Multiple symptoms in cancer patient

Multiple symptoms in cancer patients present a complicated pattern of relationships. The current
challenge is to demonstrate convincingly the presence and utility of the construct of a symptom
cluster. Another challenge is to address confounding factors in the research design. The sampling
plan should control for cancer diagnosis and stage of disease as well as the type of cancer treatment.
Symptom measurement should be timed to the landmarks of the disease and treatment
process. Palliative management of symptoms should be accounted for. An ideal symptom cluster
measure includes parallel dimensions of each symptom within the same time frame using the
same method of scaling responses to questions. For intervention studies, intervention
development should focus on optimal management of all symptoms in the cluster. Analytic
methods can include factor analysis to determine the underlying structure of a group of
symptoms, cluster analysis to define group of individuals with similar symptom patterns, and
path models to examine direct and indirect relationships among symptoms. Continued study of
multiple symptoms will yield empirical confirmation or denial of the existence of symptom
clusters. It will also yield increased understanding of the patterns of association, interaction, and
synergy of multiple symptoms that produce specific clinical outcomes. Understanding the
complex symptom experience of oncology patients will provide a scientific basis and new
directions for clinical assessment and intervention.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

หลายอาการในผู้ป่วยโรคมะเร็งปัจจุบันรูปแบบความซับซ้อนของความสัมพันธ์ ปัจจุบันท้าทายคือการ สาธิตตะล่อมแสดงตนและประโยชน์ของโครงสร้างของอาการคลัสเตอร์ ความท้าทายคือการปัจจัยรบกวนในการออกแบบวิจัย สุ่มตัวอย่างแผนควรควบคุมมะเร็งและระยะของโรคเช่นเดียวกับชนิดของมะเร็งการวัดอาการควรหมดเวลาไปสถานที่สำคัญของการเกิดโรคและการรักษากระบวนการ การจัดการอาการประคับควรจะลงบัญชี คลัสเตอร์มีอาการดีวัดรวมถึงมิติคู่ขนานของแต่ละอาการภายในกรอบเวลาเดียวกันโดยใช้การวิธีการเดียวกันของมาตราส่วนการตอบคำถาม แทรกแซงศึกษา แทรกแซงการพัฒนาควรเน้นที่การจัดการที่ดีที่สุดของอาการทั้งหมดในคลัสเตอร์ วิเคราะห์วิธีสามารถรวมวิเคราะห์ปัจจัยในการกำหนดโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มอาการ การวิเคราะห์คลัสเตอร์เพื่อกำหนดกลุ่มของบุคคลที่มีรูปแบบคล้ายกันในอาการ และแบบจำลองเส้นทางการตรวจสอบความสัมพันธ์ทั้งทางตรง และทางอ้อมระหว่างอาการ การศึกษาอย่างต่อเนื่องอาการหลายอย่างจะให้ผลเชิงประจักษ์ยืนยันหรือปฏิเสธการดำรงอยู่ของอาการคลัสเตอร์ มันจะยังทำให้ความเข้าใจเพิ่มขึ้นรูปแบบของสมาคม โต้ตอบ และทำงานร่วมกันหลายอาการที่ผลิตผลลัพธ์ทางคลินิกที่เฉพาะเจาะจง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับการประสบการณ์อาการซับซ้อนของผู้ป่วยมะเร็งจะให้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และคำแนะนำสำหรับการประเมินทางคลินิกและการแทรกแซง

