At first glance, grade retention ma

At first glance, grade retention may look like old-fashioned common sense: Fail the year? Just do it over! In fact, with new emphasis on hard-nosed standards, the tactic is on the rise around the country. Old-fashioned, yes, says the National Association of School Psychologists. But common sense? Not on your life. Retention, cautions the association, is in fact “an ineffective and possibly harmful intervention.”

In fact, says professor Shane Jimerson, PhD., of the University of California in Santa Barbara and nationally respected authority on the topic, the practice may best be described as “educational malpractice.” Those are strong words. So what exactly is the problem? Here’s what studies have found:

Gains are only short term. At first, kids may do a little better, but within 2-3 years, they have generally lost those gains. Faced with new topics but without any help regarding the problems that made their school decide to hold them back in the first place, students continue to struggle.

Losses are long term. By the teen years, “overage” students have different developmental interests than kids in their grade. They have more problems with friends and behavior, and research reveals that they are 5-11 times more likely to drop out of school. “Actually,” the NASP advises parents, “grade retention is one of the most powerful predictors of high school drop out.”

Retention is emotionally devastating for kids. Of course, all kids need to learn to be accountable. Retention, however, seems to lead them to believe they are incompetent and incapable. In a study of sixth graders’ perceptions, for example, students reported, says Jimerson, that grade retention was “as stressful as the loss of a parent and going blind.”

Retention is not used equitably. “The highest retention rates,” Jimerson has found, are “among poor, minority, inner-city youth.” For Hispanic and African-American kids, the retention rates are as high as 50%, and these kids are also more likely to be held back more than once. So if your child is struggling—and perhaps the school has talked about retention—what should you do? Britton Schnurr, PsyD., another researcher and currently a practicing psychologist with the Guilderland, New York, Central School District, cautions strongly. “Parents need to be informed,” she says, that “retention is not a benign intervention.”

But neither does she recommend ignoring a child in trouble. The real question, she says, isn’t whether to promote or retain; it’s “What is getting in the way.” In fact, parent involvement is a top strategy for success. Whether the topic is homework, friendships, or daily curriculum, do not hesitate to ask questions and seek help.

Working closely with your school staff, ask about your child’s learning style, strengths and weaknesses. What special supports, extensions and adjustments can the school provide to meet those needs? When those questions aren’t answered, says the NASP, kids lose. On the other hand, when parents, teachers, and school specialists work together, everyone wins: kids stay with their peers, learn what they need to learn, and can grow up healthy and whole.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ได้อย่างรวดเร็วก่อนการเก็บรักษาเกรดอาจมีลักษณะเช่นสามัญสำนึกสมัยเก่า: ล้มเหลวในปี? เพียงแค่ทำมันกว่า! ในความเป็นจริงกับใหม่เน้นมาตรฐานยากจมูกชั้นเชิงเป็นที่เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ สมัยเก่าใช่สมาคมแห่งชาติของโรงเรียนจิตวิทยาพูดว่า แต่สามัญสำนึก? ไม่ได้อยู่ในชีวิตของคุณ การเก็บรักษาข้อควรระวังสมาคม,ในความเป็นจริง "แทรกแซงไม่ได้ผลและเป็นอันตรายอาจ."

ในความเป็นจริงอาจารย์เชน jimerson, PhD พูดว่า. จากมหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียในซานตาบาร์บาร่าและการยอมรับอำนาจของชาติในหัวข้อการปฏิบัติที่ดีที่สุดอาจจะอธิบายว่า "การศึกษา การทุจริตต่อหน้าที่. "เหล่านั้นเป็นคำที่แข็งแกร่ง ดังนั้นสิ่งที่ว่าปัญหาคืออะไร นี่คือสิ่งที่มีการศึกษาพบว่า:

กำไรเป็นเพียงระยะสั้นในตอนแรกเด็กอาจจะทำดีขึ้นเล็กน้อย แต่ภายใน 2-3 ปีพวกเขาได้สูญเสียโดยทั่วไปเพิ่มขึ้นดังกล่าว ต้องเผชิญกับหัวข้อใหม่ แต่โดยความช่วยเหลือเกี่ยวกับปัญหาที่ทำให้โรงเรียนของพวกเขาตัดสินใจที่จะถือพวกเขากลับมาในครั้งแรกที่ใดที่นักเรียนยังคงต่อสู้.

