Principal Component Analysis (PCA)

Principal Component Analysis (PCA) is a useful statistical technique which has found application in reduction of the original variables (TLB, MLB and GY) in a smaller number of underlying variables (Principal Component) in order to reveal the interrelationships between the different variables. The principal Component 1 (PC 1) describes higher sample variation and the following PC 2 successively explains smaller parts of the original variance. In the earlier studies by using PCA analysis Kaiser (1970) and Lopez et al. (2006) reported similar results. Positive correlation was observed between TLB and MLB and both were negatively correlated with GY. The genotypes in the cluster-I showed resistant to TLB and MLB and also recorded higher GY, while the genotypes in the cluster-II showed moderate resistant to TLB and MLB along with higher GY. But the genotypes in cluster III were found highly susceptible to TLB, moderate resistant to MLB along with poor GY. The present results are in agreement with the Pataky et al. (1998) and Byrnes et al., (1989). While evaluating the yield loss assessment trial, they reported sever yield losses ranged from 0-60% and 23% due to TLB and MLB, respectively. Similarly, Frank et al. (2013) and Presello et al. (2004) used the PCA analysis for distinguishing dent and flint heterotic maize genotypes and for distinguishing resistant and susceptible genotypes against Fusarium ear rot of maize, respectively.
The AHC classification will be helpful for selection of disease resistance, high yielding inbreds for resistance breeding program. In cluster I most of the inbreds are moderately resistant to TLB, resistant to MLB with high GY. In cluster II most of the inbreds are resistant to TLB, MLB along with higher GY. In cluster III, most of the inbreds are highly susceptible to TLB, moderately resistant to MLB and low GY. Similar results were reported by Biabani et al. (2004) while evaluating nuclear polyhedrosis virus against silk worm Bombyx mori, they reported that AHC analysis categorized different hybrids into 2 classes based on their degree of resistance. The AHC classification also revealed that, genotypes in same cluster were found to be of different pedigree.
Based on the TLB and MLB incidence scores, GY and other related parameters, new promising inbred lines were identified and the durability of known resistance lines were established. These inbred lines are V334, V338, V 341, V 345, V 346, V 373, V 398, V 403, V 405, V 407, VQL 17, CM 152 and CM 153 having a lower interval between pollen shed with silking, medium plant stature and suitable ear placement. They will serve as potential donors/ parental lines in hybrid development program in general and for the North Western Himalayas in particular. The identified resistance sources may also be potential parents in hybrid development program across the different zones of the country or even in other maize growing countries however, resistance with challenged inoculation under target ecosystem requires to be validated prior to induction in hybrid breeding program

