All societies that we know of seem

All societies that we know of seem to possess kind of organizations; they are probably cultural universals. Organization are, however, not easy things to define as they are rather varied in nature. The term organization theory has been defined in various ways by different theorists. This is because they have emphasized different characteristics of organizations. For example, Max Weber defines organization as corporate group. Accordingly, corporate group is a ‘social relation’ which is action of specific individuals whose regular function this is. A major component of this definition is the idea of which differentiates organization from other social entities, such as family, community, etc. Chester Bernard and his followers have taken a different view. While in disagreements with Weber, he stressed a different basis for organization as ‘a system of consciously coordinated activities or forces of two or more person’. This emphasizes that activities are accomplished through conscious, deliberate and purposeful coordination. Meanwhile, John Neuston defines organization theory as the systematic study and careful application of knowledge about how people-as individuals and as groups-act within organization. Meanwhile, a great deal of organization theory is concerned with describing and explaining the occurrence of the different sorts of mechanisms for achieving control and co-ordination. Although there is no settled consensus about the definition of these central concepts, two notions appear relevant to the concept of organization theory are: control mechanisms and co-ordination mechanisms.
Control mechanisms are the means by which the actions or behaviors of actors (sometime individual human beings, sometime groups or collections of human beings) are motivated in order to achieve the objectives of the organization.
Co-ordination mechanisms are the means by which the action/behaviors of actors (again, individual or collective) are brought into alignment with each other in order to achieve the objectives of the organization.
In regard to the above definition of organization, you should note that:
- Organizations are usually consciously constructed with an objective in mind
- There may be differing opinions within an organization about what its objectives are or should be
- There may be many different mechanisms for controlling and coordinating human activities both within and outside organizations
- The objectives of an organization may change over time
- Organizations can be more or less effective (efficient) in achieving their objectives
Some applications of organization theory
Strategy/Finance- Those who want to improve the value of a company need to know how to organize to achieve organizational goals; those who want to monitor and control performance will need to understand how to achieve results by structuring activities and designing organizational processes.
Marketing- Marketers know that to create a successful corporate brand they need to get the organization behind the delivery of its promise; a thorough understanding of what on organization is and how it operates will make their endeavors to align the organization and its brand strategy more feasible and productive.
Information technology – The way Information flows through the organization affects work processes and outcomes, so knowing organization theory can help IT specialists identify, understand and serve the organization’s informational needs as they design and promote the use of their information systems.
Operations – Value chain management has created a need for operations managers to interconnecf their organizing processes with those of suppliers, distributors and customers; organization theory not only supports the technical aspects of operations and systems integration, but explains their socio-cultural aspects as well
Human resources – Nearly everything HR specialists do from recruiting to compensation has organizational ramifications and hence benefits from knowledge provided by organization theory; organizational development and change are particularly important elements of HR that demand deep knowledge of organizations and organizing, and organization theory can provide content for executive training programs.
