Strategy making in practice : the c

Strategy making in practice : the case of Cretan hotel managers
This study investigates how managers contribute to the strategy of their firm, specifically focusing on an occupational group of hotel managers. Following the call of the Strategy-as-Practice (S-a-P) research community for heightened awareness of the managers' role and contribution to strategy, and based on the observation that strategy formation is context-specific, it attempts to generalise about the managers' contribution within a specifIc context. Generalising about the practitioners' contribution to strategy is problematic, however, requiring a conceptual linkage between managerial activity and organisational strategy. Drawing upon the S-a-P literature and the literature on managerial work activity, this study suggests that the managers' response to uncertainty provides that integrative link. This is supported by a simplifying assumption, namely the unitary view of organisation, whereby the central role of the managers within a firm is assured, assuming that power is concentrated upon them. The research inquiry itself spans levels of analysis: the level fof the individual manager, the organisation, and the organisation's context. In turn, it requires breadth to account for the reciprocal influence among those levels of analysis. This need is accommodated by a case study approach. Nine independent hotels from the island of Crete were chosen as the sample for the study, while the data collection methods used included observation, interviews and document analysis. The results show that the hotel managers' contribution focuses on developing valuegenerating strategies for their firm; a necessity as they are at disadvantage: they are fragmented, in a saturated sector, equipped with an undifferentiated product, and ultimately reliant upon their suppliers to reach their markets. Value-generating strategies are developed through the management ofthe intangible resources ofthe firm and by building a positive history of collaboration with the suppliers. In addition, the managers' contribution is inextricably linked to their everyday activity, which supports the development ofvalue-generating strategies. It is argued that an activity-based view of strategy can unearth some otherwise unobservable constructs that become apparent only through its micro-analytic approach. A focus on practitioners and their contribution can also be an additional level of analysis in strategy research, perceiving strategy formed through the practitioners' activity. As such, strategy can be redefmed as an outcome, formed at multiple levels, with strategy practice (or the practitioners' activity) to partly account for that outcome. Generalising about the managers' contribution to strategy requires a trade-off, a choice between content and context specific generalisations. This choice ultimately depends on the reference group of practitioners in question, which delineates the boundaries of the context. In pluralist