เป็นความสูญเสียในระยะยาว โดยปีที่ผ่านมาวัยรุ่น, "อายุเกินขีด" นักเรียนมีความสนใจในการพัฒนาที่แตกต่างกันมากกว่าเด็กในชั้นของพวกเขาพวกเขามีปัญหากับเพื่อนและพฤติกรรมและการวิจัยแสดงให้เห็นว่าพวกเขาเป็น 5-11 ครั้งมีแนวโน้มที่จะออกจากโรงเรียน "จริง" nasp ให้คำแนะนำแก่พ่อแม่ "เกรดการเก็บรักษาเป็นหนึ่งในการพยากรณ์ที่มีประสิทธิภาพมากที่สุดของการลดลงของโรงเรียนมัธยมออก."

การเก็บรักษาคือการทำลายล้างทางอารมณ์สำหรับเด็ก ของหลักสูตรที่เด็กทุกคนต้องเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบ การเก็บรักษาอย่างไรก็ตามดูเหมือนว่าจะนำพวกเขาไปเชื่อว่าพวกเขาไร้ความสามารถและไม่สามารถ ในการศึกษาการรับรู้ของนักเรียนชั้นหก 'ตัวอย่างเช่นนักเรียนรายงาน jimerson ที่เก็บเกรดก็พูดว่า "ในขณะที่ความตึงเครียดในขณะที่การสูญเสียของผู้ปกครองและจะตาบอด."

การเก็บรักษาที่ไม่ได้ใช้อย่างเท่าเทียมกัน "สูงสุดอัตราการยึด" jimerson ได้พบเป็น "หมู่ยากจนของชนกลุ่มน้อยเยาวชนเขตเมืองชั้นใน"สำหรับเด็กสเปนและแอฟริกัน, อัตราการยึดจะเป็นสูงถึง 50% และเด็กเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะกลับยื่นมากกว่าหนึ่งครั้ง ดังนั้นหากบุตรหลานของท่านจะดิ้นรนและบางทีอาจจะเป็นโรงเรียนที่มีการพูดคุยเกี่ยวกับการเก็บรักษาสิ่งที่คุณควรทำอย่างไร บริท Schnurr, psyd. นักวิจัยอื่นและขณะนี้นักจิตวิทยากับการฝึก Guilderland, นิวยอร์ก, กลางโรงเรียนอำเภอข้อควรระวังอย่างยิ่ง "พ่อแม่ผู้ปกครองจะต้องมีการแจ้งให้ทราบ" เธอกล่าวว่า "การเก็บรักษาที่ไม่ได้เป็นพิษเป็นภัยต่อการแทรกแซง."

แต่เธอก็ไม่แนะนำให้เด็กไม่สนใจในปัญหา คำถามจริงเธอพูดไม่ได้ว่าจะส่งเสริมหรือรักษา; ". สิ่งที่จะได้รับในทาง" มันเป็นในความเป็นจริงการมีส่วนร่วมของผู้ปกครองเป็นกลยุทธ์ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดสำหรับ ไม่ว่าจะเป็นหัวข้อการบ้านมิตรภาพหรือหลักสูตรทุกวันไม่ลังเลที่จะถามคำถามและขอความช่วยเหลือ.