Communication – Corporate communication specialists must understand the interpretive processes of organizational stakeholders and need to address the many way in which different parts of the organization interact with each other and the environment, in order to design communication systems that are effective or to diagnose ways existing systems are misaligned with the organization’s needs.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สังคมทั้งหมดที่เรารู้ว่าของที่ดูเหมือนจะ มีชนิดขององค์กร จะคงวัฒนธรรมลักษณะทางชาติพันธ์ องค์กรไม่ อย่างไรก็ตาม สิ่งง่ายเพื่อกำหนดเป็นจะค่อนข้างแตกต่างกันในธรรมชาติ กำหนดทฤษฎีองค์กรระยะในรูปแบบต่าง ๆ โดย theorists แตกต่างกัน ทั้งนี้เนื่องจากพวกเขาได้เน้นลักษณะต่าง ๆ ขององค์กร ตัวอย่าง แบ่งแยกสูงสุดกำหนดองค์กรกลุ่มองค์กร ตาม กลุ่มองค์กรเป็นความ 'สังคมสัมพันธ์' ซึ่งเป็นการดำเนินการของฟังก์ชันซึ่งปกติเป็นเฉพาะบุคคล ส่วนประกอบสำคัญของข้อกำหนดนี้เป็นความคิดที่แตกต่างองค์กรจากสังคมตี ครอบครัว ชุมชน ฯลฯ Bernard เชสเตอร์และลูกศิษย์ของเขาได้นำมุมมองที่แตกต่างกัน ในความขัดแย้งกับเวเบอร์ เขาเน้นพื้นฐานต่าง ๆ สำหรับองค์กรเป็น 'ระบบสติร่วมกิจกรรม' ของบุคคลสองคน หรือมากกว่า นี้เน้นที่ กิจกรรมจะลุล่วงห่วงใย รอบคอบ และ purposeful ประสานงาน ในขณะเดียวกัน จอห์น Neuston กำหนดทฤษฎีองค์กรเป็นระบบการศึกษาและความรู้เกี่ยวกับวิธีใช้ระวังคน- เป็นรายบุคคล และ เป็นกลุ่มที่กระทำภายในองค์กร ในขณะเดียวกัน องค์กรทฤษฎีมากเกี่ยวข้องกับการอธิบาย และอธิบายการเกิดขึ้นของประเภทต่าง ๆ ของกลไกสำหรับการบรรลุเป้าหมายการควบคุมและประสาน มีมติไม่ชำระเกี่ยวกับคำจำกัดความของแนวคิดเหล่านี้กลาง กำลังสองปรากฏเกี่ยวข้องกับแนวคิดของทฤษฎีองค์กรมี: ควบคุมกลไกและการประสานกลไกการกลไกการควบคุมหมายถึงที่ซึ่งการกระทำหรือพฤติกรรมของนักแสดง (แต่ละบางครั้งมนุษย์ กลุ่ม sometime หรือคอลเลกชันของมนุษย์) มีแรงจูงใจเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กรได้หมายถึงที่มีกลไกการประสานการกระทำ/พฤติกรรมของนักแสดง (อีก บุคคล หรือรวม) นำเข้ามาในการจัดตำแหน่งด้วยกันเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กรเรื่องคำจำกัดความข้างต้นขององค์กร คุณควรสังเกตว่า:-องค์กรมีสติมักจะสร้างขึ้น ด้วยวัตถุประสงค์ใน -อาจมีความเห็นแตกต่างกันภายในองค์กรเกี่ยวกับอะไรวัตถุประสงค์มี หรือควรจะ-อาจมีกลไกต่าง ๆ ในการควบคุม และประสานงานกิจกรรมต่าง ๆ ของมนุษย์ทั้งภายใน และภาย นอกองค์กร-วัตถุประสงค์ขององค์กรอาจเปลี่ยนเวลา-องค์กรจะมาก หรือน้อยมีผล (มีประสิทธิภาพ) ในการบรรลุวัตถุประสงค์ของพวกเขาโปรแกรมประยุกต์บางโปรแกรมของทฤษฎีองค์กร กลยุทธ์/การเงิน-Those ผู้ที่ต้องการปรับปรุงค่าของบริษัทจำเป็นต้องรู้วิธีการจัดการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร ผู้ที่ต้องการตรวจสอบและควบคุมจะต้องเข้าใจวิธีการให้บรรลุผล โดยการจัดโครงสร้างกิจกรรม และการออกแบบกระบวนการขององค์กร การตลาด - นักการตลาดรู้ว่าการสร้างแบรนด์ขององค์กรประสบความสำเร็จจะต้องได้รับองค์กรที่อยู่เบื้องหลังการส่งมอบของสัญญา