Singapore is one of the world's maj

Singapore is one of the world's major commercial hubs, with the fourth-biggest financial centre and one of the five busiest ports. Its globalised and diversified economy depends heavily on trade, especially manufacturing, which represented 26 percent of Singapore's GDP in 2005. In terms of purchasing power parity, Singapore has the third-highest per capita income in the world but one of the world's highest income inequalities. It places highly in international rankings with regard to education, healthcare, and economic competitiveness. Approximately 5.4 million people live in Singapore (June 2013), of which approximately two million are foreign-born. While Singapore is diverse, ethnic Asians predominate: 75 percent of the population is Chinese, with significant minorities of Malays, Indians, and Eurasians. There are four official languages, English, Malay, Mandarin, and Tamil, and the country promotes multiculturalism through a range of official policies.

Singapore is a unitary multiparty parliamentary republic, with a Westminster system of unicameral parliamentary government. The People's Action Party has won every election since self-government began in 1959. The dominance of the PAP, coupled with a low level of press freedom and suppressed civil liberties and political rights, has led to Singapore being classified as a semi-authoritarian regime. One of the five founding members of the Association of South East Asian Nations (ASEAN), Singapore is also the host of the Asia-Pacific Economic Cooperation (APEC) Secretariat, and a member of the East Asia Summit, the Non-Aligned Movement, and the Commonwealth. Singapore's rapid development has given it significant influence in global affairs, leading some analysts to identify it as a middle power.[9][10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

สิงคโปร์เป็นหนึ่งในโลกหลักค้าฮับ กับศูนย์กลางทางการเงินที่ใหญ่ที่สุดสี่พอร์ตอันดับห้าหนึ่ง เศรษฐกิจของ globalised และหลากหลายขึ้นมากเกี่ยวกับการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิต ซึ่งแสดงถึงร้อยละ 26 ของสิงคโปร์ GDP ในปี 2005 ในแง่ของความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ สิงคโปร์มีรายได้สูงสุดสามต่อหัวในโลกแต่ในโลกความเหลื่อมล้ำทางรายได้สูงสุดอย่างใดอย่างหนึ่ง มันสูงในการจัดอันดับระหว่างประเทศเกี่ยวกับการศึกษา สุขภาพ และการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ประมาณ 5.4 ล้านคนอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ (2556 มิถุนายน), ซึ่งประมาณสองล้าน foreign-born ขณะที่สิงคโปร์มีความหลากหลาย ชาวเอเชีย predominate: ร้อยละ 75 ของประชากรคือจีน กับคมิสำคัญเชื้อสายมลายู อินเดีย และ Eurasians มีสี่ทางภาษา อังกฤษ มาเลย์ จีนกลาง และทมิฬ และประเทศส่งเสริม multiculturalism ผ่านช่วงของนโยบายอย่างเป็นทางการสิงคโปร์เป็นแบบ unitary multiparty รัฐสภาสาธารณรัฐ ด้วยระบบเวสต์มินสเตอร์ของรัฐบาลรัฐสภา unicameral คนของพรรคได้รับเลือกตั้งทุกตั้งแต่ self-government เริ่มใน 1959 ครอบงำของ PAP ควบคู่ไปกับระดับต่ำความกด และหยุดเสรีภาพ และ สิทธิทางการเมือง ได้นำไปถูกจัดประเภทเป็นระบอบกึ่งประเทศสิงคโปร์ หนึ่งในสมาชิกก่อตั้ง 5 ของสมาคมของใต้เอเชียตะวันออกประเทศ (อาเซียน), สิงคโปร์เป็นโฮสต์ของงานบริหารงานเอเชียแปซิฟิกเศรษฐกิจความร่วมมือ (เอเปค) และสมาชิก ของการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ย้าย Non-Aligned เครือ พัฒนาอย่างรวดเร็วของสิงคโปร์ได้ให้มันมีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญในกิจการสากล นำบางนักวิเคราะห์ระบุเป็นอำนาจกลาง[9][10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

