERP of experimental pain. Improved outcome of ERP
studies can be expected if variation between subjects and study occasions can be identified and described

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วัตถุประสงค์ของการศึกษาคือการ ตรวจสอบผลยาหลอกและสะบ้าเคลื่อนศักยภาพที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ (ERPs) ในอาการปวดที่ทดลองและประโยชน์ศักยภาพของประชากร pharmacodynamic แบบจำลองในการวิเคราะห์ข้อมูล อาสาสมัครสุขภาพทส่วนtransdermal ได้รับยาหลอกและสะบ้าเคลื่อนในการศึกษามากกว่าขน ยาความเข้มข้นของพลาสมาและ ERPs หลังจากไฟฟ้าบันทึกกระตุ้นที่เส้นประสาทมีเดียนที่มีความเข้มปรับขีดจำกัดการตรวจอาการปวดจนถึง 144 น.หลังจากจัดการยาหลอกและความเข้มข้นผลได้พอดีกับข้อมูลที่ใช้ไม่ใช่เชิงเส้นผสมผลแบบจำลองดำเนินใน NONMEM(V7.2.0.) รุ่น Pharmacodynamic ถูกพัฒนาเพื่ออธิบายข้อมูล ERP พลาซีโบและสะบ้าเคลื่อนอย่างเพียงพอแบบจำลองทำนายผลของยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ได้ทำนายผลอย่างมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเข้มข้นของสะบ้าเคลื่อน แบบจำลองเปิดเผยว่า ERPs แตกต่างกัน ระหว่างวิชา และ ระหว่างศึกษาครั้ง ERPs พบจะจำลองภายในเรื่องและโอกาสเป็นความแปรปรวนของประชากรพบเป็นแปดเท่าสูงกว่าต่างไม่คาดหมาย ระหว่างเรื่องบัญชีผลต่างมากกว่า 75% ของความแปรปรวนของประชากร เบียดเบียน การสร้างแบบจำลอง pharmacodynamic ได้สำเร็จดำเนินการให้ยาหลอกและความแปรผันการแก้ไขใน ERP ปวดทดลอง ผลการปรับปรุงของ ERPการศึกษาสามารถคาดว่าหากสามารถระบุ และอธิบายความผันแปรระหว่างเรื่องและโอกาสการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วัตถุประสงค์ของการศึกษาเพื่อศึกษาผลกระทบที่ได้รับยาหลอกและ buprenorphine ศักยภาพในเหตุการณ์ที่เกี่ยวข้องกับ (ERPs)
ในความเจ็บปวดทดลองและผลประโยชน์ที่อาจเกิดขึ้นจากการสร้างแบบจำลองเภสัชประชากรในการวิเคราะห์ข้อมูล เก้าอาสาสมัครสุขภาพดีที่ได้รับยาหลอกผิวหนังและ buprenorphine ในการศึกษาข้าม
ความเข้มข้นในพลาสมายาเสพติดและ ERPs
หลังจากไฟฟ้ากระตุ้นที่เส้นประสาทค่ามัธยฐานที่มีความรุนแรงมีการปรับเกณฑ์การตรวจสอบความเจ็บปวดที่ถูกบันทึกไว้จนกว่าจะถึง144 ชั่วโมงหลังจากที่การบริหาร.
หลอกและรูปแบบความเข้มข้นของผลกระทบได้รับการติดตั้งข้อมูลโดยใช้การสร้างแบบจำลองผสมผลที่ไม่ใช่เชิงเส้นดำเนินการใน NONMEM
(V7 .2.0.) รุ่นเภสัชถูกพัฒนาขึ้นเพื่ออธิบายอย่างเพียงพอทั้งยาหลอกและข้อมูล buprenorphine ERP.
รุ่นที่คาดการณ์ผลกระทบที่ได้รับยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ได้คาดการณ์ผลกระทบอย่างมีนัยสำคัญที่เกี่ยวข้องกับความเข้มข้น buprenorphine รุ่นเปิดเผยว่า ERPs แตกต่างกันระหว่างทั้งสองวิชาและโอกาสระหว่างการศึกษา
ERPs
พบว่ามีการทำซ้ำได้ภายในอาสาสมัครและโอกาสเป็นความแปรปรวนของประชากรพบว่าแปดครั้งสูงกว่าไม่ได้อธิบายความแปรปรวน ระหว่างเรื่องความแปรปรวนคิดเป็นกว่า 75% ของประชากรที่แปรปรวน
สรุปได้ว่าการสร้างแบบจำลองเภสัชประสบความสำเร็จในการดำเนินการเพื่อให้สามารถแก้ไขได้รับยาหลอกและความแปรปรวนใน ERP ของความเจ็บปวดทดลอง
ผลที่ดีขึ้นของ ERP
ศึกษาสามารถคาดหวังถ้าแตกต่างระหว่างอาสาสมัครและโอกาสการศึกษาสามารถระบุและอธิบาย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาศักยภาพและผลกระทบต่อ event-related ) บิวพรีนอร์ฟีน ( เซอร์ )
ความเจ็บปวดทดลองและประโยชน์ของแบบจำลองเภสัชพลศาสตร์ประชากรในการวิเคราะห์ข้อมูล สิบเก้าอาสาสมัครที่มีสุขภาพดี
ได้รับยาหลอกและข้าม transdermal บิวพรีนอร์ฟีนในการศึกษา ความเข้มข้นของยาในพลาสมาและไฟฟ้า
เซอร์หลังกระตุ้นที่เส้นประสาท median ที่มีความเข้มปรับเกณฑ์การปวดที่ถูกบันทึกไว้จนถึง 144 ชั่วโมงหลังจากการบริหาร .
) และความเข้มข้นแบบผลติดตั้งโดยใช้ผลการจำลองแบบผสมใช้นอนเมม
( v7.2.0 . ) แบบจำลองเภสัชพลศาสตร์ถูกพัฒนาขึ้นสามารถอธิบายทั้งยาหลอกบิวพรีนอร์ฟีน ERP
และข้อมูลโมเดลทำนายผลยาหลอกอย่างมีนัยสำคัญ แต่ไม่ทายผล ความสัมพันธ์กับบิวพรีนอร์ฟีนความเข้มข้น นางแบบ
เปิดเผยว่า เซอร์หลากหลายทั้งระหว่างกลุ่มระหว่างโอกาสการศึกษา เซอร์ พบว่ามี 10 คน และ โอกาส เป็น ความแปรปรวนภายใน
ประชากรพบว่าเป็นแปดครั้งสูงกว่าความแปรปรวนที่ไม่สามารถอธิบายได้
ระหว่างวิชาความ คิดเป็นกว่าร้อยละ 75 ของประชากร ความแปรปรวน สรุป การสร้างทัศนคติให้สำเร็จ
ใช้ยาหลอกและการเปลี่ยนแปลงแก้ไขใน ERP ของความเจ็บปวดที่ทดลอง การปรับปรุงผลลัพธ์ของ ERP
การศึกษาสามารถคาดว่าถ้าการเปลี่ยนแปลงระหว่างวิชา และโอกาสการศึกษาสามารถระบุและอธิบาย