Rome (/ˈroʊm/ rohm; Italian: Roma [

Rome (/ˈroʊm/ rohm; Italian: Roma [ˈroːma] ( listen), Latin: Rōma) is a city and special comune (named Roma Capitale) in Italy. Rome is the capital of Italy and of the Lazio region. With 2.9 million residents in 1,285 km2 (496.1 sq mi), it is also the country's largest and most populated comune and fourth-most populous city in the European Union by population within city limits. The Metropolitan City of Rome has a population of 4.3 million residents.[2] The city is located in the central-western portion of the Italian Peninsula, within Lazio (Latium), along the shores of Tiber river. Vatican City is an independent country within the city boundaries of Rome, the only existing example of a country within a city: for this reason Rome has been often defined as capital of two states.[3][4]

Rome's history spans more than two and a half thousand years. While Roman mythology dates the founding of Rome at only around 753 BC, the site has been inhabited for much longer, making it one of the oldest continuously occupied sites in Europe.[5] The city's early population originated from a mix of Latins, Etruscans and Sabines. Eventually, the city successively became the capital of the Roman Kingdom, the Roman Republic and the Roman Empire, and is regarded as one of the birthplaces of Western civilization and by some as the first ever metropolis.[6] It is referred to as "Roma Aeterna" (The Eternal City) [7] and "Caput Mundi" (Capital of the World), two central notions in ancient Roman culture.

After the fall of the Western Empire, which marked the beginning of the Middle Ages, Rome slowly fell under the political control of the Papacy, which had settled in the city since the 1st century AD, until in the 8th century it became the capital of the Papal States, which lasted until 1870.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

โรม (โรม/ˈroʊm / อิตาลี: โร [ˈroːma] (ฟัง) ละติน: Rōma) เป็นเมืองและพิเศษ comune (ชื่อโร Capitale) ในอิตาลี โรมเป็นเมืองหลวง ของอิตาลี และภาคขาว มี 2.9 ล้านคนใน 1,285 km2 (496.1 sq mi), เป็น comune ที่ใหญ่ที่สุด และมีประชากรมากที่สุดของประเทศและเมืองมีประชากรมากที่สุดสี่ในสหภาพยุโรปโดยประชากรในเมือง เมืองนครโรมมีประชากรประมาณ 4.3 ล้านคน [2] เมืองตั้งอยู่ในส่วนกลางตะวันตกของคาบสมุทรอิตาลี ภายในขาว (Latium), ตามแนวชายฝั่งของแม่น้ำไทเบอร์ นครรัฐวาติกันเป็นประเทศอิสระอยู่ภายในขอบเขตเมืองของกรุงโรม ประเทศภายในเมืองที่มีอยู่อย่างเดียว: โรมมักจะกำหนดไว้เป็นเมืองหลวงของอเมริกาสองเหตุผลนี้ [3] [4]ประวัติของโรมครอบคลุมมากกว่าสองครึ่งพันปี ในขณะที่เทพปกรณัมโรมันวันก่อตั้งกรุงโรมที่เพียงประมาณ 753 BC เว็บไซต์มีการอาศัยอยู่นานกว่ามาก ทำหนึ่งอย่างต่อเนื่องในยุโรปที่ครอบครอง [5] เมืองของบรรพบุรุษมาจากส่วนผสมของ Latins, Etruscans และ Sabines ในที่สุด ห้องติด ๆ กันกลายเป็น เมืองหลวงของราช อาณาจักรโรมัน สาธารณรัฐโรมัน และจักรวรรดิโรมัน และถือเป็นหนึ่งใน birthplaces ของอารยธรรมตะวันตก และบางส่วนเป็นนครที่เคย [6] มันจะเรียกว่า "โรสตรา" (นิรันดร์ซิตี้) [7] และ "Caput Mundi" (เมืองหลวงของโลก) วัฒนธรรมความเข้าใจกลางสองในโรมันโบราณหลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิตะวันตก ที่ทำเครื่องหมายจุดเริ่มต้นของยุคกลาง โรมช้าตกภายใต้การควบคุมทางการเมืองของโรมัน ซึ่งถือได้ว่าในเมืองตั้งแต่ 1 ศตวรรษโฆษณา จนกระทั่งในศตวรรษ 8 ได้กลายเป็นเมืองหลวงของรัฐสันตะปาปา ซึ่งกินเวลาจนถึงค.ศ. 1870

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โรม (/ roʊm / rohm; อิตาลี: โร [Roma] (ฟัง), ละติน: Roma) เป็นเมืองและกันพิเศษ (ชื่อ Roma Capitale) ในอิตาลี กรุงโรมเป็นเมืองหลวงของประเทศอิตาลีและของภูมิภาคลาซิโอ 2.9 ล้านที่อาศัยอยู่ใน 1,285 กิโลเมตร 2 (496.1 ตารางไมล์) ก็ยังเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดและเมืองที่มีประชากรมากที่สุดกันและมีประชากรมากเป็นอันดับสี่มากที่สุดในสหภาพยุโรปโดยประชากรในเขตเมือง เมืองนครหลวงของกรุงโรมมีประชากร 4,300,000 ประชาชน. [2] เมืองที่ตั้งอยู่ในส่วนตะวันตกตอนกลางของคาบสมุทรอิตาลีภายในลาซิโอ (Latium) ตามชายฝั่งของแม่น้ำไทเบอร์ นครวาติกันเป็นประเทศอิสระที่อยู่ในเขตเมืองของกรุงโรมตัวอย่างที่มีอยู่เพียงหนึ่งเดียวของประเทศภายในเมือง: เหตุผลโรมนี้ได้รับการกำหนดมักจะเป็นเมืองหลวงของสองรัฐ [3] [4]. ประวัติศาสตร์ของกรุงโรมครอบคลุมมากกว่าสอง และครึ่งหนึ่งพันปี ในขณะที่ตำนานโรมันวันก่อตั้งของกรุงโรมที่เพียงประมาณ 753 ปีก่อนคริสตกาลเว็บไซต์ที่มีการอยู่อาศัยมานานกว่าทำให้มันเป็นหนึ่งในที่เก่าแก่เว็บไซต์ครอบครองอย่างต่อเนื่องในยุโรป. [5] ประชากรในช่วงต้นของเมืองที่เกิดจากการผสมผสานของ Latins, อิทรุส และบายน์ ในที่สุดเมืองอย่างต่อเนื่องกลายเป็นเมืองหลวงของอาณาจักรโรมันสาธารณรัฐโรมันและจักรวรรดิโรมันและได้รับการยกย่องว่าเป็นหนึ่งในสถานที่เกิดของอารยธรรมตะวันตกและโดยบางส่วนเป็นครั้งแรกที่เคยมหานคร. [6] มันถูกเรียกว่า " Roma Aeterna "(เมืองนิรันดร์) [7] และ" หัวมุน "(เมืองหลวงของโลก) สองความคิดสำคัญในวัฒนธรรมโรมันโบราณ. หลังจากการล่มสลายของจักรวรรดิตะวันตกซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของยุคกลาง, โรมช้า ตกอยู่ภายใต้การควบคุมทางการเมืองของพระสันตะปาปาซึ่งได้ตั้งรกรากอยู่ในเมืองตั้งแต่ศตวรรษที่ 1 จนกระทั่งในศตวรรษที่ 8 มันก็กลายเป็นเมืองหลวงของพระสันตะปาปาซึ่งจนถึง 1870