The Woolworth Building, an innovati

The Woolworth Building, an innovative and elegant early skyscraper completed in 1913, endures today as an iconic form on the New York City skyline. A historicist exterior sheaths a modern steel tower, embodying both the era’s modern spirit of progress and its hesitation to fully break from the past. Cass Gilbert, selected as the architect, believed the designer should “weave into the pattern of our own civilization the beauty that is our inheritance.”[1] An ornate monument to the growing economic dominance of New York City, the building was dubbed the “Cathedral of Commerce.”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

อาคาร Woolworth เป็นนวัตกรรม และสง่างามช่วงตึกระฟ้าเสร็จสมบูรณ์ในปี 1913, endures วันนี้เป็นแบบที่โดดเด่นบนฟ้านิวยอร์ก นอก historicist sheaths หอเหล็กสมัย ชงจิตวิญญาณทันสมัยของยุคของความก้าวหน้าและความลังเลทั้งหมดแบ่งมา เชื่อว่า Cass Gilbert เลือกเป็นสถาปนิก นักออกแบบควร "ทอเป็นรูปแบบอารยธรรมของเราเองความงามที่สืบทอดของเรา"[1] เป็นอนุสาวรีย์สมครอบงำเศรษฐกิจเจริญเติบโตของนิวยอร์ก อาคารถูกตั้งฉายา "วิหารกระทรวงพาณิชย์"

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

อาคาร Woolworth, ตึกระฟ้าต้นนวัตกรรมและสง่างามเสร็จสมบูรณ์ในปี 1913 ยังคงอยู่ในวันนี้เป็นรูปแบบที่โดดเด่นในนิวยอร์กซิตี้เส้นขอบฟ้า หุ้มภายนอก historicist หอเหล็กที่ทันสมัย​​, embodying ทั้งจิตวิญญาณที่ทันสมัย​​ของยุคของความคืบหน้าและความลังเลในการทำลายอย่างเต็มที่จากอดีตที่ผ่านมา คาสกิลเบิร์เลือกให้เป็นสถาปนิกเชื่อว่านักออกแบบควรจะ "สานเป็นรูปแบบของอารยธรรมของเราเองความงามที่เป็นมรดกของเรา." [1] อนุสาวรีย์หรูหราเพื่อการครอบงำทางเศรษฐกิจที่เพิ่มขึ้นของนิวยอร์กซิตี้, อาคารที่ถูกขนานนามว่า "วิหารพาณิชย์."

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

อาคารวูลเวิร์ธ , นวัตกรรมและสง่างามก่อนตึกเสร็จใน 1913 , อดทนในวันนี้เป็นรูปแบบสัญลักษณ์ในนิวยอร์กซิตี้เส้นขอบฟ้า เป็น historicist หุ้มภายนอกหอคอยเหล็กสมัยใหม่เชิงทั้งของยุคใหม่จิตวิญญาณของความคืบหน้าและความลังเลของเต็มที่แบ่งจากอดีต แคส กิลเบิร์ต เลือกเป็นสถาปนิกเชื่อว่า นักออกแบบควร " ถักทอเป็นลวดลายของอารยธรรมของเราเอง ที่สวยงาม มรดกของเรา . " [ 1 ] เป็นอนุสาวรีย์เพื่อการเติบโตทางเศรษฐกิจที่หรูหราเด่นของนิวยอร์ก อาคารที่ถูกขนานนามว่า " มหาวิหารพาณิชย์”