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วิเคราะห์ส่วนประกอบหลัก (PCA) เป็นเทคนิคทางสถิติมีประโยชน์ที่พบแอพลิเคชันในการลดตัวแปรเดิม (TLB คู่ MLB และ GY) ในจำนวนที่ต่ำกว่าของตัวแปรต้น (ส่วนประกอบหลัก) เพื่อเปิดเผย interrelationships ระหว่างตัวแปรต่าง ๆ 1 ส่วนประกอบหลัก (PC 1) อธิบายการเปลี่ยนแปลงอย่างสูง และ 2 PC ต่อไปนี้อธิบายถึงส่วนย่อย ๆ ของความแปรปรวนเดิมติด ๆ กัน ในการศึกษาก่อนหน้านี้โดยการวิเคราะห์ PCA นิคม (1970) และ al. et โลเปซ (2006) รายงานผลคล้ายกัน ค่าบวกถูกสังเกตความสัมพันธ์ระหว่าง TLB และคู่ MLB และทั้งสองถูกส่ง correlated กับ GY การศึกษาจีโนไทป์ในคลัสเตอร์-ฉันพบทนต่อ TLB และคู่ MLB และบันทึก GY สูง ในขณะที่การศึกษาจีโนไทป์ในคลัสเตอร์-II พบปานกลางทนต่อ TLB และคู่ MLB กับ GY สูง แต่การศึกษาจีโนไทป์ในคลัสเตอร์ III พบมากไวต่อการ TLB ปานกลางทนต่อคู่ MLB กับ GY ดี ผลลัพธ์ปัจจุบันยังคง Pataky et al. (1998) และ al. et Byrnes, (1989) ได้ ขณะประเมิน ประเมินผลผลิตขาดทุนที่ทดลอง พวกเขารายงานตัดขาดทุนผลผลิตที่อยู่ในช่วงจาก 0-60% และ 23% TLB และคู่ MLB ตามลำดับ ในทำนองเดียวกัน Frank et al. (2013) และ Presello et al. (2004) ใช้วิเคราะห์ PCA เด็นท์แตกต่างและผู้ทรง heterotic ข้าวโพดศึกษาจีโนไทป์ และแยกทน และไวต่อศึกษาจีโนไทป์กับ Fusarium หูเน่าของข้าวโพด ตามลำดับการจัดประเภท AHC จะมีประโยชน์สำหรับการเลือกของความต้านทานโรค ผลผลิต inbreds ในโปรแกรมการปรับปรุงพันธุ์ต้านทานสูง ในคลัสเตอร์ฉัน inbreds มีค่อนข้างทนต่อ TLB คู่ MLB กับ GY สูงทนต่อการ ในคลัสเตอร์ II ของ inbreds จะทนต่อการ TLB คู่ MLB กับ GY สูง ในคลัสเตอร์ III ส่วนใหญ่ของ inbreds มีความไวต่อสูงปานกลางทนต่อคู่ MLB และต่ำ GY, TLB ผลคล้ายมีรายงานโดย Biabani et al. (2004) ขณะประเมินนิวคลีไวรัสกับไหมหนอนไหม พวกเขารายงานว่า AHC วิเคราะห์จำแนกประเภทลูกผสมแตกต่างกันเป็น 2 ชั้นตามระดับความต้านทาน การจัดประเภท AHC ยังเปิดเผยว่า ศึกษาจีโนไทป์ในคลัสเตอร์เดียวกันพบเป็นของเลือดแตกต่างกันตามคะแนนเกิด TLB และคู่ MLB, GY และอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับพารามิเตอร์ ใหม่ระบุบรรทัดสัญญา inbred และอายุการใช้งานของบรรทัดต้านทานรู้จักก่อ บรรทัดเหล่านี้ inbred มี V334, V338, V 341, V 345, V 346, V 373, V 398, V 403, V 405, V 407, VQL 17, CM 152 และ 153 CM ที่มีช่วงล่างระหว่างละอองเกสรผลัด silking โรงงานขนาดกลางรูปร่าง และวางหูเหมาะ พวกเขาจะทำหน้าที่เป็นผู้บริจาคที่มีศักยภาพ / ปกครองบรรทัดในโปรแกรมพัฒนาผสมทั่วไป และเทือกเขา หิมาลัยตะวันตกเหนือโดยเฉพาะ แหล่งความต้านทานที่ระบุอาจเป็นผู้ปกครองมีศักยภาพในโปรแกรมพัฒนาผสมข้ามโซนต่างประเทศ หรือในประเทศเติบโตข้าวโพด อย่างไรก็ตาม ความต้านทานกับ inoculation สนุก ๆ ภายใต้ระบบนิเวศเป้าหมายต้องจะต้องตรวจสอบก่อนที่จะเหนี่ยวนำในโปรแกรมการเพาะพันธุ์ผสม

