Some experts believe the word for c

Some experts believe the word for chocolate came from the Aztec word “xocolatl,” which means
“bitter water” in the Nahuatl language. Others believe the word “chocolate” was created by combining
Mayan and Nahuatl words.
The explorer Christopher Columbus brought cacao seeds to Spain after his trip to Central America in
1502. But it was the Spanish explorer Hernando Cortes who understood that chocolate could be a
valuable investment. In 1519, Cortes arrived in Mexico. He believed the chocolate drink would
become popular with Spaniards. After the Spanish soldiers defeated the Aztec empire, they were
able to seize the supplies of cacao and send them home. Spain later began planting cacao in its
colonies in the Americas in order to supply the large demand for chocolate.
The wealthy people of Spain first enjoyed a sweetened version of the chocolate drink. Later, the
popularity of the drink spread throughout Europe. The English, Dutch and French began to plant
cacao trees in their own colonies. Until the 18
th century, only wealthy people could afford to drink
chocolate. During the period known as the Industrial Revolution, new technologies helped make
chocolate less costly to produce.
Farmers grow cacao trees in many countries in Africa, Central and South America. The trees grow in
the shady areas of rainforests near the Earth’s Equator. But these trees can be difficult to grow.
They require an exact amount of water, warmth, soil and protection. After about five years, cacao
trees start producing large fruits called "pods," which grow near the trunk of the tree. The seeds
inside this pod are harvested to make chocolate.
Growing cacao is very hard work for farmers. They sell
their harvest on a futures market. This means that
economic conditions beyond their control can affect the
amount of money they will earn.
Today, chocolate industry officials, activists, and
scientists are working with farmers. They are trying to
make sure that cacao can be grown in a way that is fair to
the farmers and safe for the environment.
To become chocolate, cacao seeds go through a long production process in a factory. Workers
must sort, clean and cook the seeds. Then they break off the covering of the seeds so that only the
inside fruit -- or nibs -- remain. Workers crush the nibs into a soft substance called chocolate liquor.
This gets separated into cacao solids and a fat called cocoa butter.
Chocolate makers have their own special recipes in which they combine chocolate liquor with exact
amounts of sugar, milk and cocoa fat. They finely crush this “crumb” mixture so it is smooth. The
mixture then goes through two more processes before it is shaped into a mold form.
Chocolate making is a big business. Each year, the market value of the cacao crop around the world
is more than five billion dollars. Chocolate is especially popular in Europe and the United States.
Americans eat an average of more than five kilograms of chocolate per person every year. Specialty
shops that sell costly chocolates are also very popular. Many offer chocolate lovers the chance to
taste chocolates grown in different areas of the world.
Dark Chocolate and Heart Health
Researchers have known that chocolate -- especially dark chocolate -- is good for the heart. Now,
they know why. Besides tasting good, researchers have found that dark chocolate protects against
heart disease in two ways: it returns movement to hardening arteries. It also keeps white blood cells