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

หลายอาการในผู้ป่วยมะเร็งนำเสนอรูปแบบที่มีความซับซ้อนของความสัมพันธ์ ปัจจุบัน
ความท้าทายคือการแสดงให้เห็นถึงประทับใจการแสดงตนและประโยชน์ของการสร้างของอาการที่
คลัสเตอร์ ท้าทายอีกประการหนึ่งคือการอยู่ที่ปัจจัยในการออกแบบการวิจัย การสุ่มตัวอย่าง
แผนควรควบคุมสำหรับการวินิจฉัยโรคมะเร็งและระยะของโรคเช่นเดียวกับประเภทของการรักษาโรคมะเร็ง.
วัดอาการควรจะหมดเวลากับสถานที่สำคัญของการเกิดโรคและการรักษา
กระบวนการ การจัดการแบบประคับประคองอาการควรจะคิด คลัสเตอร์อาการเหมาะ
วัดรวมถึงมิติคู่ขนานของแต่ละอาการภายในกรอบเวลาเดียวกันโดยใช้
วิธีการเดียวกันในการปรับการตอบสนองต่อคำถาม สำหรับการศึกษาการแทรกแซงการแทรกแซง
การพัฒนาควรมุ่งเน้นการบริหารจัดการที่ดีที่สุดของอาการทั้งหมดในคลัสเตอร์ การวิเคราะห์
วิธีการสามารถรวมถึงการวิเคราะห์ปัจจัยในการกำหนดโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มของ
อาการการวิเคราะห์กลุ่มเพื่อกำหนดกลุ่มบุคคลที่มีรูปแบบอาการคล้ายกันและ
แบบจำลองเส้นทางเพื่อตรวจสอบความสัมพันธ์โดยตรงและโดยอ้อมในหมู่อาการ การศึกษาต่อเนื่องของ
หลายอาการจะให้ผลผลิตเชิงประจักษ์ยืนยันหรือปฏิเสธการดำรงอยู่ของอาการ
กลุ่ม นอกจากนี้ยังจะให้ความเข้าใจที่เพิ่มขึ้นของรูปแบบของสมาคมปฏิสัมพันธ์และ
การทำงานร่วมกันของหลายอาการที่ผลิตผลลัพธ์ทางคลินิกที่เฉพาะเจาะจง ทำความเข้าใจเกี่ยวกับ
ประสบการณ์ที่ซับซ้อนอาการของผู้ป่วยเนื้องอกวิทยาจะให้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์และใหม่
ทิศทางการประเมินทางคลินิกและการแทรกแซง

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาการในผู้ป่วยโรคมะเร็ง ปัจจุบันรูปแบบที่ซับซ้อนของความสัมพันธ์หลาย ปัจจุบันความท้าทายคือการ แสดงให้เห็นถึงความสถานะและประโยชน์ของการสร้างของอาการกลุ่ม ความท้าทายอีกประการหนึ่งคือที่อยู่ confounding ปัจจัยในการออกแบบการวิจัย การสุ่มตัวอย่างแผนควรควบคุมสำหรับการวินิจฉัยโรคมะเร็งและระยะของโรค รวมทั้งประเภทของการรักษามะเร็งการวัดอาการ ควรตั้งเวลาให้จุดของโรคและการรักษากระบวนการ การจัดการแบบประคับประคองอาการ ควรคิด เป็นกลุ่มอาการเหมาะวัดรวมถึงมิติคู่ขนานของแต่ละอาการภายในกรอบเวลาเดียวกันโดยใช้วิธีเดียวกับการปรับการตอบสนองต่อ คำถาม การศึกษาการแทรกแซงการแทรกแซงการพัฒนาควรเน้นการจัดการที่เหมาะสมของอาการในกลุ่ม เชิงวิเคราะห์วิธีสามารถรวมการวิเคราะห์ปัจจัยกำหนดโครงสร้างพื้นฐานของกลุ่มอาการการวิเคราะห์การเกาะกลุ่มเพื่อกำหนดกลุ่มบุคคลที่มีรูปแบบอาการคล้ายคลึงกันเส้นทางแบบศึกษาความสัมพันธ์ทางตรงและทางอ้อมของอาการ ต่อการศึกษาอาการหลายจะให้ผลเชิงประจักษ์ยืนยันหรือปฏิเสธการดำรงอยู่ของอาการกลุ่ม มันก็จะยังให้ผลผลิตเพิ่มความเข้าใจในรูปแบบของสมาคม ปฏิสัมพันธ์ และผลของอาการต่าง ๆ ที่ผลิตเฉพาะผลลัพธ์ทางคลินิก . เข้าใจประสบการณ์อาการที่ซับซ้อนของผู้ป่วยมะเร็งจะให้พื้นฐานทางวิทยาศาสตร์ และใหม่แนวทางการประเมินทางคลินิกและการแทรกแซง