Today, Thailand supports a clerical

Today, Thailand supports a clerical community of some 280,000 monks who reside at an estimated 30,000 temple monasteries throughout the country. The temples or wats, are sited mostly in the city suburbs, the countryside or on the village outskirts. Being cut off the outside world by the wall, their compounds are generally composed of tree-shaded ground and buildings with sweeping roof lines and spires decorated with gold. A wide space, together with serene ambiance in the temples provides a place for various kinds of activities. They serve as hubs for spiritual pursuit as well as social life. In the past people came to the temples to spend the night, meet some village folks to chat or to play, seek medical treatment, find suitable name foe a newly-born baby, get auspicious time to perform social events, and of course, gain several forms of knowledge. However, after the law of compulsory education was enacted and enforced in 1921, schools were established and the temples had not served as educational places any more.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

วันนี้ ไทยสนับสนุนชุมชนธุรการบางพระ 280,000 ผู้ที่อาศัยอยู่ที่อาราม 30,000 วัดการประเมินทั่วประเทศ วัดหรือวัดเบญจมบพิตร ที่ตั้งส่วนใหญ่อยู่ ใน ชานเมือง ชนบท หรือชานเมืองหมู่บ้าน การตัดโลกภายนอก โดยผนัง สารประกอบของพวกเขาโดยทั่วไปประกอบด้วยพื้นดินที่มีร่มเงาจากต้นไม้และอาคารเส้นกวาดหลังคาและยอดแหลมของโบสถ์ตกแต่ง ด้วยทอง พื้นที่กว้าง พร้อมกับพักผ่อนในวัดให้เป็นสถานที่สำหรับกิจกรรมดี ๆ พวกเขาเป็นฮับสำหรับแสวงหาทางจิตวิญญาณและสังคม ในอดีตคนที่มาวัดจะจ่ายคืน พบคนบางหมู่บ้านใน การสนทนา หรือการเล่น แสวงหาการรักษาทางการแพทย์ ค้นหาศัตรูเหมาะสมชื่อเด็กเกิดใหม่ เวลามงคลในการทำกิจกรรมเพื่อสังคม และแน่นอน หลายรูปแบบของความรู้รับ อย่างไรก็ตาม หลังจากประกาศใช้กฎหมายการศึกษาภาคบังคับ และการบังคับใช้ในปีค.ศ. 1921 ก่อตั้งโรงเรียน และวัดไม่ได้รับบริการการศึกษาเป็น สถานใด ๆ เพิ่มเติม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

วันนี้ประเทศไทยสนับสนุนชุมชนธุรการของพระสงฆ์บาง 280,000 ที่อาศัยอยู่ที่ประมาณ 30,000 อารามวัดทั่วประเทศ วัดหรือวัดเบญจมบพิตรมีอภิมหาส่วนใหญ่อยู่ในเขตชานเมืองเมืองชนบทหรือในเขตชานเมืองหมู่บ้าน ถูกตัดออกจากโลกภายนอกโดยผนัง, สารประกอบของพวกเขามีองค์ประกอบโดยทั่วไปของพื้นดินที่มีต้นไม้สีเทาและอาคารที่มีเส้นหลังคายอดแหลมกวาดและตกแต่งด้วยทอง พื้นที่กว้างพร้อมกับบรรยากาศอันเงียบสงบในวัดให้สถานที่สำหรับหลายชนิดของกิจกรรม พวกเขาทำหน้าที่เป็นฮับสำหรับการแสวงหาทางจิตวิญญาณเช่นเดียวกับชีวิตทางสังคม ในคนที่ผ่านมามาถึงวัดเพื่อจ่ายคืนที่ตอบสนองบางคนในหมู่บ้านที่จะสนทนาหรือการเล่นแสวงหาการรักษาพยาบาลหาชื่อที่เหมาะสมศัตรูทารกที่เพิ่งเกิดได้เวลาอันเป็นมงคลในการดำเนินกิจกรรมทางสังคมและแน่นอนกำไร หลายรูปแบบของความรู้ อย่างไรก็ตามหลังจากที่กฎหมายของการศึกษาภาคบังคับเป็นตราและบังคับใช้ในปี 1921 โรงเรียนถูกจัดตั้งขึ้นและวัดไม่ได้ทำหน้าที่เป็นสถานศึกษาใด ๆ เพิ่มเติม