from gathering on blood vessel walls. Both of these conditions can lead to plaque formation. Plaque
can block the flow of blood, causing heart disease.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ผู้เชี่ยวชาญบางเชื่อคำสำหรับช็อคโกแลตมาจากคำว่า Aztec "xocolatl ซึ่งหมายความว่า"มะระขี้นกน้ำ" ในภาษายังนาฮวต ผู้อื่นเชื่อว่า คำว่า "ช็อกโกแลต" ที่สร้าง โดยรวมคำมายาและยังนาฮวตExplorer คริสโตเฟอร์โคลัมบัสนำเมล็ด cacao สเปนหลังจากเขาเดินทางไปอเมริกากลางใน1502. แต่ explorer สเปนสคอทส์ Hernando ที่เข้าใจว่าช็อคโกแลตอาจจะเป็นการลงทุนที่มีคุณค่า ใน 1519 สคอทส์มาถึงในเม็กซิโก เขาเชื่อว่า จะเครื่องดื่มช็อคโกแลตกลายเป็นความนิยมของชาวสเปนเข้า หลังจากที่ทหารสเปนพ่ายแพ้จักรวรรดิ Aztec พวกเขาสามารถยึดเสบียงของ cacao และส่งบ้าน สเปนได้เริ่มปลูก cacao ในภายหลังนั้นอาณานิคมในทวีปอเมริกาเพื่อจัดหาความต้องการขนาดใหญ่สำหรับช็อคโกแลตคนรวยของสเปนครั้งแรกชอบแบบหวานของเครื่องดื่มช็อกโกแลต ภายหลัง การความนิยมของเครื่องดื่มที่กระจายไปทั่วยุโรป อังกฤษ ดัตช์ และฝรั่งเศสเริ่มปลูกต้น cacao ในอาณานิคมของตนเอง จน 18ศตวรรษที่ th คนรวยเท่านั้นสามารถซื้อดื่มช็อกโกแล็ต ช่วงที่เรียกว่าปฏิวัติอุตสาหกรรม เทคโนโลยีใหม่ที่ช่วยทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการผลิตช็อกโกแลตเกษตรกรปลูกต้น cacao ในหลายประเทศในแอฟริกา กลาง และอเมริกาใต้ ต้นไม้ที่เติบโตในด้านดีร่มรื่นใกล้เส้นศูนย์สูตรของโลก แต่ต้นไม้เหล่านี้สามารถเติบโตยากพวกเขาต้องการเงิน ความอบอุ่น ดิน และป้องกัน หลังจากประมาณห้าปี cacaoต้นไม้เริ่มผลิตผลไม้ขนาดใหญ่เรียกว่า "พ็อดส์ ซึ่งเติบโตใกล้กับลำต้นของต้นไม้ เมล็ดพืชภายในฝักนี้จะเก็บเกี่ยวเพื่อให้ช็อกโกแลตเติบโต cacao เป็นงานยากสำหรับเกษตรกร พวกเขาขายการเก็บเกี่ยวในตลาดล่วงหน้า นี้หมายความ ว่าสภาพทางเศรษฐกิจนอกเหนือจากการควบคุมของพวกเขาสามารถมีผลต่อการจำนวนเงินที่พวกเขาจะได้รับวันนี้ เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมช็อกโกแลต นักเคลื่อนไหว และนักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานกับเกษตรกร พวกเขาพยายามแน่ใจว่า cacao สามารถเติบโตในลักษณะที่เป็นธรรมเกษตรกรและปลอดภัยสำหรับสิ่งแวดล้อมเป็นช็อคโกแลต เมล็ด cacao ไปตลอดกระบวนการผลิตที่ยาวนานในโรงงาน ผู้ปฏิบัติงานต้องเรียงลำดับ ทำความสะอาด และปรุงอาหารเมล็ดพืช แล้วพวกเขาตัดครอบคลุมของเมล็ดดังนั้นเท่านั้นภายในผลไม้ -หรือ nibs - ครั้ง คนสนใจ nibs ที่เป็นสารนุ่มเรียกว่าเหล้าช็อคโกแลตนี้จะแบ่งออกเป็นสีทึบ cacao และไขมันที่เรียกว่าเนยโกโก้ผู้ผลิตช็อกโกแลตมีสูตรพิเศษของตนเองซึ่งพวกเขารวมช็อกโกแลตเหล้า ด้วยแน่นอนจำนวนไขมันน้ำตาล นม และโกโก้ พวกเขาประณีตสนใจส่วนผสม "เศษ" นี้จึงราบรื่น ที่ผสมแล้วไปผ่าน 2 กระบวนการเพิ่มเติมก่อนที่จะมีรูปร่างเป็นแบบแม่พิมพ์ทำช็อคโกแลตเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ แต่ละปี มูลค่าตลาดของ cacao พืชผลทั่วโลกมีมากกว่า 5 พันล้านดอลลาร์ ช็อกโกแลตเป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและสหรัฐอเมริกาชาวอเมริกันกินช็อกโกแลตต่อคนมากกว่า 5 กิโลกรัมโดยเฉลี่ยทุกปี พิเศษยังมีร้านค้าที่ขายช็อกโกแลตราคาแพงนิยมมาก หลายมีคนรักช็อคโกแลโอกาสที่จะช็อคโกแลตรสที่ปลูกในพื้นที่ต่าง ๆ ของโลกช็อกโกแลตสีเข้มและสุขภาพหัวใจนักวิจัยได้ทราบว่าช็อคโกแลต -สีเข้มโดยเฉพาะช็อคโกแลต - ดีสำหรับหัวใจ ตอนนี้พวกเขารู้ว่าทำไม นอกจากการชิมดี นักวิจัยได้พบว่า ช็อกโกแลตสีเข้มช่วยป้องกันโรคหัวใจในสองวิธี: เห็นความเคลื่อนไหวเข้มงวดกว่าหลอดเลือดแดง มันยังช่วยให้เม็ดเลือดขาวจากการรวบรวมในผนังเส้นเลือด เงื่อนไขเหล่านี้ทั้งสองสามารถทำให้หินปูนก่อตัว หินปูนสามารถบล็อกการไหลเวียนของเลือด สาเหตุของโรคหัวใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อคำช็อคโกแลตมาจากคำว่าแอซเท็ก "xocolatl" ซึ่งหมายถึง
"น้ำขม" ในภาษา Nahuatl คนอื่นเชื่อว่าคำว่า "ช็อคโกแลต"
ที่ถูกสร้างขึ้นโดยการรวมของชาวมายันและคำพูดNahuatl.
