AbstractTo determine longitudinal r

Abstract

To determine longitudinal risk factors for elder abuse and neglect, an established cohort of community-dwelling older adults (n = 2,812) was linked with elderly protective service records over a 9-year follow-up period. Protective services saw 184 (6.5%) individuals in the cohort for any indication, and 47 cohort members were seen for corroborated elder abuse or neglect for a sampling adjusted 9-year prevalence of 1.6% (95% Cl 1.0%, 2.1%). In pooled logistic regression, age, race, poverty, functional disability, and cognitive impairment were identified as risk factors for reported elder mistreatment. Additionally, the onset of new cognitive impairment was also associated with elder abuse and neglect. Because the mechanism of elder mistreatment case-finding in this study was a social welfare system (protective services), the influence of race and poverty as risk factors is likely to be overestimated due to reporting bias.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

บทคัดย่อการตรวจสอบปัจจัยเสี่ยงระยะยาวสำหรับพี่ละเมิดและละเลย ศึกษาการจัดตั้งของชุมชนที่อยู่อาศัยอายุ (n = 2,812) เชื่อมโยงกับระเบียนบริการป้องกันผู้สูงอายุในช่วง 9 ปีติดตามผล บริการป้องกันเห็น 184 (6.5%) บุคคลในการศึกษาสำหรับการบ่งชี้ใด ๆ และสมาชิกศึกษา 47 เห็นเวลาพี่ทหาร หรือละเลยสำหรับตัวอย่างปรับ 9 ปีความชุกของ 1.6% (95% Cl 2.1%, 1.0%) ใน pooled ถดถอยโลจิสติก อายุ การแข่งขัน ความยากจน ความพิการที่ทำงาน และสติปัญญาได้ระบุว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับจอเอ็ลเดอร์รายงาน นอกจากนี้ การโจมตีของสติปัญญาใหม่ก็เกี่ยวข้องกับคนละเมิดและละเลย เนื่องจากกลไกของพี่จอหากรณีศึกษานี้เป็นระบบสวัสดิการทางสังคม (บริการป้องกัน), อิทธิพลของการแข่งขันและความยากจนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีโอกาสที่จะเป็นนการเนื่องจากรายงานความโน้มเอียง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

บทคัดย่อ

การตรวจสอบปัจจัยเสี่ยงระยะยาวสำหรับการละเมิดสูงอายุและละเลยการการศึกษาที่จัดตั้งขึ้นของชุมชนที่อยู่อาศัยผู้สูงอายุ (n = 2,812) คือการเชื่อมโยงกับผู้สูงอายุระเบียนบริการป้องกันในช่วงระยะเวลาติดตาม 9 ปี บริการป้องกันเห็น 184 (6.5%) บุคคลในการศึกษาสำหรับการบ่งชี้ใด ๆ และ 47 สมาชิกได้เห็นการศึกษาสำหรับการละเมิดสูงอายุยืนยันหรือละเลยการสุ่มตัวอย่างปรับชุก 9 ปี 1.6% (95% Cl 1.0%, 2.1%) ใน pooled ถดถอยโลจิสติอายุเชื้อชาติ, ความยากจน, ความพิการการทำงานและความบกพร่องทางสติปัญญาถูกระบุว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงต่อการรายงานการกระทำผิดผู้สูงอายุ นอกจากนี้การโจมตีของความบกพร่องทางสติปัญญาใหม่นอกจากนี้ยังมีความสัมพันธ์กับการละเมิดสูงอายุและละเลย เพราะกลไกการทำงานของผู้สูงอายุการกระทำผิดกรณีการค้นพบในการศึกษาครั้งนี้เป็นระบบสวัสดิการสังคม (บริการป้องกัน) อิทธิพลของการแข่งขันและความยากจนเป็นปัจจัยเสี่ยงที่มีแนวโน้มที่จะได้รับการประเมินเนื่องจากอคติรายงาน

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

บทคัดย่อเพื่อศึกษาปัจจัยเสี่ยงระยะยาวสำหรับการละเมิดผู้สูงอายุและละเลย การก่อตั้งหมู่คนแห่ง community-dwelling ผู้สูงอายุ ( n = 2812 ) คือเชื่อมโยงกับระเบียนบริการป้องกันผู้สูงอายุกว่าระยะเวลาติดตามผล 9 . บริการป้องกันเห็น 184 ( 6.5% ) บุคคลในการติดตามสำหรับการบ่งชี้ใด ๆและ 47 ตั้งแต่ได้เห็นเพื่อยืนยันสมาชิกผู้อาวุโส หรือละเลยสำหรับการสุ่มตัวอย่างปรับ 9 ปีความชุกของ 1.6 เท่า ( 95% CI 1.0% 0.5% ) ในด้าน Logistic Regression , อายุ , เชื้อชาติ , ความยากจน , การการทำงาน และความบกพร่องทางสติปัญญาที่ถูกระบุว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงสำหรับรายงานผู้สูงอายุ การรักษา นอกจากนี้ เริ่มมีอาการของสมองเสื่อมใหม่คือยังเกี่ยวข้องกับการทารุณกรรมผู้สูงอายุ และละเลย เพราะกลไกของผู้อาวุโสทารุณการศึกษาระบบสวัสดิการสังคม ( พิทักษ์ ) อิทธิพลของการแข่งขันและความยากจนเป็นปัจจัยความเสี่ยงมีแนวโน้มที่จะประเมินค่า เนื่องจากรายงานลำเอียง