การทำงานอย่างใกล้ชิดกับเจ้าหน้าที่ของโรงเรียนของคุณถามเกี่ยวกับรูปแบบการเรียนรู้ของเด็กจุดแข็งและจุดอ่อน สิ่งพิเศษรองรับส่วนขยายและปรับเปลี่ยนโรงเรียนสามารถให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการเหล่านั้นหรือไม่ เมื่อคำถามเหล่านั้นยังไม่ได้ตอบว่า nasp เด็กสูญเสีย บนมืออื่น ๆ , ตอนที่พ่อแม่ครูอาจารย์และผู้เชี่ยวชาญโรงเรียนทำงานร่วมกันเป็นผู้ชนะทุกคน: เด็กพักอยู่กับเพื่อนของพวกเขาได้เรียนรู้สิ่งที่พวกเขาจำเป็นต้องเรียนรู้และสามารถเติบโตได้ทั้งสุขภาพดีและ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อย่างรวดเร็วก่อน เกรดคงอาจดูเหมือนสามัญสำนึกไม: ล้มปี เพียงแค่ทำมันมากกว่า ในความเป็นจริง โดยเน้นมาตรฐาน hard-nosed ใหม่ แทได้เพิ่มขึ้นทั่วประเทศ Old-fashioned ใช่ กล่าวว่า นักที่ชาติสมาคมของโรงเรียนจิตวิทยา ทั่วไปแต่ความรู้สึก ไม่ได้อยู่ในชีวิตของคุณ รักษา cautions สมาคม ในความเป็นจริงคือ "การไม่มีประสิทธิภาพ และเป็นอันตรายอาจจัดการ"

ในความเป็นจริง ว่า ศาสตราจารย์ Shane Jimerson ปริญญาเอก มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียซานตาบาร์บาร่าและหัวข้อ ผู้ยอมรับผลงานของการปฏิบัติอาจส่วนจะอธิบายว่า "ศึกษา malpractice" ที่มีคำแรง ดังนั้น ว่าอะไรเป็นปัญหาหรือไม่ นี่คือสิ่งที่ศึกษาได้พบ:

กำไรเป็นระยะสั้นเท่านั้น ครั้งแรก เด็กอาจดีขึ้น แต่หายภายใน 2-3 ปี พวกเขามีทั่วไปกำไรเหล่านั้น ต้องเผชิญ กับหัวข้อใหม่ แต่ไม่ มีความช่วยเหลือใด ๆ เกี่ยวกับปัญหาที่ทำให้โรงเรียนของพวกเขาตัดสินใจที่จะเก็บพวกเขาไปในสถานแรก นักเรียนต่อการต่อสู้

ขาดทุนเป็นระยะยาว โดยปีวัยรุ่น นักเรียน "เกิน" มีแตกต่างพัฒนาสนใจมากกว่าเด็กในชั้นของตน มีปัญหาเพิ่มเติมกับเพื่อนและพฤติกรรม และการวิจัยเปิดเผยว่า จะ 5 - 11 ครั้งมีแนวโน้มออกจากโรงเรียน "จริง NASP แนะผู้ปกครอง "เกรดคงเป็นหนึ่ง predictors มีประสิทธิภาพสูงสุดของมัธยมหล่นออกมา"

คงเป็นเรื่องอารมณ์สำหรับเด็ก แน่นอน เด็กทั้งหมดต้องการเรียนรู้ที่จะรับผิดชอบ เก็บข้อมูล อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าจะ ทำให้เชื่อว่า ไร้ความสามารถ และไม่สามารถ ในการศึกษาการรับรู้ของนักเรียน 6 ตัวอย่าง นักเรียน รายงานว่า Jimerson ว่า เกรดคงไม่ "สุดเครียดเป็นการสูญเสียหลักและคนตาบอดไป"

คงไม่ใช้ equitably "สูงสุดคง, " พบ Jimerson เป็นราคา "ระหว่างคนจน ชนกลุ่มน้อย เยาวชนภายใน"Hispanic African-American เด็ก ราคาคงจะสูงถึง 50% และเด็กเหล่านี้ยังมีแนวโน้มที่จะมีขึ้นไปมากกว่าหนึ่งครั้ง ดังนั้นถ้าลูกของคุณกำลังดิ้นรน — และบางทีโรงเรียนได้พูดคุยเกี่ยวกับรักษา — อะไรควรจะทำหรือไม่ Britton Schnurr, PsyD นักวิจัยอื่น และปัจจุบันจิตวิทยาซ้อม Guilderland นิวยอร์ก เซ็นทรัลโรงเรียน อำเภอ cautions อย่างยิ่ง "ผู้ปกครองต้องรับทราบ เธอกล่าวว่า ว่า "คงไม่ได้แทรกแซงที่อ่อนโยน"