สำรวจคริสโคลัมบัสนำเมล็ดโกโก้ไปสเปนหลังจากที่เขาเดินทางไปอเมริกากลางใน
1502
แต่มันก็เป็นนักสำรวจชาวสเปนเฮอร์นันคอร์เทสที่เข้าใจว่าช็อคโกแลตอาจจะมีการลงทุนที่มีคุณค่า ใน 1519 คอร์เทสเข้ามาในเม็กซิโก
เขาเชื่อว่าเครื่องดื่มช็อคโกแลตจะกลายเป็นที่นิยมกับชาวสเปน
หลังจากที่ทหารสเปนแพ้อาณาจักรแอซเท็กพวกเขาสามารถที่จะยึดอุปกรณ์ของโกโก้และส่งพวกเขากลับบ้าน
สเปนหลังจากนั้นก็เริ่มปลูกต้นโกโก้ในของอาณานิคมในทวีปอเมริกาเพื่อที่จะจัดหาความต้องการขนาดใหญ่สำหรับช็อคโกแลต.
คนที่ร่ำรวยของสเปนครั้งแรกที่มีความสุขเป็นรุ่นที่มีรสหวานเครื่องดื่มช็อคโกแลต
ต่อมาความนิยมของเครื่องดื่มที่แผ่กระจายไปทั่วยุโรป ภาษาอังกฤษ,
ดัตช์และฝรั่งเศสเริ่มที่จะปลูกต้นไม้ต้นโกโก้ในอาณานิคมของตัวเอง จนกระทั่ง 18
ศตวรรษ,
คนที่ร่ำรวยเท่านั้นที่สามารถที่จะดื่มเครื่องดื่มช็อคโกแลต
ในช่วงเวลาที่เรียกว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมเทคโนโลยีใหม่ช่วยทำให้ช็อคโกแลตค่าใช้จ่ายน้อยในการผลิต.
เกษตรกรปลูกต้นไม้ต้นโกโก้ในหลายประเทศในทวีปแอฟริกา, อเมริกากลางและอเมริกาใต้
ต้นไม้เจริญเติบโตได้ในพื้นที่ร่มรื่นของป่าฝนเขตร้อนใกล้เส้นศูนย์สูตรของโลก แต่ต้นไม้เหล่านี้อาจเป็นเรื่องยากที่จะเติบโต.
พวกเขาจำเป็นต้องใช้จำนวนเงินที่แน่นอนของน้ำความอบอุ่นของดินและการป้องกัน หลังจากนั้นประมาณห้าปีที่ผ่านโกโก้ต้นไม้เริ่มผลิตผลไม้ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า "ฝัก" ซึ่งเติบโตใกล้ลำต้นของต้นไม้ เมล็ดภายในฝักนี้มีการเก็บเกี่ยวที่จะทำให้ช็อคโกแลต. โกโก้เติบโตเป็นงานที่ยากมากสำหรับเกษตรกร พวกเขาขายเก็บเกี่ยวของพวกเขาในตลาดซื้อขายล่วงหน้า ซึ่งหมายความว่าภาวะเศรษฐกิจที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของพวกเขาสามารถส่งผลกระทบต่อจำนวนเงินที่พวกเขาจะได้รับ. วันนี้เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมช็อคโกแลตนักเคลื่อนไหวและนักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานกับเกษตรกร พวกเขากำลังพยายามที่จะให้แน่ใจว่าต้นโกโก้สามารถปลูกได้ในวิธีการที่มีความเป็นธรรมให้กับเกษตรกรและปลอดภัยสำหรับสภาพแวดล้อม. ที่จะกลายเป็นช็อคโกแลต, เมล็ดโกโก้ไปผ่านกระบวนการผลิตที่ยาวนานในโรงงาน คนงานจะต้องเรียงลำดับที่สะอาดและปรุงอาหารเมล็ด แล้วพวกเขาก็แตกออกครอบคลุมของเมล็ดเพื่อให้เฉพาะภายในผลไม้ - หรือไส้ - ยังคงอยู่ แรงงานสนใจไส้เป็นสารที่อ่อนนุ่มเรียกว่าสุราช็อคโกแลต. นี้ได้รับการแยกออกเป็นของแข็งโกโก้และไขมันที่เรียกว่าเนยโกโก้. ผู้ผลิตช็อคโกแลตมีสูตรพิเศษของตัวเองในการที่พวกเขารวมสุราช็อคโกแลตที่แน่นอนกับปริมาณของน้ำตาลนมและไขมันโกโก้ พวกเขาสนใจอย่างประณีตนี้ "เศษ" ส่วนผสมดังนั้นจึงเป็นไปอย่างราบรื่น ผสมแล้วไปผ่านกระบวนการที่สองมากขึ้นก่อนที่จะมีรูปร่างเป็นรูปแบบแม่พิมพ์. การทำช็อคโกแลตเป็นธุรกิจขนาดใหญ่ ในแต่ละปีมีมูลค่าตลาดของพืชต้นโกโก้ทั่วโลกมากกว่าห้าพันล้านดอลลาร์ ช็อคโกแลตเป็นที่นิยมโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรปและสหรัฐอเมริกา. ชาวอเมริกันกินเฉลี่ยมากกว่าห้ากิโลกรัมต่อคนช็อคโกแลตเป็นประจำทุกปี พิเศษร้านค้าที่ขายช็อคโกแลตที่มีราคาแพงยังเป็นที่นิยมมาก คนรักช็อคโกแลตข้อเสนอหลายโอกาสที่จะ. ลิ้มรสช็อคโกแลตที่ปลูกในพื้นที่ที่แตกต่างกันของโลกช็อคโกแลตและสุขภาพหัวใจนักวิจัยได้ทราบกันว่าช็อคโกแลต- ช็อคโกแลตโดยเฉพาะอย่างยิ่ง - เป็นสิ่งที่ดีสำหรับหัวใจ ตอนนี้พวกเขารู้ว่าทำไม นอกจากรสชาติที่ดีนักวิจัยได้พบว่าช็อคโกแลตช่วยป้องกันการเกิดโรคหัวใจในสองวิธีก็จะส่งกลับไปยังหลอดเลือดแดงเคลื่อนไหวแข็ง นอกจากนี้ยังช่วยเซลล์เม็ดเลือดขาวจากการรวบรวมในผนังหลอดเลือด ทั้งสองเงื่อนไขเหล่านี้สามารถนำไปสู่การสะสมคราบจุลินทรีย์ โล่สามารถปิดกั้นการไหลเวียนของเลือดที่ก่อให้เกิดโรคหัวใจ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ผู้เชี่ยวชาญบางคนเชื่อว่าคำว่าช็อกโกแลตมาจากคำว่า " Aztec xocolatl " ซึ่งหมายถึง
" ขมน้ำ " ในภาษานาวาตล์ภาษา คนอื่นเชื่อว่าคำว่า " ช็อกโกแลต " ถูกสร้างขึ้นโดยการรวม
มายันและภาษานาวาตล์คำ .
explorer Christopher Columbus ได้นำเมล็ดโกโก้ไปสเปนหลังจากการเดินทางของเขาไปยังอเมริกากลางใน
1502 .แต่มันเป็น explorer สเปน hernando Cortes ที่เข้าใจว่าช็อคโกแลตอาจจะเป็น
การลงทุนที่มีคุณค่า ในที่ คอร์เตส , มาถึงในเม็กซิโก เขาเชื่อว่าเครื่องดื่มช็อกโกแลตจะ
กลายเป็นที่นิยมกับชาวสเปน . หลังจากทหารสเปนพิชิตจักรวรรดิแอซเท็ก , พวกเขาสามารถยึดวัสดุ
ไมโลและส่งพวกเขาที่บ้าน สเปนต่อมาเริ่มปลูกต้นโกโก้ใน
อาณานิคมในทวีปอเมริกาเพื่อที่จะจัดหาความต้องการขนาดใหญ่สำหรับช็อกโกแลต คนร่ำรวย
สเปนครั้งแรกชอบรุ่นรสหวานของช็อกโกแลตเหล้า ต่อมา
ความนิยมของเครื่องดื่มกระจายทั่วยุโรป อังกฤษ , ดัตช์และฝรั่งเศสเริ่มต้น
โกโก้ต้นไม้ในอาณานิคมของตนเอง จนกระทั่งศตวรรษที่ 18
เพียงคนร่ำรวยสามารถดื่ม
ช็อกโกแลตในช่วงระยะเวลาที่รู้จักกันเป็น การปฏิวัติอุตสาหกรรม เทคโนโลยีใหม่ช่วยให้

ช็อคโกแลตน้อยราคาแพงในการผลิต เกษตรกรที่ปลูกต้นโกโก้ต้นไม้ในหลายประเทศในแอฟริกา , อเมริกากลางและอเมริกาใต้ ต้นไม้ที่เติบโตในพื้นที่ป่าฝน
ร่มรื่นใกล้ของโลกเส้นศูนย์สูตร แต่ต้นไม้เหล่านี้จะสามารถยากที่จะเติบโต .
