The clinical evaluation of subjects

The clinical evaluation of subjects with occupational noise exposure has been difficult due to the discrepancy between auditory complaints and auditory test results. This study aimed to evaluate the contralateral acoustic reflex thresholds of workers exposed to high levels of noise, and to compare these results to the subjects' auditory complaints.
METHODS:
This clinical retrospective study evaluated 364 workers between 1998 and 2005; their contralateral acoustic reflexes were compared to auditory complaints, age, and noise exposure time by chi-squared, Fisher's, and Spearman's tests.
RESULTS:
The workers' age ranged from 18 to 50 years (mean=39.6), and noise exposure time from one to 38 years (mean=17.3). We found that 15.1% (55) of the workers had bilateral hearing loss, 38.5% (140) had bilateral tinnitus, 52.8% (192) had abnormal sensitivity to loud sounds, and 47.2% (172) had speech recognition impairment. The variables hearing loss, speech recognition impairment, tinnitus, age group, and noise exposure time did not show relationship with acoustic reflex thresholds; however, all complaints demonstrated a statistically significant relationship with Metz recruitment at 3000 and 4000Hz bilaterally.
CONCLUSION:
There was no significance relationship between auditory complaints and acoustic reflexes.
Copyright © 2015 Associação Brasileira de Otorrinolaringologia e Cirurgia Cérvico-Facial. Published by Elsevier Editora Ltda. All rights reserved.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การประเมินทางคลินิกเรื่องมีแสงเสียงอาชีวได้ยากเนื่องจากความขัดแย้งระหว่างหูร้องเรียนและผลการทดสอบที่หู การศึกษานี้มุ่งประเมินขีดจำกัดสะท้อนระดับการ contralateral ของผู้ปฏิบัติงานสัมผัสกับเสียงระดับสูง และเปรียบเทียบผลลัพธ์ของเรื่องร้องเรียนหูเหล่านี้วิธีการ:ศึกษาทางคลินิกคาดประเมิน 364 คนระหว่างปีค.ศ. 1998 และ 2005 สะท้อนระดับของ contralateral ถูกเปรียบเทียบกับข้อร้องเรียนที่หู อายุ และเสียงรบกวนเวลาเปิดรับแสงโดยไคสแควร์ ของ Fisher และของ Spearman ทดสอบผลลัพธ์:แรงงานที่อายุอยู่ในช่วงจาก 18 ปี 50 (หมายถึง = 39.6), และเสียงรบกวนเวลาเปิดรับแสง 1 38 ปี (หมายถึง = 17.3) เราพบว่า 15.1% (55) ของผู้ปฏิบัติงานที่มีการสูญเสียการได้ยินระดับทวิภาคี 38.5% (140) มีเครียดทวิภาคี 52.8% (192) มีความไวผิดปกติเสียงดัง และ 47.2% (172) มีผลการรู้จำเสียง ตัวแปรที่สูญเสียการได้ยิน ผลการรู้จำเสียง เครียด กลุ่มอายุ และเสียงรบกวนเวลาเปิดรับแสงไม่ได้แสดงความสัมพันธ์กับระดับขีดจำกัดสะท้อน อย่างไรก็ตาม ข้อร้องเรียนทั้งหมดแสดงความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติกับเม็ตซ์สรรหาที่ 4000 และ 3000 Hz bilaterallyสรุป:ความสัมพันธ์ระหว่างหูร้องสะท้อนระดับความสำคัญไม่ได้สงวนลิขสิทธิ์ © 2015 ผู้ Brasileira de Otorrinolaringologia อี Cirurgia Cérvico หน้า เผยแพร่ โดย Elsevier Editora Ltda สงวนลิขสิทธิ์ทั้งหมด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

การประเมินผลทางคลินิกของอาสาสมัครที่มีความเสี่ยงในการประกอบอาชีพเสียงได้ยากเนื่องจากความแตกต่างระหว่างการได้ยินการร้องเรียนและผลการทดสอบหู การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อประเมินเกณฑ์สะท้อนอะคูสติก contralateral ของคนงานที่สัมผัสกับระดับสูงของเสียงและเพื่อเปรียบเทียบผลการเหล่านี้ไปยังเรื่องร้องเรียนหู.
วิธีการ:
การศึกษาทางคลินิกการประเมินย้อนหลัง 364 คนงานระหว่างปี 1998 และ 2005 การตอบสนองอะคูสติกของพวกเขา contralateral ถูกเมื่อเทียบกับข้อร้องเรียนหูอายุและเสียงรบกวนเวลารับแสงโดยไคสแควร์, ฟิชเชอร์และการทดสอบสเปียร์แมน.
ผลการศึกษา:
อายุของคนงานอยู่ในช่วง 18-50 ปี (เฉลี่ย = 39.6) และเวลาที่ได้รับเสียงจาก หนึ่งถึง 38 ปี (ค่าเฉลี่ย = 17.3) เราพบว่า 15.1% (55) ของคนงานมีสูญเสียการได้ยินทวิภาคี 38.5% (140) มีหูอื้อทวิภาคี 52.8% (192) มีความไวผิดปกติเสียงดังและ 47.2% (172) มีการด้อยค่ารู้จำเสียงพูด ตัวแปรที่สูญเสียการได้ยินจากการด้อยค่ารู้จำเสียงพูดหูอื้อกลุ่มอายุและการสัมผัสเสียงดังเวลาที่ไม่ได้แสดงความสัมพันธ์กับเกณฑ์สะท้อนอะคูสติก; แต่ทั้งหมดแสดงให้เห็นถึงข้อร้องเรียนความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญกับการสรรหาบุคลากรที่มีทซ์ 3000 และ 4000Hz ข้าง.
สรุป:. มีความสัมพันธ์อย่างมีนัยสำคัญไม่มีการร้องเรียนระหว่างการได้ยินและการตอบสนองอะคูสติกเป็นลิขสิทธิ์© 2015 Associação Brasileira de Otorrinolaringologia จ Cirurgia Cérvico-บนใบหน้า เผยแพร่โดยเอลส์ Editora Ltda สงวนลิขสิทธิ์.