Porous, hollow, glass microspheres

Porous, hollow, glass microspheres (PHGMs) can be used to increase porosity in lead acid battery electrodes to improve the battery's power and energy performance at higher discharge rates. As reported in this paper, the PHGM additives did improve electrolyte storage and porosity in the electrodes. However, the nonconductive PHGMs do reduce the critical volume fraction (CVF) of the electrodes as predicted from conductivity models. The increase in electrode performance due to increased porosity may therefore be partially offset by the drop in capacity due to a lower critical volume fraction. Empirical equations are developed that relate the CFV and porosity of an electrode to the amount, size, and porosity of the additives in that electrode. The porosity estimates made from the empirical equations compare favorably with the experimental data from plates fabricated with these additives. The performance of electrodes with additives is estimated from computer models using the electrode's CVF and porosity as provided by the equations. Tests were performed on plates having volume loadings of PHGMs from 11% to 44% of total solids in positive electrodes to determine their effect on active material utilizations. The results from these discharge tests are reported and compared with theoretical models.

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

Porous กลวง microspheres แก้ว (PHGMs) สามารถใช้เพื่อเพิ่ม porosity ในรอหุงตแบตเตอรี่กรดเพื่อประสิทธิภาพของแบตเตอรี่ไฟฟ้าและพลังงานที่สูงกว่าราคาจำหน่าย ตามรายงานในเอกสารนี้ สาร PHGM ได้ปรับปรุงจัดเก็บอิเล็กโทรและ porosity ในการหุงต อย่างไรก็ตาม nonconductive PHGMs ลดปริมาณสำคัญเศษ (CVF) ของหุงตเป็นคาดการณ์จากแบบจำลองนำ เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานอิเล็กโทรดเนื่องจาก porosity ขึ้นอาจดังนั้นบางส่วนออฟเซ็ต โดยหล่นในกำลังการผลิตเนื่องจากเศษส่วนปริมาตรที่สำคัญต่ำกว่า สมการรวมคือพัฒนาที่เกี่ยวข้อง CFV และ porosity ของอิเล็กโทรดมีจำนวน ขนาด และ porosity สารในอิเล็กโทรดที่ ประเมิน porosity จากสมการผลเปรียบเทียบพ้องต้องกันกับข้อมูลการทดลองจากแผ่นหลังสร้าง ด้วยสารเหล่านี้ มีประเมินประสิทธิภาพของหุงตมีสารจากรุ่น CVF และ porosity เป็นโดยสมการของอิเล็กโทรด มีดำเนินการทดสอบในแผ่นมี loadings ปริมาตรของ PHGMs จาก 11% เป็น 44% ของของแข็งทั้งหมดในหุงตบวกเพื่อกำหนดผลของพวกเขา utilizations วัสดุที่ใช้งานอยู่ ผลจากการปล่อยเหล่านี้มีรายงานทดสอบ และเปรียบเทียบกับแบบจำลองทฤษฎี

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

รูพรุนกลวง microspheres แก้ว (PHGMs) สามารถนำมาใช้เพื่อเพิ่มความพรุนในขั้วแบตเตอรี่ตะกั่วกรดที่จะปรับปรุงการใช้พลังงานของแบตเตอรี่และประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอัตราที่สูงกว่าการปล่อย ตามที่ได้รายงานในบทความนี้สาร PHGM ได้ปรับปรุงการจัดเก็บและอิเล็กโทรไลพรุนในขั้วไฟฟ้า อย่างไรก็ตาม PHGMs ไม่นำไฟฟ้าจะลดปริมาณส่วนที่สำคัญ (CVF) ของขั้วไฟฟ้าเป็นที่คาดการณ์จากรูปแบบการนำ การเพิ่มขึ้นของประสิทธิภาพการทำงานของอิเล็กโทรดเนื่องจากการเพิ่มขึ้นของความพรุนจึงอาจได้รับการชดเชยบางส่วนจากการลดลงของกำลังการผลิตเนื่องจากมีส่วนที่สำคัญปริมาณที่ต่ำกว่า สมการเชิงประจักษ์ได้รับการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่าง CFV และความพรุนของอิเล็กโทรจำนวนเงินที่มีขนาดและความพรุนของสารเติมแต่งในอิเล็กโทรดที่ พรุนประมาณการที่ทำจากสมการเชิงประจักษ์ในเกณฑ์ดีเปรียบเทียบกับข้อมูลการทดลองจากแผ่นประดิษฐ์ที่มีสารเหล่านี้ ประสิทธิภาพการทำงานของอิเล็กโทรดที่มีสารเป็นที่คาดกันจากแบบจำลองคอมพิวเตอร์โดยใช้ CVF ขั้วและความพรุนให้เป็นไปตามสมการ การทดสอบได้ดำเนินการบนจานที่มีปริมาณการเติม PHGMs จาก 11% เป็น 44% ของของแข็งทั้งหมดในขั้วไฟฟ้าบวกเพื่อตรวจสอบผลกระทบต่อปริมาณการใช้วัสดุที่ใช้งาน ผลที่ได้จากการทดสอบการปล่อยเหล่านี้จะมีการรายงานและเมื่อเทียบกับแบบจำลองทางทฤษฎี

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

พรุนกลวงและแก้ว ( phgms ) สามารถใช้เพื่อเพิ่มความพรุนในแบตเตอรี่ตะกั่วกรดแบตเตอรี่ขั้วไฟฟ้าเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการใช้พลังงานและพลังงานในอัตราที่สูงขึ้น ตามที่รายงานในกระดาษนี้ phgm เจือปนได้ปรับปรุงอิเล็กโทรกระเป๋า และมีรูพรุนในขั้วไฟฟ้า อย่างไรก็ตามการ phgms nonconductive ทำลดสัดส่วนปริมาตรวิจารณ์ ( cvf ) ของขั้วไฟฟ้าที่ทำนายจากแบบจำลองการนำ การเพิ่มประสิทธิภาพไฟฟ้าเพิ่มขึ้นจากรูพรุนจึงอาจจะนำเงินที่ได้จากการลดลงของความสามารถเนื่องจากการลดวิกฤติปริมาณ . สมการเชิงประจักษ์มีการพัฒนาที่เกี่ยวข้องกับ cfv และความพรุนของขั้วไฟฟ้าขนาดปริมาณ ,และความพรุนของวัตถุเจือปนในที่ขั้วไฟฟ้า รูพรุนประมาณจากสมการเชิงเปรียบเทียบกับข้อมูลจากการทดลองโดยแผ่นประดิษฐ์ที่มีสารเหล่านี้ ประสิทธิภาพของขั้วไฟฟ้าที่มีสารเติมแต่งเป็นประมาณการจากแบบจำลองคอมพิวเตอร์ที่ใช้ cvf ของขั้วไฟฟ้า และมีรูพรุนเป็นโดยสมการทดสอบในจานมีปริมาณภาระของ phgms จาก 11 ร้อยละ 44 ของของแข็งทั้งหมดในขั้วไฟฟ้าบวก เพื่อศึกษาผลของการใช้วัสดุที่ใช้งานอยู่ ผลลัพธ์จากการทดสอบเหล่านี้จะมีการรายงานและการเปรียบเทียบกับแบบจำลองทางทฤษฎี