แต่แนะนำไม่เธอให้ละเว้นเด็กปัญหาการ ถามจริง เขากล่าวว่า ไม่ว่าจะส่งเสริม หรือ รักษา มี "อะไรจะได้รับในลักษณะ" ในความเป็นจริง หลักมีส่วนร่วมเป็นกลยุทธ์ด้านความสำเร็จ ว่าหัวข้อเป็นการบ้าน องค์ หรือหลัก สูตรทุกวัน ไม่ลังเลที่จะถามคำถาม และค้นหาวิธีใช้

ทำงานใกล้ชิดกับพนักงานโรงเรียน สอบถามเกี่ยวกับลักษณะการเรียนรู้กับเด็ก จุดแข็ง และจุดอ่อน สิ่งสนับสนุนพิเศษ ขยาย และปรับปรุงโรงเรียนจัดเพื่อตอบสนองผู้ที่ต้องการหรือไม่ เมื่อเหล่านั้นไม่ได้ตอบคำถาม ว่า NASP เด็กหาย บนมืออื่น ๆ เมื่อพ่อแม่ ครู และโรงเรียนผู้เชี่ยวชาญทำงานร่วมกัน ทุกคนชนะ: พักกับเพื่อน ๆ ของเขา เด็กเรียนรู้สิ่งที่พวกเขาต้องเรียนรู้ และสามารถเติบโต เน้น

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ที่แวบแรกยึด คุณภาพ อาจมีลักษณะเหมือนกับความรู้สึกร่วมกันแบบเก่าไม่สามารถปี เพียงทำได้มากกว่า ในความเป็นจริงแล้วพร้อมด้วยการเน้นย้ำใหม่ที่ได้มาตรฐานหนัก - หมูหริ่งกลยุทธ์ที่เพิ่มขึ้นได้โดยรอบประเทศ แบบเก่าได้กล่าวการเชื่อมโยงของนักจิตวิทยาโรงเรียน แต่ความรู้สึกเรื่องทั่วไปใช่หรือไม่ ไม่ได้อยู่ในชีวิตของคุณ. ยึดข้อควรระวังการเชื่อมโยงในความเป็นจริงแล้ว"การแทรกแซงไม่ได้ผลและอาจเป็นไปได้ที่อาจเป็นอันตรายต่อ"

กล่าวว่าในความเป็นจริงมี jimerson ศาสตราจารย์ผู้เชี่ยวชาญปริญญาดุษฎีบัณฑิต.ของมหาวิทยาลัยของรัฐแคลิฟอร์เนียใน Santa Barbara ' s และหน่วยงานระดับชาติได้รับความเคารพในหัวข้อ"การปฏิบัติที่อาจได้รับการพิจารณาให้เป็น" malpractice เพื่อการศึกษา"ที่มีคำว่า strong ที่ดีที่สุด ดังนั้นอะไรคือปัญหา นี่คือสิ่งที่มีการศึกษาพบว่าการเพิ่มขึ้น:

เป็นเพียงระยะสั้นเพื่อไปถึงได้ไม่ไกลนักในช่วงแรกเด็กก็ไม่อาจได้ดียิ่งขึ้น 2-3 2-3 2-3 ปีแล้วแต่อยู่ ภายใน ก็ต้องเสียเพิ่มขึ้นผู้ที่โดยทั่วไปแล้ว ต้องเผชิญหน้ากับหัวข้อใหม่แต่ไม่มีใครช่วยการแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นที่ทำให้โรงเรียนของตนตัดสินใจที่จะไว้ให้กลับไปอยู่ในสถานที่ที่เป็นครั้งแรกที่นักเรียนทำต่อเพื่อการต่อสู้.

ขาดทุนเป็นระยะยาว วัยรุ่นตอนปลายปีโดยที่"อายุเกินขีด"นักเรียนมีความสนใจการพัฒนาการแตกต่างจากเด็กที่อยู่ในระดับเกรดเอของพวกเขาพวกเขามีปัญหาเพิ่มมากขึ้นพร้อมด้วยลักษณะการทำงานและเพื่อนๆและการวิจัยเปิดเผยว่าพวกเขามี 5-11 5-11 5-11 5-11 เวลามีแนวโน้มมากขึ้นที่จะส่งออกไปในโรงเรียน "จริงๆแล้ว" nasp ที่แนะนำให้ผู้ปกครอง"ยึด คุณภาพ เป็นหนึ่งในปัจจัยทำนายทรงพลังมากที่สุดที่จะส่งโรงเรียนสูงขึ้นจาก"

ยึดเป็นอันตรายอย่างยิ่งอารมณ์สำหรับเด็ก แน่นอนว่าเด็กทั้งหมดจำเป็นต้องเรียนรู้ที่จะมีความรับผิดชอบ แต่ถึงอย่างไรก็ตามการยึดดูเหมือนจะนำไปสู่ให้เชื่อว่าพวกเขาเป็นคนไร้ความสามารถและไม่สามารถขยับเขยื้อน ในการศึกษาของการรับรู้ของ graders ที่หกตัวอย่างเช่นนักศึกษารายงานว่า jimerson ที่ยึด คุณภาพ เป็น"เป็นการระบายความร้อนเป็นการสูญเสียของพ่อแม่และจะไปโดยไม่ต้องถามโดย"

ยึดไม่ได้นำมาใช้อย่างเป็นธรรม "อัตราการยึดสูงสุดที่" jimerson พบเป็น"กลุ่มเยาวชนด้านใน - เมืองส่วนน้อยผู้น่าสงสาร"สำหรับเด็กๆและชาวอเมริกันเชื้อสายแอฟริกันที่มีอัตราการยึดที่สูงถึง 50% และเด็กๆเหล่านี้ยังมีโอกาสจะได้จัดขึ้นกลับไปมากกว่าหนึ่งครั้ง ดังนั้นหากลูกของคุณเป็นคนกำลังต่อสู้กันอยู่และอาจจะเรียนในโรงเรียนที่มีคุยกันถึงเรื่องการยึด - คุณจะทำ britton schnurr psyd .นักวิจัยอีกคนหนึ่งที่อยู่ในปัจจุบันและนักจิตวิทยาซ้อมด้วย guilderland ที่ New York , Central เขตการศึกษาข้อควรระวังอย่างมาก "พ่อแม่ต้องใช้การได้รับแจ้งให้ทราบ"เธอกล่าวว่า"การรักษาที่ไม่ได้เข้ามาแทรกแซงอ่อนโยนที่"

แต่ก็ไม่สนใจเธอขอแนะนำให้เด็กที่อยู่ในเหตุขัดข้อง คำถามที่แท้จริงที่เธอบอกว่าไม่ได้ไม่ว่าจะเป็นการส่งเสริมหรือไม่คงไว้ซึ่งเป็น"คืออะไรในทางการที่"ในความเป็นจริงการมีส่วนร่วมของพ่อแม่เป็นกลยุทธ์ที่เหมาะสำหรับความสำเร็จ ไม่ว่าหัวข้อที่มีการบ้าน มิตรภาพหรือหลักสูตรทุกวันไม่ได้โปรดอย่าลังเลที่จะขอตั้งคำถามและพยายามหาทางช่วย.

ทำงานอย่างใกล้ชิดร่วมกับพนักงานของคุณสอบถามเกี่ยวกับสไตล์การเรียนรู้ของลูกคุณจุดแข็งและจุดอ่อน การปรับเปลี่ยนคืออะไรและการขยายสนับสนุนพิเศษสามารถเรียนในโรงเรียนที่จัดให้บริการเพื่อตอบสนองความต้องการผู้ที่ เมื่อตอบคำถามผู้ที่ไม่ได้ตอบว่า nasp ที่เด็กๆเสีย ในอีกด้านหนึ่งเมื่อครูอาจารย์ผู้ปกครองและผู้เชี่ยวชาญด้านโรงเรียนทำงานร่วมกันทุกคนรางวัลสำหรับเด็กเข้าพักกับเพื่อนร่วมงานของพวกเขาเรียนรู้ว่าอะไรคือสิ่งที่จำเป็นในการเรียนรู้และสามารถเติบโตขึ้นและมี สุขภาพ ดีทั้งหมด