organisational contexts, that reference group is confined within the organisation's boundaries. On the other hand, unitary organisational contexts allow the selection of wider reference groups. In either case, only local generalisations can be made, taking into account the bounded nature of strategy formation. The study concludes with an analysis of its contribution to the existing body of knowledge, its limitations, and further proposes potential avenues for future research.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

การทำกลยุทธ์ในทางปฏิบัติ: กรณีของผู้จัดการโรงแรมเครตันการศึกษานี้ตรวจสอบผู้จัดการช่วยให้กลยุทธ์ของบริษัทของพวกเขา โดยเฉพาะอย่างยิ่งมุ่งเน้นในกลุ่มอาชีพของผู้จัดการโรงแรมได้อย่างไร ต่อการเรียกของกลยุทธ์เป็นปฏิบัติ (S a P) งานวิจัยชุมชนสำหรับการรับรู้สูงสนับสนุนกลยุทธ์และบทบาทของผู้จัดการ และจากการสังเกตว่ากลยุทธ์ก่อตามบริบท พยายาม generalise เกี่ยวกับผลงานของผู้จัดการในบริบทระบุ Generalising เกี่ยวกับผลงานของผู้ประกอบวิชาชีพกลยุทธ์เป็นปัญหา แต่ ต้องการเชื่อมโยงแนวคิดระหว่างบริหารกิจกรรมและกลยุทธ์องค์กร วาดภาพวรรณคดี S เป็น P และเอกสารประกอบการบริหารงานกิจกรรม การศึกษานี้แนะว่า ผู้จัดการตอบสนองต่อความไม่แน่นอนมีเชื่อมโยงแบบบูรณาการที่ สนับสนุน โดยสมมติฐานที่ simplifying คือดู unitary ขององค์กร ซึ่งมั่นใจในบทบาทของผู้จัดการในบริษัทเซ็นทรัล สมมติว่าพลังงานเข้มข้นมา สอบถามงานวิจัยตัวเองครอบคลุมระดับของการวิเคราะห์: fof ระดับผู้จัดการฝ่ายบุคคล องค์กร และบริบทขององค์กร จะ มันต้องมีกว้างอิทธิพลซึ่งกันและกันในระดับของการวิเคราะห์การ ต้องนี้เหมาะ โดยวิธีกรณีศึกษา โรงแรมอิสระเก้าจากเกาะครีตถูกเลือกเป็นตัวอย่างสำหรับการศึกษา ในขณะที่วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ใช้อยู่สังเกต สัมภาษณ์และวิเคราะห์เอกสาร ผลการแสดงผลงานของผู้จัดการโรงแรมเน้นพัฒนากลยุทธ์ valuegenerating สำหรับบริษัทของพวกเขา ความจำเป็นพวกเขาเป็นที่ข้อเสีย: กระจัดกระจาย ในภาคอิ่มตัว พร้อมกับผลิตภัณฑ์ที่มีความแตกต่าง และพึ่งพาในที่สุดเมื่อผู้เข้าถึงตลาดของพวกเขา กลยุทธ์การสร้างมูลค่าที่มีพัฒนาผ่านทางการจัดการทรัพยากรไม่มีตัวตน ของบริษัท และสร้างประวัติศาสตร์บวกกับซัพพลายเออร์ นอกจากนี้ ผู้จัดการส่วน inextricably เชื่อมโยงกับกิจกรรมในชีวิตประจำวัน ที่รองรับกลยุทธ์สร้าง ofvalue พัฒนา มันจะโต้เถียงว่า กลยุทธ์เกี่ยวกับกิจกรรมสามารถขุดบางโครงสร้าง unobservable มิฉะนั้นที่กลายเป็นชัดเจนผ่านวิธีการวิเคราะห์ไมโคร เน้นการปฏิบัติงานและผลงานของพวกเขายังสามารถเพิ่มระดับการวิเคราะห์งานวิจัยกลยุทธ์ กลยุทธ์ที่เกิดขึ้นผ่านกิจกรรมของผู้รับรู้ เช่นนี้ กลยุทธ์ได้อย่าง redefmed เป็นผล เกิดขึ้นในหลายระดับ มีกลยุทธ์การปฏิบัติ (หรือกิจกรรมของผู้ปฏิบัติงาน) บัญชีบางส่วนสำหรับผลลัพธ์ที่ Generalising เกี่ยวกับผู้จัดการส่วนกลยุทธ์ต้องปิด เลือกระหว่างเนื้อหาและบริบทเฉพาะ generalisations ตัวเลือกนี้ในที่สุดขึ้นอยู่กับกลุ่มอ้างอิงของผู้ปฏิบัติงานในคำถาม ที่ delineates ขอบเขตของบริบท ในบริบทองค์กร pluralist กลุ่มอ้างอิงที่จะจำกัดภายในขอบเขตขององค์กร บนมืออื่น ๆ บริบทองค์กร unitary อนุญาตให้ตัวเลือกของกลุ่มอ้างอิงที่กว้างขึ้น ในกรณีอย่างใดอย่างหนึ่ง เฉพาะท้องถิ่น generalisations ได้ คำนึงถึงธรรมชาติยามของการสร้างกลยุทธ์ การศึกษาสรุป มีส่วนทำให้ร่างกายที่มีอยู่ของความรู้ ข้อจำกัด การวิเคราะห์ และการ เสนอศักยภาพลู่ทางสำหรับงานวิจัยในอนาคต