ความเข้าใจในเนื้อคืออะไรในองค์กรและวิธีการทำงานจะทำให้ความพยายามของพวกเขาการจัดองค์กรและกลยุทธ์ของแบรนด์เป็นไปได้มากขึ้น และมีประสิทธิผลเทคโนโลยีสารสนเทศวิธีข้อมูลไหลผ่านองค์กรที่มีผลกระทบต่อกระบวนการทำงานและผลที่ได้ เพื่อให้รู้ทฤษฎีองค์กรสามารถช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญได้ระบุ เข้าใจ และบริการต้องให้ข้อมูลขององค์กรพวกเขาออกแบบ และส่งเสริมการใช้ระบบข้อมูลของตนสร้างการดำเนินงานบริหารห่วงโซ่มูลค่าได้ต้องจัดการดำเนินการ interconnecf การจัดการประมวลผลกับซัพพลายเออร์ ผู้จัดจำหน่าย และ ลูกค้า ทฤษฎีองค์กรไม่เพียงแต่สนับสนุนด้านเทคนิคของการดำเนินงานและรวมระบบ แต่อธิบายด้านสังคมวัฒนธรรมของตนเช่นทรัพยากรบุคคล – เกือบทุกชั่วโมงผู้เชี่ยวชาญจากสรรหาเพื่อค่าตอบแทนมี ramifications องค์กร และประโยชน์จากความรู้โดยทฤษฎีองค์กร ดังนั้น พัฒนาองค์กรและการเปลี่ยนแปลงสำคัญโดยเฉพาะอย่างยิ่งองค์ประกอบของ HR ที่ต้องรู้ลึกขององค์กรและการจัดระเบียบ และทฤษฎีองค์กรสามารถให้เนื้อหาสำหรับโปรแกรมการฝึกอบรมผู้บริหาร สื่อสารสื่อสารองค์กรผู้เชี่ยวชาญต้องเข้าใจกระบวนการ interpretive เสียทุกกลุ่มองค์กร และต้องอยู่ในวิธีการที่ส่วนต่าง ๆ ขององค์กรที่โต้ตอบกับแต่ละอื่น ๆ และสิ่งแวดล้อม การออกแบบระบบสื่อสารที่มีประสิทธิภาพ หรือ การวิเคราะห์ระบบที่มีอยู่วิธีรงกับความต้องการขององค์กร

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ทุกสังคมที่เรารู้ดูเหมือนจะมีชนิดขององค์กร พวกเขาจะ universals วัฒนธรรมอาจจะ องค์การมี แต่สิ่งที่ไม่ง่ายที่จะกำหนดเป็นพวกเขาจะค่อนข้างแตกต่างกันในธรรมชาติ ทฤษฎีองค์กรคำที่ถูกกำหนดไว้ในรูปแบบต่างๆโดยทฤษฎีที่แตกต่างกัน นี้เป็นเพราะพวกเขาได้เน้นลักษณะที่แตกต่างกันขององค์กร ตัวอย่างเช่นมักซ์เวเบอร์กำหนดองค์กรที่เป็นกลุ่มองค์กร ดังนั้นกลุ่มองค์กรคือ 'ความสัมพันธ์ทางสังคมซึ่งคือการกระทำของบุคคลที่เฉพาะเจาะจงที่มีฟังก์ชั่นนี้เป็นประจำ องค์ประกอบหลักของคำนิยามนี้เป็นความคิดขององค์กรที่แตกต่างจากหน่วยงานอื่น ๆ ในสังคมเช่นครอบครัวชุมชน ฯลฯ เชสเตอร์เบอร์นาร์ดและลูกน้องของเขาได้นำมุมมองที่แตกต่างกัน ในขณะที่ความขัดแย้งกับเวเบอร์เขาเน้นพื้นฐานที่แตกต่างกันสำหรับองค์กรเป็น 'ระบบการประสานงานของกิจกรรมรู้ตัวหรือกองกำลังของสองคนหรือมากกว่าบุคคล นี้เน้นว่ากิจกรรมจะทำได้โดยการมีสติการประสานงานโดยเจตนาและเด็ดเดี่ยว ขณะที่จอห์น Neuston กำหนดทฤษฎีองค์กรเป็นระบบการศึกษาและการประยุกต์ใช้ความระมัดระวังความรู้เกี่ยวกับวิธีการที่คนที่เป็นบุคคลและเป็นกลุ่มการกระทำภายในองค์กร ในขณะเดียวกันการจัดการที่ดีของทฤษฎีองค์กรที่เกี่ยวข้องกับการอธิบายและอธิบายการเกิดขึ้นของประเภทที่แตกต่างกันของกลไกเพื่อให้บรรลุการควบคุมและการประสานงาน แม้จะไม่มีใครตัดสินฉันทามติเกี่ยวกับความหมายของแนวคิดกลางเหล่านี้สองความคิดปรากฏที่เกี่ยวข้องกับแนวความคิดของทฤษฎีองค์กรที่มี:. กลไกการควบคุมและกลไกการประสานงาน
กลไกการควบคุมจะหมายถึงการที่การกระทำหรือพฤติกรรมของนักแสดง (บุคคลบางครั้ง มนุษย์กลุ่มบางครั้งหรือคอลเลกชันของมนุษย์) มีแรงจูงใจในการสั่งซื้อเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร.