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

การวิเคราะห์องค์ประกอบหลัก ( PCA ) เป็นสถิติที่เป็นประโยชน์เทคนิคซึ่งมีการพบการลดลงของตัวแปรต้น ( TLB MLB และ GY ) จำนวนเล็ก ๆของตัวแปรอ้างอิง ( องค์ประกอบหลัก ) เพื่อแสดงความสัมพันธ์ระหว่างตัวแปรต่าง ๆหลักองค์ประกอบที่ 1 ( PC 1 ) อธิบายการเปลี่ยนแปลงสูงและตัวอย่างต่อไปนี้อธิบายชิ้นส่วนขนาดเล็กของ PC 2 อย่างต่อเนื่อง ความเดิม ในการศึกษาก่อนหน้านี้โดยใช้การวิเคราะห์ PCA ไกเซอร์ ( 1970 ) และโลเปซ et al . ( 2006 ) รายงานผลที่คล้ายกัน ความสัมพันธ์เชิงบวกระหว่าง TLB ( ) และทั้งสองมีความสัมพันธ์กับเกรย์การเปรียบเทียบใน cluster-i พบทนต่อ TLB ( และยังบันทึกและสูงกว่า Gy ในขณะที่พันธุ์ในกลุ่มที่ 2 พบปานกลางและทนต่อ TLB MLB พร้อมกับสูงกว่า เกรย์ แต่บางพันธุ์ในกลุ่มที่ 3 พบความรู้สึกไวต่อ TLB ปานกลาง ทนต่อการ MLB พร้อมกับเกรย์ที่น่าสงสาร ผลคือในข้อตกลงกับ pataky et al . ( 1998 ) และเบนส์ et al . ,( 1989 ) ในขณะที่การประเมินการสูญเสียผลผลิตการประเมินการทดลอง พวกเขารายงานตัดความสูญเสียผลผลิตระหว่าง 0-60 % และ 25 % เนื่องจากและ TLB MLB , ตามลำดับ โดย Frank et al . ( 2013 ) และ presello et al . ( 2004 ) ใช้สำหรับแยกและวิเคราะห์ PCA บุ๋มหินเหล็กไฟ heterotic ข้าวโพดพันธุ์และลักษณะต้านทานและอ่อนแอต่อโรคเน่าแห้งของข้าวโพดพันธุ์หู ตามลำดับ
AHC หมวดหมู่จะเป็นประโยชน์สำหรับการเลือกสายพันธุ์ที่ให้ผลผลิตสูงต้านทานโรค สำหรับโครงการปรับปรุงพันธุ์ต้านทาน ในกลุ่มผมส่วนใหญ่ของสายพันธุ์เป็นปานกลาง ทนต่อ TLB ทนต่อ MLB กับ GY สูง ในกลุ่มที่ 2 ส่วนใหญ่ของสายพันธุ์ต่อ TLB MLB พร้อมกับสูงกว่า เกรย์ ในกลุ่มที่ 3 มากที่สุดของสายพันธุ์จะมีความรู้สึกไวต่อ TLBปานกลาง ทนการ MLB และ GY ต่ำ ผลที่คล้ายกันได้รับรายงานโดย biabani et al . ( 2547 ) ในขณะที่การประเมินนิวเคลียร์จต่อต้านไวรัสหนอนไหม Bombyx mori พวกเขารายงานว่า การวิเคราะห์แบ่งออกเป็น 2 สายพันธุ์ที่แตกต่างกัน AHC ชั้นเรียนตามระดับของความต้านทาน ใน AHC หมวดหมู่ยังพบว่า พันธุ์ในกลุ่มเดียวกัน พบว่ามีแตกต่างกัน
สายเลือดตามกฏและ TLB อุบัติการณ์คะแนน , เกรย์ และพารามิเตอร์อื่น ๆที่เกี่ยวข้อง สายพันธุ์แท้ ใหม่ สัญญาระบุและความคงทนของจักต้านทานสายพันธุ์ตั้งขึ้น เส้นเหล่านี้จะ v334 v338 สายพันธุ์แท้ , , v v v 341 , 345 , 346 , V , V / V V V 405 403 , 407 , 17 vql ซม. แล้วก็ซม. 153 มีลดช่วงเวลาระหว่างเกสรเมื่อหลั่ง ,ความสูงและตำแหน่งหูที่เหมาะสมพืชปานกลาง พวกเขาจะเป็นผู้บริจาคที่มีศักยภาพ / สายพันธุ์พ่อแม่ในการพัฒนาโปรแกรมไฮบริดในทั่วไปและเทือกเขาหิมาลัยตะวันตกเฉียงเหนือโดยเฉพาะ ความต้านทานที่ระบุแหล่งที่มาอาจจะมีศักยภาพในการพัฒนาโปรแกรมผู้ปกครองลูกผสมข้ามโซนต่าง ๆ ของประเทศ หรือแม้แต่ในประเทศอื่น ๆ การปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อย่างไรก็ตามต้านทานกับท้าทายต่อระบบนิเวศภายใต้เป้าหมายต้องมีการตรวจสอบก่อนที่จะเหนี่ยวนำในโครงการปรับปรุงพันธุ์ลูกผสม