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

กลยุทธ์การทำในการปฏิบัติ: กรณีของผู้จัดการโรงแรมเครตัน
ศึกษานี้ศึกษาวิธีการบริหารมีส่วนร่วมกับกลยุทธ์ของ บริษัท ของพวกเขาโดยเฉพาะมุ่งเน้นไปที่กลุ่มประกอบอาชีพของผู้จัดการโรงแรม ต่อไปนี้การเรียกร้องของกลยุทธ์ตามที่ปฏิบัติ (SAP) ชุมชนการวิจัยสำหรับการรับรู้มีความคิดริเริ่มของผู้จัดการบทบาทและมีส่วนร่วมกับกลยุทธ์และขึ้นอยู่กับการสังเกตว่าการก่อกลยุทธ์บริบทเฉพาะจะพยายามที่จะพูดคุยเกี่ยวกับผู้จัดการ 'ผลงาน ในบริบทที่เฉพาะเจาะจง generalising เกี่ยวกับการมีส่วนร่วมของผู้ปฏิบัติงาน 'กับกลยุทธ์ที่เป็นปัญหา แต่ต้องมีการเชื่อมโยงความคิดระหว่างกิจกรรมการบริหารและกลยุทธ์ขององค์กร ภาพวาดในวรรณคดี SAP และหนังสือที่เกี่ยวกับการบริหารจัดการกิจกรรมการทำงานการศึกษานี้แสดงให้เห็นว่าการตอบสนองผู้จัดการ 'ความไม่แน่นอนให้เห็นว่าการเชื่อมโยงบูรณาการ นี้ได้รับการสนับสนุนโดยสมมติฐานการลดความซับซ้อนกล่าวคือในมุมมองรวมขององค์กรโดยบทบาทสำคัญของผู้บริหารภายใน บริษัท จะมั่นใจได้สมมติว่าไฟฟ้าที่มีความเข้มข้นแก่พวกเขา สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมการวิจัยตัวเองมีช่วงของการวิเคราะห์ระดับ: ระดับ fof ผู้จัดการบุคคลองค์กรและบริบทขององค์กร ในทางกลับกันมันต้องมีความกว้างไปยังบัญชีสำหรับอิทธิพลซึ่งกันและกันในหมู่ผู้ที่ระดับของการวิเคราะห์ เรื่องนี้ต้องมีการอาศัยโดยวิธีการที่กรณีศึกษา เก้าโรงแรมอิสระจากเกาะครีตถูกเลือกให้เป็นตัวอย่างสำหรับการศึกษาในขณะที่วิธีการเก็บรวบรวมข้อมูลที่ใช้รวมถึงการสังเกตการสัมภาษณ์และการวิเคราะห์เอกสาร ผลการศึกษาพบว่าผลงานผู้จัดการโรงแรมที่มุ่งเน้นไปที่การพัฒนากลยุทธ์ valuegenerating สำหรับ บริษัท ของพวกเขา; เป็นความจำเป็นที่พวกเขาเป็นเบี้ยล่าง: พวกเขามีการแยกส่วนในภาคอิ่มตัวพร้อมกับสินค้าที่มีความแตกต่างและในที่สุดพึ่งซัพพลายเออร์ของพวกเขาในการเข้าถึงตลาดของพวกเขา กลยุทธ์ราคาที่ก่อให้เกิดมีการพัฒนาผ่านการจัดการทรัพยากรที่ไม่มีตัวตน ofthe ofthe บริษัท และโดยการสร้างประวัติศาสตร์ในเชิงบวกของความร่วมมือกับซัพพลายเออร์ นอกจากนี้ผลงานของผู้จัดการมีการเชื่อมโยงความสัมพันธุ์กับกิจกรรมในชีวิตประจำวันของพวกเขาซึ่งสนับสนุนการพัฒนา ofvalue สร้างกลยุทธ์ มันเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ว่ามีมุมมองที่กิจกรรมตามกลยุทธ์การสามารถพบบางโครงสร้างสำรวจอย่างอื่นที่กลายเป็นที่ชัดเจนเพียงผ่านวิธีการที่ไมโครวิเคราะห์ของ มุ่งเน้นการปฏิบัติงานและผลงานของพวกเขายังสามารถที่จะเพิ่มขึ้นอีกระดับของการวิเคราะห์ในการวิจัยกลยุทธ์กลยุทธ์การรับรู้ที่เกิดขึ้นผ่านกิจกรรมที่ผู้ปฏิบัติ ' เป็นเช่นนี้กลยุทธ์ที่สามารถ redefmed เป็นผลที่เกิดขึ้นในหลายระดับด้วยการปฏิบัติกลยุทธ์ (หรือกิจกรรมที่ผู้ปฏิบัติงาน ') เพื่อส่วนหนึ่งเป็นบัญชีสำหรับผลที่ generalising เกี่ยวกับผลงานผู้จัดการกับกลยุทธ์ที่ต้องมีการปิดทางเลือกระหว่างเนื้อหาและบริบทภาพรวมที่เฉพาะเจาะจง ทางเลือกในท้ายที่สุดนี้ขึ้นอยู่กับกลุ่มอ้างอิงของผู้ปฏิบัติงานในคำถามซึ่งให้สัตยาบันขอบเขตของบริบท ในบริบทขององค์กรพหุกลุ่มอ้างอิงที่ถูกกักขังอยู่ภายในขอบเขตขององค์กร ในทางตรงกันข้ามบริบทขององค์กรรวมให้สามารถเลือกกลุ่มอ้างอิงที่กว้างขึ้น ในทั้งสองกรณีเท่านั้น generalizations ท้องถิ่นสามารถทำโดยคำนึงถึงธรรมชาติล้อมรอบของการก่อตัวกลยุทธ์ ผลการศึกษาสรุปด้วยการวิเคราะห์ผลงานของตนต่อร่างกายที่มีอยู่ของความรู้ข้อ จำกัด ของมันและต่อไปเสนอลู่ทางที่มีศักยภาพสำหรับการวิจัยในอนาคต