กลไกการประสานงานเป็นวิธีการที่ดำเนินการ / พฤติกรรมของนักแสดง (อีกครั้งของแต่ละบุคคลหรือกลุ่ม) จะถูกนำเข้ามาในแนวเดียวกันกับ . แต่ละอื่น ๆ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร
ในเรื่องความหมายขององค์กรดังกล่าวข้างต้นคุณควรทราบว่า:
- องค์กรมักจะถูกสร้างขึ้นอย่างมีสติโดยมีวัตถุประสงค์ในใจ
- อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันภายในองค์กรเกี่ยวกับสิ่งที่วัตถุประสงค์ หรือควรจะเป็น
- อาจจะมีกลไกที่แตกต่างกันในการควบคุมและประสานงานกิจกรรมของมนุษย์ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
- วัตถุประสงค์ขององค์กรอาจมีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไป
- องค์กรสามารถจะมากหรือน้อยที่มีประสิทธิภาพ (ที่มีประสิทธิภาพ) ในการบรรลุวัตถุประสงค์ของพวกเขา
การใช้งานบางส่วนของ ทฤษฎีองค์กร
กลยุทธ์ / Finance- ผู้ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าของ บริษัท ที่จำเป็นต้องรู้วิธีการจัดระเบียบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์กร; ผู้ที่ต้องการการตรวจสอบและควบคุมการปฏิบัติงานจะต้องเข้าใจวิธีการเพื่อให้บรรลุผลมาจากกิจกรรมการจัดโครงสร้างและการออกแบบกระบวนการขององค์กร.
การตลาดนักการตลาดรู้ว่าการสร้างตราสินค้าของ บริษัท ที่ประสบความสำเร็จที่พวกเขาต้องการที่จะได้รับองค์กรที่อยู่เบื้องหลังการจัดส่งของสัญญา; ความเข้าใจอย่างละเอียดของสิ่งที่เกี่ยวกับองค์กรและวิธีการที่จะดำเนินการจะทำให้ความพยายามของพวกเขาในการจัดองค์กรและกลยุทธ์ของแบรนด์อื่น ๆ ที่เป็นไปได้และมีประสิทธิภาพ.
เทคโนโลยีสารสนเทศ - การไหลข้อมูลทางผ่านองค์กรที่มีผลกระทบต่อกระบวนการทำงานและผลเพื่อให้ทราบทฤษฎีองค์กรสามารถ ช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีระบุทำความเข้าใจและตอบสนองความต้องการในการให้ข้อมูลขององค์กรที่พวกเขาออกแบบและส่งเสริมการใช้ระบบข้อมูลของพวกเขา.
การดำเนินงาน - การจัดการห่วงโซ่มูลค่าได้สร้างความต้องการสำหรับผู้บริหารการดำเนินงานเพื่อ interconnecf กระบวนการการจัดระเบียบของพวกเขากับบรรดาซัพพลายเออร์จัดจำหน่ายและลูกค้า ทฤษฎีองค์กรไม่เพียง แต่สนับสนุนด้านเทคนิคของการดำเนินงานและบูรณาการระบบ แต่จะอธิบายในประเด็นทางสังคมวัฒนธรรมของพวกเขาเช่นเดียวกับ
ทรัพยากรมนุษย์ - ทรัพยากรบุคคลผู้เชี่ยวชาญเกือบทุกอย่างที่ทำมาจากการสรรหาได้รับค่าชดเชยมีเครือข่ายขององค์กรและด้วยเหตุนี้ผลประโยชน์จากความรู้ที่มีให้โดยทฤษฎีองค์กร การพัฒนาองค์กรและการเปลี่ยนแปลงเป็นองค์ประกอบสำคัญอย่างยิ่งของการบริหารทรัพยากรบุคคลที่ต้องการความรู้ลึกขององค์กรและการจัดระเบียบและทฤษฎีองค์กรสามารถให้บริการเนื้อหาสำหรับโปรแกรมการฝึกอบรมผู้บริหาร.