ที่พวกเขาต้องการแน่นอนปริมาณของน้ำ ไอ ดิน และการป้องกันหลังจากห้าปี , ต้นโกโก้
ต้นไม้เริ่มการผลิตผลไม้ขนาดใหญ่ที่เรียกว่า " ฝัก " ซึ่งเติบโตใกล้ลำต้นของต้นไม้ เมล็ดพันธุ์
ภายในฝักนี้จะเก็บเกี่ยวให้ช็อกโกแลต โกโก้
เติบโตคือทำงานอย่างหนักเพื่อเกษตรกร พวกเขาขาย
เก็บเกี่ยวของพวกเขาในตลาดอนาคต ซึ่งหมายความว่า
เงื่อนไขทางเศรษฐกิจนอกเหนือการควบคุมของพวกเขาสามารถส่งผลกระทบต่อจำนวนเงินที่พวกเขาจะได้รับ
.
วันนี้อุตสาหกรรมช็อกโกแลต ข้าราชการ นักกิจกรรม และ
นักวิทยาศาสตร์กำลังทำงานกับเกษตรกร พวกเขาพยายามที่จะ
ให้แน่ใจว่าโกโก้สามารถปลูกได้ในทางที่ยุติธรรม
เกษตรกรและปลอดภัยสำหรับสิ่งแวดล้อม
เป็นช็อคโกแลต เมล็ดโกโก้ไปผ่านกระบวนการผลิตในโรงงาน คนงาน
ต้องจัดเรียงสะอาดและปรุงเมล็ดพันธุ์ แล้วพวกเขาก็ยกเลิกการครอบคลุมของเมล็ดเพื่อให้เฉพาะ
ภายในผลไม้ -- หรือ nibs -- ยังคง พนักงานบดนิบเป็นนุ่มสารที่เรียกว่าช็อกโกแลตเหล้า
จะแยกออกเป็นโกโก้ของแข็งและไขมันที่เรียกว่าเนยโกโก้ ช็อกโกแลต
ผู้ผลิตของตัวเองพิเศษสูตรที่พวกเขารวมช็อกโกแลตเหล้าด้วยแน่นอน
ปริมาณน้ำตาล นม โกโก้ และไขมัน พวกเขานำมาขยี้ " เศษ " ผสมเพื่อให้มันเรียบ
ผสมแล้ว ผ่านไปอีกสองกระบวนการก่อนที่จะรูปลงในแม่พิมพ์รูป .
ช็อกโกแลตทำให้เป็นธุรกิจใหญ่ ในแต่ละปีมูลค่าตลาดของโกโก้พืชทั่วโลก
มากกว่าห้าพันล้านดอลลาร์ ช็อกโกแลตเป็นที่นิยมโดยเฉพาะในยุโรปและสหรัฐอเมริกา .
คนอเมริกันกินเฉลี่ยของช็อกโกแลตต่อท่านทุกๆปีมากกว่า 5 กิโลกรัม พิเศษ
ร้านค้าที่ขายช็อคโกแลตแพงยังเป็นที่นิยมมาก หลายคนเสนอช็อกโกแลต คนรักโอกาส

รสชาติช็อคโกแลตที่ปลูกในพื้นที่ต่าง ๆ ของโลก และ สุขภาพใจ

ช็อคโกแลตนักวิจัยรู้ว่าช็อคโกแลต -- ช็อคโกแลตโดยเฉพาะอย่างยิ่ง -- ดีสำหรับหัวใจ ตอนนี้
พวกเขารู้ว่าทำไม นอกจากรสชาติที่ดี นักวิจัยได้พบว่า ช็อกโกแลตเข้มป้องกัน
โรคหัวใจในสองวิธี ก็จะเคลื่อนไหวให้หลอดเลือดแข็งตัว มันยังช่วยให้เซลล์เลือดขาว
จากการรวบรวมบนผนังหลอดเลือด ทั้งสองเงื่อนไขเหล่านี้สามารถนำไปสู่การเกิดหินปูน จุลินทรีย์
สามารถปิดกั้นการไหลของเลือด ทำให้เป็นโรคหัวใจ