parallel tasks: The first and forem

parallel tasks: The first and foremost task is to conduct academic studies and write a dissertation,
but the other task is to plan and efficiently manage a research project (Katz, 2009).
Phillips and Pugh (2010) discuss elements of project management used for managing doctoral
research. They explain how to define short-term and long-term goals of the research, how to
manage time and tasks, and how to meet deadlines. The authors view the total doctoral project
process as a series of tasks which lead to the progressive reduction of uncertainty. In doctoral research,
as in any research project, uncertainty is high at the beginning. In planned task management,
the candidate reduces the uncertainty as the project advances. McWilliam, Singh, and Taylor
(2002) discuss the topic of risk management in doctoral education. Risk management is another
leading element of project management. The authors discuss risk minimization in the context
of the adviser-student relationship. Graves and Varna (1998) advise the students that “time is
needed to identify, design and carry out the (doctoral) project” (p. 60) and go on to explain how
to plan time, how to plan research phases, and how to practically create a project plan. Graves and
Varna use project management terminology, stressing the significance of meeting deadlines and
the importance of creating milestones along the road to a PhD. Grover (2007) stated that students
are usually capable of completing a doctoral program and are usually highly motivated. A key
element for success is their ability to manage their program and avoid mistakes. Grover offers the
candidates a checklist to be used as an evaluation tool for those who wish to assess the progress
of their doctoral study.
Project management techniques can be easily adjusted to the doctoral research domain (Katz,
2009). This may assist the candidate in planning his or her research systematically and in learning
efficient methods for managing time and effort. It is important to note that most research projects
conducted in the hi-tech scientific industry regularly apply project management tools (Cardinal,
2001).

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ขนานการงาน: งานแรก และสำคัญที่สุดคือการ ดำเนินการศึกษาทางวิชาการ และเขียนดุษฎีนิพนธ์แต่งานมีการ วางแผน และจัดการโครงการวิจัย (แคทซ์ 2009) ได้อย่างมีประสิทธิภาพฟิลลิปส์และพัคห์ (2010) กล่าวถึงองค์ประกอบของการบริหารโครงการที่ใช้สำหรับการจัดการปริญญาเอกวิจัย พวกเขาอธิบายวิธีการกำหนดเป้าหมายระยะสั้น และระยะยาวของงานวิจัย วิธีการจัดการเวลา และการงาน และวิธีการตามกำหนดเวลา ผู้เขียนดูโครงการปริญญาเอกรวมประมวลผลเป็นชุดงานที่นำไปสู่การลดความไม่แน่นอนก้าวหน้า ในงานวิจัยปริญญาเอกในโครงการวิจัย ความไม่แน่นอนจะสูงเมื่อเริ่มต้น ในการจัดการวางแผนงานผู้สมัครช่วยลดความไม่แน่นอนเป็นความก้าวหน้าโครงการ McWilliam สิงห์ และเทย์เลอร์(2002) พูดคุยเรื่องการบริหารความเสี่ยงในการศึกษาระดับปริญญาเอก การบริหารความเสี่ยงเป็นอีกหนึ่งองค์ประกอบหลักของการบริหารโครงการ ผู้เขียนกล่าวถึงการลดความเสี่ยงในบริบทความสัมพันธ์ที่ปรึกษานักเรียน หลุมฝังศพและวาร์ (1998) ให้คำแนะนำนักเรียนว่า "เวลาเป็นเป็นตัวระบุ ออกแบบ และดำเนินการ (ปริญญาเอก)" (p. 60) แล้วไปอธิบายวิธีการวางแผนเวลา วิธีการวางแผนขั้นตอนการวิจัย และวิธีการสร้างแผนโครงการจริง หลุมฝังศพ และวาร์นาใช้ศัพท์การจัดการโครงการ เน้นความสำคัญของกำหนดเวลาการประชุม และระบุความสำคัญของการสร้างเหตุการณ์สำคัญริมถนนถึง PhD. โกรเวอร์ (2007) ที่นักเรียนจะถูกจบปริญญาเอกและมีแรงจูงใจมักจะสูงขึ้น คีย์องค์ประกอบสู่ความสำเร็จคือ ความสามารถในการจัดการโปรแกรมของพวกเขา และหลีกเลี่ยงความผิดพลาด มีโกรเวอร์ผู้สมัครที่สอบที่จะใช้เป็นเครื่องมือการประเมินผลสำหรับผู้ที่ต้องการประเมินความคืบหน้าการเรียนปริญญาเอกเทคนิคการบริหารโครงการสามารถปรับเมนวิจัยปริญญาเอก (แคทซ์2009) . นี้อาจช่วยผู้สมัคร ในการวางแผนวิจัยของเขา หรือเธออย่างเป็นระบบ และ ในการเรียนรู้วิธีที่มีประสิทธิภาพสำหรับการจัดการเวลาและความพยายาม มันเป็นสิ่งสำคัญโปรดสังเกตว่า ส่วนใหญ่งานวิจัยโครงการดำเนินการในทางวิทยาศาสตร์อุตสาหกรรมไฮเทคใช้เครื่องมือการจัดการโครงการ (พระคาร์ดินัล เป็นประจำ2001)

