I have found no greater pleasure in

I have found no greater pleasure in life than reading a good book. When I am in my room with just a dim light, a quilt, and a beloved book, I feel free. I feel as if nothing in the world could touch me. Reading gives me the wonderful opportunity to let go of my worries by simply cracking open the spine of a book; opening it like a doorway to another world. I can get lost in the musky scent of ink on paper, the crinkle of the pages, and the words that dance across the novel for hours. Reading is my treasured escape from reality.
Unfortunately, in today's society, people don't seem to appreciate books as much as they used to. People seem to be more interested in the new technological advances such as the internet, television, and video games. Rather than stopping to smell the roses by appreciating true literature, teenagers my age would rather spend their time gossiping for endless hours on Facebook. Because of this, our world has become increasingly more illiterate and uneducated. It saddens me to see that books, things that people have fought and died for, are now only looked upon as nothing more than a tedious homework assignment.
This is one of the ways where I differ from the majority of society. Because, unlike most people, I do take time to stop and smell the roses. I appreciate the small traditional things that have always been with us. I can marvel over the beauty of the ocean, gaze up at the constellations for hours, and be in awe over the colors of the sunset. But most of all, I can take time to appreciate the literature all around me.
When you open up a book, you are not just simply reading words printed on paper; you are looking at someone's soul by delving yourself into their personal stories and experiences, almost becoming them. For example, through my reading journeys, I have felt Bella's crushing heartbreak in Twilight, I have been on countless magical adventures in Harry Potter , and I have even traveled back in time and experienced what the 30's were like in To Kill A Mockingbird. The possibilities are endless.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ฉันได้พบความสุขไม่มากในชีวิตมากกว่าการอ่านหนังสือดี เมื่อฉันอยู่ในห้องของฉัน มีเพียงมีแสง การควิลท์ หนังสือรัก รู้สึกฟรี ผมรู้สึกว่าไม่มีอะไรในโลกได้สัมผัสฉัน อ่านให้ฉันโอกาสดีปล่อยความกังวลของฉัน โดยเพียงแค่แตกเปิดกระดูกสันหลังของหนังสือ เปิดประตูสู่โลกอื่นเช่น ฉันสามารถได้หายไปในกลิ่น musky ของหมึกบนกระดาษ crinkle หน้า และคำที่เต้นในนิยายสำหรับชั่วโมง อ่านหนีความเป็นจริงของฉันเอาไว้ อับ ในวันนี้สังคม คนดูเหมือนจะ ชื่นชอบหนังสือมากที่สุดเท่าที่เคย คนดูเหมือนจะ มีความสนใจในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ เช่นอินเทอร์เน็ต โทรทัศน์ วิดีโอเกม แทนที่จะหยุดกลิ่นกุหลาบ โดยชอบจริงวรรณคดี วัยรุ่นของฉันอายุจะแจ๋ว ๆ gossiping เวลาของพวกเขาสำหรับชั่วโมงที่สิ้นสุดใน Facebook ด้วยเหตุนี้ โลกของเราได้กลายเป็นมากขึ้น illiterate และตามีตามา มัน saddens ให้ผมเห็นว่า หนังสือ สิ่งที่คนได้สู้ และตาย มีตอนนี้เท่าที่มองเป็นอะไรมากไปกว่าการกำหนดบ้านน่าเบื่อ นี่คือหนึ่งในวิธีที่ฉันแตกต่างจากส่วนใหญ่ของสังคม เนื่องจาก แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ ฉันใช้เวลาในการหยุด และกลิ่นกุหลาบ ฉันขอบคุณสิ่งดั้งเดิมขนาดเล็กที่มีกับเรา ฉันสามารถตะลึงมากกว่าความสวยงามของมหาสมุทร มองที่กลุ่มดาวชั่วโมง และอยู่ในความกลัวผ่านสีของพระอาทิตย์ตก แต่ที่สุดทั้งหมด ฉันสามารถใช้เวลาชื่นชมวรรณคดีทั้งหมดรอบตัว เมื่อคุณเปิดหนังสือ คุณจะไม่เพียงแค่อ่านคำที่พิมพ์ลงบนกระดาษ คุณกำลังมองที่จิตใจของคน โดย delving เองประสบการณ์ และเรื่องส่วนตัวของพวกเขาเกือบจะกลายเป็นพวกเขา ตัวอย่าง ผ่านฉันอ่านเจอร์นีย์ มีรู้สึกฮาร์ตเบรกโฮเทบดของเบลล่าในทไวไลท์ ได้ในการผจญภัยที่มหัศจรรย์มากมายในแฮร์รี่พอตเตอร์ และฉันได้เดินทางกลับในเวลา และประสบการณ์อะไรของ 30 อยู่เช่นการฆ่า A Mockingbird ไปไม่มีสิ้นสุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ฉันได้พบความสุขที่ไม่มีในชีวิตมากขึ้นกว่าการอ่านหนังสือที่ดี เมื่อผมอยู่ในห้องของฉันที่มีเพียงแสงสลัว, ผ้าห่มและหนังสือที่รักผมรู้สึกฟรี ฉันรู้สึกเหมือนไม่มีอะไรในโลกสามารถสัมผัสฉัน อ่านให้ฉันโอกาสที่ดีที่จะปล่อยให้ไปของความกังวลของฉันโดยเพียงแค่เปิดแตกกระดูกสันหลังของหนังสือเล่มนั้น มันเหมือนการเปิดประตูสู่โลกอื่น ฉันจะได้รับหายไปในกลิ่นหอมของหมึกบนกระดาษย่นของหน้าเว็บและคำที่เต้นทั่วนวนิยายเรื่องนี้เป็นเวลาหลายชั่วโมง การอ่านเป็นที่รักของฉันหลบหนีจากความเป็นจริง.
แต่น่าเสียดายที่ในสังคมปัจจุบันที่ผู้คนดูเหมือนจะไม่เห็นคุณค่าของหนังสือมากที่สุดเท่าที่พวกเขาเคย คนดูเหมือนจะมีความสนใจมากขึ้นในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่นอินเทอร์เน็ต, โทรทัศน์และวิดีโอเกม แทนที่จะหยุดในการดมกลิ่นดอกกุหลาบโดยการเห็นคุณค่าที่แท้จริงวรรณกรรมวัยรุ่นอายุของฉันค่อนข้างจะใช้เวลาของพวกเขานินทาสำหรับเวลาสิ้นสุดบน Facebook เพราะเหตุนี้โลกของเราได้กลายเป็นมากขึ้นมากขึ้นและได้รับการศึกษาที่ไม่รู้หนังสือ มันทำให้ฉันเศร้าใจที่จะเห็นว่าหนังสือสิ่งที่คนได้ต่อสู้และเสียชีวิตสำหรับตอนนี้เพียง แต่มองว่าเป็นอะไรมากไปกว่าการมอบหมายการบ้านที่น่าเบื่อ.
นี้เป็นหนึ่งในวิธีการที่ผมแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ของสังคม เพราะแตกต่างจากคนส่วนใหญ่ผมจะใช้เวลาที่จะหยุดและกลิ่นกุหลาบ ฉันขอขอบคุณสิ่งเล็ก ๆ แบบดั้งเดิมที่ได้รับเสมอกับเรา ฉันสามารถประหลาดใจมากกว่าความงามของท้องทะเลที่จ้องมองขึ้นที่กลุ่มดาวสำหรับชั่วโมงและจะอยู่ในความหวาดกลัวมากกว่าสีของพระอาทิตย์ตกดิน แต่ที่สำคัญที่สุดของทั้งหมดที่ฉันสามารถใช้เวลาที่จะชื่นชมวรรณกรรมรอบ ๆ ตัวฉัน.