สิงคโปร์เป็นหนึ่งของโลกฮับการค้าที่สำคัญที่มีศูนย์กลางทางการเงินที่สี่ที่ใหญ่ที่สุดและเป็นหนึ่งในห้าพอร์ตที่คึกคักที่สุด เศรษฐกิจทั่วโลกและมีความหลากหลายของมันขึ้นอยู่กับการค้าโดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตซึ่งคิดเป็นร้อยละ 26 ของจีดีพีของสิงคโปร์ในปี 2005 ในแง่ของกำลังซื้อภาคสิงคโปร์มีสามสูงสุดรายได้ต่อหัวในโลก แต่อย่างใดอย่างหนึ่งของความไม่เท่าเทียมกันของรายได้สูงที่สุดในโลก . มันสถานที่ในการจัดอันดับสูงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการศึกษาการดูแลสุขภาพและการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ประมาณ 5,400,000 คนอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ (มิถุนายน 2013) ที่ประมาณสองล้านคนเป็นชาวต่างชาติที่เกิด ในขณะที่สิงคโปร์มีความหลากหลายทางเชื้อชาติเอเชียครอบงำ: ร้อยละ 75 ของประชากรที่อยู่ในจีนมีชนกลุ่มน้อยอย่างมีนัยสำคัญของมาเลเซีย, อินเดีย, และยูเรเชีย มีสี่ภาษาอย่างเป็นทางการ, อังกฤษ, มาเลย์, แมนดารินและทมิฬและประเทศส่งเสริมความหลากหลายทางวัฒนธรรมผ่านช่วงของนโยบายอย่างเป็นทางการ. สิงคโปร์เป็นรัฐสภาสาธารณรัฐรวมกันหลายที่มีระบบรัฐสภาของรัฐบาลของรัฐสภาซึ่งมีสภาเดียว คนของพรรคกระทำได้รับการเลือกตั้งทุกครั้งตั้งแต่รัฐบาลตัวเองเริ่มต้นขึ้นในปี 1959 การครอบงำของ PAP ควบคู่กับระดับต่ำของเสรีภาพสื่อมวลชนและปราบปรามเสรีภาพของพลเมืองและสิทธิทางการเมืองได้นำไปสู่สิงคโปร์ถูกจัดว่าเป็นระบอบการปกครองกึ่งเผด็จการ . หนึ่งในห้าสมาชิกของสมาคมผู้ก่อตั้งของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (ASEAN) สิงคโปร์ยังเป็นเจ้าภาพของเอเชียแปซิฟิกความร่วมมือทางเศรษฐกิจ (เอเปค) เลขาธิการและเป็นสมาชิกของเอเชียตะวันออกประชุมสุดยอดไม่ใช่แนวทางเคลื่อนไหว, และเครือจักรภพ การพัฒนาอย่างรวดเร็วของสิงคโปร์ได้ให้มันมีอิทธิพลอย่างมีนัยสำคัญในกิจการระดับโลกที่นักวิเคราะห์บางคนที่จะระบุว่าเป็นอำนาจกลาง. [9] [10]

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

สิงคโปร์ เป็นหนึ่งของโลกเป็นฮับการค้าที่สำคัญมี 4 ศูนย์ทางการเงินครั้งใหญ่ที่สุดและเป็นหนึ่งในห้าอันดับพอร์ต ของโลกาภิวัตน์และเศรษฐกิจหลากหลายขึ้นอยู่อย่างมากในการค้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งการผลิตซึ่งแสดง 26 เปอร์เซ็นต์ของ GDP ของสิงคโปร์ในปี 2548 ในแง่ของความเท่าเทียมกันของอำนาจซื้อ ,สิงคโปร์มีที่สามสูงสุดรายได้ต่อหัวในโลก แต่เป็นโลกสูงสุดรายได้อสมการ สถานที่สูงในอันดับนานาชาติเกี่ยวกับการศึกษา สุขภาพ และความสามารถในการแข่งขันทางเศรษฐกิจ ประมาณ 5.4 ล้านคนอาศัยอยู่ในสิงคโปร์ ( มิถุนายน 2013 ) ซึ่ง ประมาณสองล้านบาท ต่างชาติกำเนิด ในขณะที่สิงคโปร์มีหลากหลายชาติพันธุ์เอเชียเหนือกว่า :ร้อยละ 75 ของประชากรจีนมีชนกลุ่มน้อยที่สำคัญของมาเลเซีย , อินเดีย และ eurasians . มี 4 ภาษา , อังกฤษ , มาเลย์ , จีนกลางและทมิฬ และประเทศส่งเสริมพหุวัฒนธรรมนิยมผ่านช่วงของนโยบายอย่างเป็นทางการ

สิงคโปร์เป็นหนึ่งเดียวแบบพหุพรรคสาธารณรัฐกับระบบรัฐสภาของส่วนประกอบของห้องเดี่ยวรัฐสภารัฐบาลพรรคกิจประชาชนชนะทุกการเลือกตั้งตั้งแต่รัฐบาลเริ่มในปี 1959 การปกครองของ PAP ควบคู่กับระดับต่ำของเสรีภาพสื่อมวลชน และยับยั้งสิทธิเสรีภาพและสิทธิการเมือง ทำให้สิงคโปร์ถูกจัดเป็นกึ่งเผด็จการระบอบการปกครอง หนึ่งในห้าสมาชิกของสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ( อาเซียน )สิงคโปร์ยังเป็นโฮสต์ของความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย แปซิฟิก ( เอเปค ) เลขาธิการและเป็นสมาชิกของการประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก ชิดนอก การเคลื่อนไหว และเครือจักรภพ การพัฒนาอย่างรวดเร็วของสิงคโปร์ ได้ให้มันมีอิทธิพลต่อในต่างประเทศทั่วโลก นำนักวิเคราะห์บางคน ระบุเป็นอำนาจกลาง [ 9 ] [ 10 ]