สื่อสาร - ผู้เชี่ยวชาญด้านการสื่อสารองค์กรต้องเข้าใจกระบวนการสื่อความหมายของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียขององค์กรและต้องอยู่หลายวิธี ซึ่งในส่วนต่าง ๆ ขององค์กรที่โต้ตอบกับแต่ละอื่น ๆ และสภาพแวดล้อมในการออกแบบระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพในการวินิจฉัยหรือวิธีการระบบที่มีอยู่จะ misaligned กับความต้องการขององค์กร

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สังคมทุกสังคมที่เรารู้ว่าของที่ดูเหมือนจะมีชนิดขององค์กร พวกเขาเป็นสิ่งสากลทางวัฒนธรรมอาจ องค์กร อย่างไรก็ตาม ไม่ ง่าย สิ่งที่จะกำหนดเช่นที่พวกเขาจะค่อนข้างแตกต่างกันในธรรมชาติ ทฤษฎีขององค์กรในระยะได้นิยามในรูปแบบต่างๆ โดยนักทฤษฎีต่าง ๆ นี้เป็นเพราะพวกเขาได้เน้นลักษณะต่าง ๆ ขององค์กร ตัวอย่างเช่นแม็กซ์ เวเบอร์นิยามองค์กรกลุ่มบริษัท ดังนั้น กลุ่มบริษัทเป็น ' สังคม ' ซึ่งเป็นการกระทำเฉพาะกับบุคคลซึ่งปกติหน้าที่นี้คือ องค์ประกอบหลักของนิยามนี้คือความคิดที่แตกต่างจากหน่วยงาน องค์กรต่าง ๆในสังคม เช่น ครอบครัว ชุมชน ฯลฯ เชสเตอร์ เบอร์นาร์ด และผู้ติดตามได้รับมุมมองที่แตกต่างกันในขณะที่อยู่ในความขัดแย้งกับเวเบอร์ เขาเน้นพื้นฐานต่าง ๆ สำหรับองค์กรที่เป็นระบบของการประสานงานกิจกรรมบังคับของ consciously หรือสองคนหรือมากกว่าบุคคล ' นี้เน้นที่กิจกรรมจะสำเร็จผ่านมีสติ , สุขุมและเด็ดเดี่ยวในการประสานงาน ในขณะเดียวกันจอห์นนิวสทอนกำหนดทฤษฎีการศึกษาอย่างเป็นระบบและการประยุกต์ใช้ความรู้เกี่ยวกับวิธีคนระวังเป็นบุคคลและกลุ่มหน้าที่ภายในองค์กร ในขณะเดียวกัน การจัดการที่ดีของทฤษฎีที่เกี่ยวข้องกับการอธิบาย และอธิบายการเกิดของประเภทที่แตกต่างของกลไกเพื่อควบคุมและประสานงาน .แม้ว่าจะไม่ตัดสินมติเกี่ยวกับคำนิยามของแนวคิดกลางเหล่านี้สองความคิดปรากฏขึ้นที่เกี่ยวข้องกับแนวคิดของทฤษฎีองค์การ : กลไกการควบคุมและประสานงานกลไก .
กลไกควบคุมเป็นวิธีที่การกระทำ หรือพฤติกรรมของนักแสดง ( มนุษย์บางบุคคลบางกลุ่มหรือคอลเลกชันของมนุษย์ ) มีแรงจูงใจเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร ร่วมเป็นกลไกการบวช
หมายความว่าการกระทำ / พฤติกรรมของนักแสดง ( อีกครั้ง , บุคคล หรือกลุ่ม ) จะเอาลงสอดคล้องกับแต่ละอื่น ๆเพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร .