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

งานคู่ขนาน: งานแรกและสำคัญที่สุดคือการดำเนินการศึกษาทางวิชาการและเขียนวิทยานิพนธ์,
แต่งานอื่น ๆ คือการวางแผนและจัดการอย่างมีประสิทธิภาพโครงการวิจัย (แคทซ์ 2009)
ฟิลลิปและพัค (2010) หารือเกี่ยวกับองค์ประกอบของการบริหารจัดการโครงการที่ใช้สำหรับการจัดการเอก
วิจัย พวกเขาอธิบายวิธีการกำหนดระยะสั้นและระยะยาวเป้าหมายของการวิจัยวิธีการ
จัดการเวลาและงานและวิธีการที่จะตรงตามกำหนดเวลา ผู้เขียนดูโครงการปริญญาเอกรวม
กระบวนการเป็นชุดของงานที่นำไปสู่การลดความก้าวหน้าของความไม่แน่นอน ในงานวิจัยปริญญาเอก
ในขณะที่โครงการวิจัยใด ๆ ที่มีความไม่แน่นอนสูงที่จุดเริ่มต้น ในการบริหารงานตามแผน
ผู้สมัครที่จะช่วยลดความไม่แน่นอนเป็นความก้าวหน้าโครงการ McWilliam ซิงห์และเทย์เลอร์
(2002) หารือเรื่องการบริหารความเสี่ยงในด้านการศึกษาปริญญาเอก การบริหารความเสี่ยงเป็นอีกหนึ่ง
องค์ประกอบชั้นนำของการบริหารจัดการโครงการ ผู้เขียนหารือเกี่ยวกับการลดความเสี่ยงในบริบท
ของความสัมพันธ์ที่ปรึกษานักเรียน หลุมฝังศพและ Varna (1998) ให้คำแนะนำนักเรียนว่า "เวลา
ที่จำเป็นในการระบุการออกแบบและการดำเนินการ (เอก) โครงการ" (พี. 60) และไปเพื่ออธิบายวิธีการ
ในการวางแผนเวลาวิธีการวางแผนขั้นตอนการวิจัยและวิธีการ จริงสร้างแผนโครงการ หลุมฝังศพและ
คำศัพท์การจัดการ Varna ใช้โครงการเน้นความสำคัญของการกำหนดเวลาการประชุมและ
ความสำคัญของการสร้างความคืบหน้าไปตามถนนเพื่อปริญญาเอกที่ โกรเวอร์ (2007) ระบุว่านักเรียน
มักจะมีความสามารถในการจบหลักสูตรปริญญาเอกและมักจะมีแรงจูงใจสูง คีย์
องค์ประกอบสำหรับความสำเร็จของพวกเขาคือความสามารถในการจัดการโปรแกรมของพวกเขาและหลีกเลี่ยงความผิดพลาด โกรเวอร์มี
ผู้สมัครรายการตรวจสอบเพื่อนำมาใช้เป็นเครื่องมือในการประเมินผลสำหรับผู้ที่ต้องการที่จะประเมินความคืบหน้า
ของการศึกษาระดับปริญญาเอกของพวกเขา
เทคนิคการบริหารจัดการโครงการที่สามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายเพื่อประสิทธิภาพการวิจัยระดับปริญญาเอก (แคทซ์
2009) นี้อาจช่วยผู้สมัครในการวางแผนการวิจัยของเขาหรือเธอเป็นระบบและในการเรียนรู้
วิธีการที่มีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเวลาและความพยายาม มันเป็นสิ่งสำคัญที่จะต้องทราบว่าส่วนใหญ่โครงการวิจัย
ที่ดำเนินการในอุตสาหกรรมทางวิทยาศาสตร์ไฮเทคอย่างสม่ำเสมอใช้เครื่องมือการจัดการโครงการ (พระคาร์ดินัล
2001)