เมื่อคุณเปิดหนังสือที่คุณไม่ได้เพียงแค่อ่านคำพิมพ์บนกระดาษ คุณกำลังมองหาที่จิตวิญญาณของใครบางคนโดย delving ตัวเองเป็นเรื่องส่วนตัวของพวกเขาและประสบการณ์เกือบกลายเป็นพวกเขา ยกตัวอย่างเช่นผ่านการเดินทางการอ่านของฉันฉันมีความรู้สึกเสียใจบดของเบลล่าใน Twilight ฉันได้รับในการผจญภัยที่มีมนต์ขลังที่นับไม่ถ้วนในแฮร์รี่พอตเตอร์และฉันได้แม้กระทั่งการเดินทางกลับในเวลาและประสบการณ์สิ่งที่ 30 ที่เป็นเหมือนในฆ่ากระเต็น ความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ฉันได้พบความสุขไม่มีมากขึ้นในชีวิตกว่าการอ่านหนังสือที่ดี ตอนที่ฉันอยู่ในห้องของฉัน มีเพียงแสงไฟสลัว มีผ้าห่ม และหนังสือที่รักฉันรู้สึกฟรี ผมรู้สึกว่าไม่มีอะไรจะจับฉัน อ่านให้ฉันโอกาสที่ยอดเยี่ยมที่จะปล่อยผมกังวลเพียงแค่แตกเปิดกระดูกสันหลังของหนังสือ ; เปิดเหมือนประตูไปอีกโลกหนึ่งฉันหลงในกลิ่น musky ของหมึกบนกระดาษ , รอยย่นของหน้าและคำพูดที่เต้นในนวนิยายสำหรับชั่วโมง การอ่านเป็นสมบัติของฉัน หนีจากความเป็นจริง
แต่น่าเสียดายที่ในสังคมปัจจุบัน ผู้คนดูไม่ซึ้ง หนังสือเท่าที่พวกเขาใช้ในการ ผู้คนดูเหมือนจะสนใจในความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต โทรทัศน์ วิดีโอ เกมแทนที่จะหยุดกลิ่นกุหลาบโดย appreciating วรรณกรรมจริง วัยรุ่นอายุของฉันจะใช้เวลาของพวกเขานินทาเจ็ดชั่วโคตรชั่วโมงบน Facebook เพราะเหตุนี้ โลกของเราได้กลายเป็นหนังสือเพิ่มมากขึ้นและไร้การศึกษา มันน่าเศร้าที่เห็นหนังสือ เรื่องที่คนต้องต่อสู้และเสียชีวิตในตอนนี้เท่านั้นที่มองว่าไม่มีอะไรมากกว่าการบ้านที่น่าเบื่อ
นี่เป็นหนึ่งในวิธีที่แตกต่างจากคนส่วนใหญ่ของสังคม เพราะไม่เหมือนคนส่วนใหญ่ ผมเอาเวลาที่จะหยุดและกลิ่นกุหลาบ ผมซาบซึ้งในขนาดเล็กแบบดั้งเดิมสิ่งที่ได้รับเสมอกับเรา ผมประหลาดใจมากกว่าความงามของทะเล มองกลุ่มดาวชั่วโมงและเกรงขามกว่าสีของดวงอาทิตย์ แต่ส่วนมากของทั้งหมดฉันสามารถใช้เวลาในการชื่นชมวรรณกรรมอยู่รอบตัวฉัน
เมื่อคุณเปิดหนังสือ คุณไม่เพียงแค่การอ่านคำที่พิมพ์บนกระดาษ คุณจะมองหาคนที่วิญญาณโดย delving ตัวเองในเรื่องราวส่วนตัวของพวกเขาและประสบการณ์ เกือบกลายเป็นพวกเขา ตัวอย่างเช่น ผ่านการเดินทางการอ่านของผม ผมรู้สึกว่าเบลล่าบดความเสียใจในทไวไลท์ฉันได้รับในการผจญภัยมหัศจรรย์ที่นับไม่ถ้วนในแฮร์รี่ พอตเตอร์ และผมได้เดินทางกลับในเวลาและประสบการณ์ที่ 30 เป็นในการฆ่า Mockingbird . ความเป็นไปได้ไม่มีที่สิ้นสุด