เกี่ยวกับการ คำนิยามข้างต้นขององค์กรคุณควรทราบว่า :
- องค์กรมักจะ consciously สร้างด้วยวัตถุประสงค์ในใจ
- อาจจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างภายในองค์กรเกี่ยวกับสิ่งที่มีวัตถุประสงค์หรือควรจะ
- อาจจะมีหลายกลไกการควบคุมและประสานงานกิจกรรมของมนุษย์ทั้งภายในและภายนอกองค์กร
- วัตถุประสงค์ขององค์กรจะเปลี่ยนไป เวลา
- องค์กรได้มากกว่าหรือน้อยกว่าที่มีประสิทธิภาพ ( ประสิทธิภาพ ) ในการบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กรทฤษฎี

บางโปรแกรมกลยุทธ์ / การเงิน - ผู้ที่ต้องการเพิ่มมูลค่าของ บริษัท ต้องการที่จะรู้วิธีการจัดระเบียบเพื่อให้บรรลุเป้าหมายขององค์การคนที่ต้องการตรวจสอบประสิทธิภาพการควบคุมและจะต้องเข้าใจวิธีการเพื่อให้บรรลุผล โดยจัดกิจกรรมต่างๆ และกระบวนการออกแบบองค์การ
การตลาด - นักการตลาดรู้ว่าการสร้างความสำเร็จขององค์กร แบรนด์ พวกเขาต้องรับองค์กรหลังส่งมอบของสัญญา ;อย่างละเอียดความเข้าใจของสิ่งที่องค์กรคืออะไรและมันทำงานอย่างไร จะทำให้ความพยายามของพวกเขาในการจัดองค์กรและกลยุทธ์แบรนด์ที่เป็นไปได้มากขึ้นและมีประสิทธิผล .
เทคโนโลยีสารสนเทศ–วิธีที่ข้อมูลไหลผ่านองค์กร ส่งผลกระทบต่อกระบวนการทำงาน และผล เพื่อให้ทราบว่าองค์การสามารถช่วยให้ผู้เชี่ยวชาญด้านไอทีระบุเข้าใจและตอบสนองความต้องการขององค์กรข้อมูลที่พวกเขาออกแบบและส่งเสริมการใช้ระบบของพวกเขา .
ปฏิบัติการ–การจัดการห่วงโซ่คุณค่าได้สร้างความต้องการสำหรับผู้บริหารการจัดกระบวนการ interconnecf ของพวกเขากับบรรดาซัพพลายเออร์ผู้จัดจําหน่าย และลูกค้าทฤษฎีขององค์กรไม่เพียง แต่สนับสนุนด้านเทคนิคของการบูรณาการการดำเนินงานและระบบ แต่อธิบายแง่มุมทางสังคมและวัฒนธรรมของพวกเขาเช่นกัน
ทรัพยากรมนุษย์–เกือบทุกอย่างทำจากผู้เชี่ยวชาญ HR สรรหาค่าตอบแทนมี ramifications และจึงได้รับประโยชน์จากความรู้ขององค์กร โดยทฤษฎีการจัดองค์การการพัฒนาองค์การและการเปลี่ยนแปลงเป็นองค์ประกอบที่สำคัญโดยเฉพาะของ HR ที่ความต้องการลึกความรู้ขององค์กรและการจัดระเบียบ และทฤษฎีองค์การสามารถให้เนื้อหาสำหรับโปรแกรมการฝึกอบรมผู้บริหาร
การสื่อสาร–สื่อสารองค์กร ผู้เชี่ยวชาญจะต้องเข้าใจกระบวนการแปลของผู้มีส่วนได้เสียขององค์กร และต้องแก้ไขหลายวิธีซึ่งในส่วนต่าง ๆขององค์กร โต้ตอบกับแต่ละอื่น ๆและสภาพแวดล้อมเพื่อการออกแบบระบบการสื่อสารที่มีประสิทธิภาพหรือการวินิจฉัยวิธีที่มีอยู่ระบบรงกับความต้องการขององค์กร .